กองปราบฯ รวบแก๊งคนไทย-ไต้หวัน อุ้มนักธุรกิจไต้หวันรีดเงิน 30 ล้าน
เผยอ้างตัวเป็นตร. ลวงเหยื่อเจ้าของธุรกิจเสื้อผ้ารวม 5 คนพ่อแม่ลูก จากสุวรรณภูมิไปกักขังแล้วขู่เรียกเงิน ออกอุบายเหยื่อมีปัญหาเรื่องคดีความให้หาเงินมาเรียกค่าไถ่ สุดท้ายโดนจับกุมได้ทั้งแก๊งรวมผู้ต้องหา 6 คน หลังสถานกงสุลไต้หวันประสานขอความช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ธ.ค. ที่กองปราบปราม พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รรท. ผบก.ป.
ร่วมแถลงข่าวจับกุมแก๊งคนร้ายที่ก่อเหตุลักพาตัวชาวไต้หวันไปเรียกค่าไถ่ ได้ผู้ต้องหา 6 คน ประกอบ ด้วย นายอำพล แซ่หว่าง อายุ 20 ปี นายศราวุธ แซ่หยาง อายุ 23 ปี นายเฉิน จื้อ เหวิ่น อายุ 23 ปี สัญชาติไต้หวัน นายสมุทร หยางยิง อายุ 28 ปี นายจาง จา หลุน หรือต้าเกอ อายุ 30 ปี สัญชาติไต้หวัน และนายชิงฉาง แซ่หลี อายุ 26 ปี สัญชาติไทย พร้อมของกลาง เครื่องซีพียูและจอคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 ตัว เครื่องเล่นดีวีดี 1 เครื่อง เงินสด 1 หมื่นบาท กระเป๋าเดินทาง 4 ใบ หนังสือเดินทางไต้หวัน 3 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง โซ่พร้อมแม่ กุญแจ และอุปกรณ์การเล่นพนันอีกจำนวนหนึ่ง จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่ห้างบิ๊กซี สาขาลาดพร้าว ผู้ต้องหาที่ 2-3 จับได้ที่บ้านเลขที่ 1471/20 ถ.พัฒนาการ ซ.31/1 แขวงพัฒนาการ เขตสวน หลวง ผู้ต้องหาที่ 4-5 จับได้ที่ริมถนนศรีนครินทร์ ส่วนผู้ต้องหาที่ 6 จับได้ที่บ้านเลขที่ 59/169 หมู่บ้านกลางเมือง ถนนศรีนครินทร์ ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากชุดสืบสวนกก.1 บก.ป. ที่นำโดย
พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.ช่วยราชการ กก.1 บก.ป. พ.ต.ต.นิคม ชัยเจริญ พ.ต.ต.ศานุวงศ์ คงคาอินทร์ สว.ฯ รับแจ้งจากสถานกงสุลไต้หวัน ในประเทศไทย ว่ามีทั้งคนไทยและชาวไต้หวันก่อเหตุลักพาตัวครอบครัวชาวไต้หวันทั้งหมด 5 คน ไปเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 30 ล้านบาท ส่วนพฤติกรรมทราบว่าคนร้ายได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ตำรวจไต้หวัน และตำรวจจีน มาหลอกพาเหยื่อไปจากสนามบินสุวรณภูมิ แล้วนำตัวไปกักขัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา
จับยกแก๊งไทย-ไต้หวัน รีด30ล้านนักธุรกิจจีน
ต่อมาจากการสืบสวนได้ทราบชื่อผู้เสียหายทั้ง 5 คน
คือ นายเติ้น ลี่ เหวย อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นนักธุรกิจค้าเสื้อผ้า นางสี อี้ เฟิน อายุ 36 ปี ภรรยาของนายเติ้น ด.ญ.เติ้น อี้ แจ้ อายุ 9 ขวบ ด.ช.เติ้น อี้ ถิง อายุ 7 ขวบ บุตรชายและบุตรสาว และนางหย่วน อี้ อิง อายุ 58 ปี มารดาของนายเติ้น โดยทราบต่อมาวันเกิดเหตุนายเติ้นและภรรยาได้เดินทางมาถึงประเทศไทยก่อน ซึ่งคนร้ายมีข้อมูลว่าผู้เสียหายเป็นคนมีฐานะดี ที่เดินทางมาเที่ยวและเพื่อหาช่องทางทำธุรกิจในเมืองไทย จึงทำทีเข้าไปอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ แจ้งว่า นายเติ้นมีปัญหาและมีคดีติดตัว พร้อมกับนำตัวนายเติ้น อลัภรรยาไปกักขังไว้ที่บ้านเลขที่ 59/169 หมู่บ้านกลางเมือง ถนนศรีนครินทร์ ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
