ที่แท้ฝีมือเพื่อน ลวงฆ่านศ.สาว ชิงวีออส

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. พล.ต.ต.ชาญ ชุณหวงศ์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์  แถลงข่าวการจับกุมนายกฤษณ์ โพธิ์เกตุ อายุ 30 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 181 หมู่ 4 ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ และนายอดิพงษ์ บุญเพ็ชร์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 796 หมู่ 9 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 2 ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าน.ส.ประไพ หรือแจง น้อยใย อายุ 25 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 7 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร เมื่อเช้ามืดวันที่  8 ธันวาคม ที่ผ่านมา พร้อมของกลาง รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้าวีออส สีดำ ทะเบียนป้ายแดงปลอม ฐ9239 กรุงเทพมหานคร 1 คัน โทรศัพท์ยี่ห้อโนเกีย และเครื่องช็อตไฟฟ้า แบบมือถือ อย่างละ 1 เครื่อง

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ถูกเจ้าหน้าที่ชุด ฉก.บกภ.จว.นครสวรรค์ จับกุมในข้อหายาเสพติด

ประกอบกับมีสายจากตำรวจนายหนึ่งได้รายงานให้เจ้าหน้าที่ชุด ฉก.บกภ.จว.นครสวรรค์ ว่านายกฤษณ์ 1 ในผู้ต้องหา มักมีพฤติการณ์มายืมเงินเป็นประจำ  แต่ระยะหลัง มีเงินใช้ และมีรถยนต์เก๋งขับ จนผิดสังเกต จึงได้ตรวจสอบเลขตัวเครื่องยนต์รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าวีออส สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ฐ9239 กรุงเทพมหานคร ที่นายกิจขับอยู่นั้น จนทราบว่า รถเป็นของน.ส.ประไพ ที่มีทะเบียนจริง คือ กค7729 กำแพงเพชร จึงคุมตัวไปเค้นสอบอย่างหนัก จนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ร่วมกันฆ่าผู้ตาย แล้วนำศพไปทิ้งไว้ที่ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี

ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ฉก.บกภ.จว.นครสวรรค์ ติดต่อเจ้าหน้าที่ สภ.หนองหญ้าไซ และนำตัวนายกิจกับนายอดิพงษ์ ไปชี้จุดที่ทิ้งศพ

จนพบว่ามีศพหญิงสาวจริงตามคำให้การ จึงได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี และนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้องกิดเหตุ เลขที่ 30 โรงแรมบ้านเฮา ถ.อัมรินวิถี ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ นายกฤษณ์ สารภาพว่า ได้ร่วมกันกับนายอดิพงษ์ ฆ่าน.ส.ประไพจริง โดยวันเกิดเหตุล่อลวงผู้ตายซึ่งเป็นเพื่อนกัน มาอัพยาที่โรงแรมบ้านเฮา ระหว่างที่กำลังอัพยากันอย่างสนุกสนาน  เพื่อนตนได้โทรศัพท์มาว่า มีลูกค้าต้องการรถยนต์เก๋งยี่ห้อและสีเดียวกับของผู้ตาย ตนจึงได้พูดคุยกับนายอดิพงษ์ แล้วจึงตัดสินใจนำเครื่องช็อตไฟฟ้าที่เตรียมมาด้วย ช็อตผู้ตายจนหมดสติคาเตียง จากนั้นจึงได้นำสายชาร์จโทรศัพท์มือถือ มามัดมือมัดขาผู้ตาย แล้วอุ้มขึ้นรถเก๋งเดินทางไปที่ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี เมื่อถึงจุดหมายจึงนำร่างของผู้ตายไปฆ่า ด้วยการกดหัวลงน้ำ แล้วโยนศพทิ้งไว้ใกล้ที่บริเวณดังกล่าว หลังก่อเหตุ ตนและนายอดิพงษ์ ได้แยกย้ายกันหลบหนี โดยได้นำโทรศัพท์ของผู้ตายไปด้วย ส่วนรถยนต์เก๋งของผู้ตายนั้น อยู่ระหว่างรอส่งลูกค้าแต่ถูกจับกุมเสียก่อน เจ้าหน้าที่จะสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมแก๊งจารกรรมรถและผู้ร่วมขบวนการต่อไป