ต่อมาวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 25 พ.ย. นายซู ยู ติง คนร้าย พานางสี อี้ เฟิน เดินทางไปที่ประเทศสิงคโปร์
เนื่องจากผู้เสียหายยังมีธุรกิจอยู่ที่ประเทศดังกล่าว เพื่อให้ไปหาเงินมาเป็นค่าไถ่ นอกจากนี้คนร้ายยังติดต่อให้ญาติของนายเติ้นที่ไต้หวันโอนเงินค่าไถ่มาให้ก่อน 2 ครั้ง ครั้งละ 4.5 แสนบาท โดยในวันเดียวกันคนร้ายยังรู้ว่านายหย่วน พร้อมลูกชายลูกสาวของนายเติ้น จะเดินทางตามมาที่เมืองไทยด้วย จึงไปดักพาตัวออกมาจากสนามบิน ก่อนนำตัวไปกักขังไว้ที่บ้านเลขที่ 1471/20 ถนนพัฒนาการ ซอย 31/1 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ระหว่างที่รอเงินค่าไถ่ คนร้ายได้ทำร้ายร่างกายนายเติ้นมาตลอด เพื่อบีบบังคับให้รีบหาเงินมาเป็นค่าไถ่ตัวเอง
ภายหลังจากที่ชุดสืบสวนทราบเรื่อง สืบสวนเพื่อติดตามมาตลอด โดยได้ระมัดระวังไม่ให้ข่าวรั่ว
เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับตัวประกัน รวมทั้งประสานไปยังประเทศสิงคโปร์ เพื่อให้เข้าไปดูแลภรรยาของนายเติ้นด้วย กระทั่งมีข้อมูลว่าเหยื่อถูกนำตัวไปกักขังไว้ที่ไหน จึงวางแผนเข้าช่วยเหลือและจับกุมคนร้ายไว้ได้ทั้งหมด เบื้องต้นพบผู้เสียหายมีอาการอ่อนเพลียและอยู่ในอาการหวาดกลัวตลอดเวลา จึงพาผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย ซึ่งพบว่าทั้งหมดยังสุขภาพแข็งแรง
พล.ต.ท.ไถง กล่าวเพิ่มว่า เหตุที่เกิดขึ้นนี้เข้า ใจว่าคนร้ายน่าจะวางแผนมาอย่างดีและติดตามความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายก่อนจะเดินทางมาประเทศไทย
โดยเชื่อว่าน่าจะยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายราย ส่วนกลุ่มที่ลงมือก่อเหตุในประเทศไทยขณะนี้จับกุมไว้ได้ทั้งหมด เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นและเอาตัวเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่
สอบสวนนายอำพล นายศราวุธ และนายเฉิน จื๊อ เหวิ่น ให้การรับสารภาพว่า อ้างตัวเป็นตำรวจไทยและตำรวจไต้หวัน
มีหน้าที่ไปนำตัวเหยื่อจากสนามบินไปกักขัง ส่วนนายสมุทร และนายจาง จา หลุน ที่อ้างตัวเป็นตำรวจจีนให้การปฏิเสธ และจากการตรวจสอบประวัติของนายจาง เคยต้องโทษคดียาเสพติดมาก่อนหน้านี้อีกด้วย ทั้งนี้ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบ สวน บก.ป.ดำเนินคดีต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างแถลงข่าวอยู่นั้น เจ้าหน้าที่พาผู้เสียหายทั้งหมดเดินทางมาเพื่อชี้ตัวกลุ่มผู้ต้องหา ทันทีที่นางสี อี้ เฟิน พร้อมหลานๆ ได้พบหน้านายเติ้นถึงกับร้องไห้และโผเข้าสวมกวดด้วยความดีใจที่ได้พบหน้ากันอีกครั้ง