กมธ.ตร.ฉุนสารวัตรมือตบ'อาม่า'กร่างไม่เลิก (เดลินิวส์)
ถ่ายรูปสื่อ-ขอรายชื่อ กมธ. ไว้ดูเล่น ด้านเฉลิมชัยเชื่อไม่ธรรมดา ยืนยันติดตามเรื่องให้ถึงชั้นศาล
วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการตำรวจสภาฯ ที่มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณี นายยุทธนา กลิ่นขจร และ น.ส.ธนิดา ศรีสุวรรณ หรือ "อาม่า" ที่ถูกกลุ่มบุคคลซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมอยู่ด้วยทำร้ายร่างกายบน สน.เพชรเกษม จนทำให้เกิดความหวาดกลัว และไม่ได้รับความปลอดภัย ซึ่งที่ประชุมได้เชิญคู่กรณีทั้งอาม่า คือ น.ส.ธนิดา และ พ.ต.ท.อรรถวุฒิ กิจคาม สวป.สภ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร รวมทั้ง ส.ต.ท.ภาณุพันธ์ กิตติชัยเดช กก.3บก.บก.ตปพ.(191) ผู้ถูกร้อง พร้อมด้วย พล.ต.ต.ลัทธสัญญา เพียรสมภาร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.น.9 พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภว.สกลนคร ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และพ.ต.ท.สุคนธ์ พัฒน์มณี รักษาการผกก.สภ.เจริญศิลป์ มาให้ข้อมูล
โดย น.ส.ธนิดา ได้นั่งรถเข็นผู้ป่วยมาให้ปากคำในสภาพที่ยังบอบช้ำให้การไม่ได้ และได้มอบหมายให้นายยุทธนา กลิ่นขจร บุตรเขย เป็นผู้ให้การแทน ทั้งนี้ในระหว่างที่ น.ส.ธนิดาและบุตรเขยเดินผ่าน 2 ตำรวจคู่กรณี ทางอาม่าได้ยกมือไหว้ทันที ก่อนที่จะเข้าไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการฯ ทั้งนี้นายยุทธนา ได้ลำดับเหตุการณ์ที่ถูกรุมยำบน สน.เพชรเกษม พร้อมทั้งยืนยันว่า น.ส.ธนิดา หรือ อาม่า มีความขัดแย้งกับลูกสะใภ้เรื่องบ้านจริง กรณีที่ถูกทำร้ายก็ไม่อยากที่จะเอาความ เพราะเกรงจะมีปัญหา เนื่องจากขณะนี้ครอบครัวของตนได้ถูกฝ่ายตรงข้ามติดตามอย่างใกล้ชิด เมื่อคณะกรรมาธิการฯได้รับฟังคำชี้แจง ทำให้ต่างงุนงงว่าเหตุใดจึงจะยอมความกันได้ง่าย ๆ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวเป็นคดีความทางอาญาแล้ว จึงได้สอบถามเหตุสาเหตุของการเปลี่ยนใจ
กมธ.ตร.ฉุนสารวัตรมือตบอาม่ากร่างไม่เลิก
จากนั้น พ.ต.ต.อรรถวุฒิ พร้อมด้วยส.ต.ท.ภาณุพันธ์ ได้เข้าชี้แจงเป็นลำดับต่อไป โดยก่อนการชี้แจง พ.ต.ต.อรรถวุฒิ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปสื่อมวลชนทุกคนที่เข้ามารับฟังการชี้แจง และยังได้เอ่ยปากขอรายชื่อคณะกรรมาธิการการตำรวจฯทุกคน โดยให้เหตุผลว่า เป็นการใช้สิทธิ์ป้องกันตัวเองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 40 และไม่ขอชี้แจงในชั้นกรรมาธิการฯทุกเรื่อง โดยจะขอใช้สิทธิ์ไปชี้แจงในชั้นศาล พ.ต.ต.อรรถวุฒิ กล่าวต่อกรรมาธิการฯ ด้วยว่า ผู้ใหญ่ใน สตช.ได้กำชับไม่ให้ตนพูดหรือแสดงความคิดเห็นอะไร ก่อนหน้านี้ตนเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวกับรูปคดี และมีลักษณะเหมือนกันจัดฉาก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่ได้รับฟังข้ออ้างของ พ.ต.ต.อรรถวุฒิแล้ว ทำให้กรรมาธิการฯ หลายคนแสดงความไม่พอใจต่อพฤติกรรมของนายตำรวจผู้นี้ โดยเฉพาะนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ต่อว่ากลางที่ประชุมว่า พฤติกรรมของ พ.ต.ต.อรรถวุฒิ และ ส.ต.ท.ภาณุพันธ์ แยกไม่ออกระหว่างหน้าที่ตำรวจและเรื่องส่วนตัว ถ้ายังเป็นตำรวจต่อไปเชื่อว่าไปไม่รอดแน่
ขณะที่ พล.ต.ต.ดิสสทัต ภิริปโชติ ที่ปรึกษา กมธ.และอดีตผู้ช่วย ผบช.น. กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นอดีตนายตำรวจ ยังรู้สึกอับอายกับการแสดงพฤติกรรมยโสโอหังเช่นนี้ ทั้งนี้ตัวเองเป็นเพียงแค่ "เด็กหัวฝน" ใครแตะนิดหน่อยก็ฟัดทันที ถ้าอยู่ในหน้าที่ราชการต่อไปคงไปไม่รอด เมื่อถูกกรรมาธิการฯ ต่อว่าเช่นนี้ ก็ทำให้พ.ต.ต.อรรถวุฒิ ถึงกับยกมือไหว้โดยให้เหตุผลว่า ที่แสดงพฤติกรรมโผงผาง เพราะถูกซัก ถูกกดดัน ทำให้อารมณ์ไม่ค่อยดี กลไกทางจิตจึงตอบโต้ออกไป
ด้านพล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภ.จว.สกลนคร ชี้แจงว่า ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ขณะนี้มีข้อมูลที่จะดำเนินการได้ แม้ว่าตนจะมีอำนาจสั่งปลดออกจากราชการได้ แต่สำหรับนายตำรวจคนนี้ต้องตั้งการ์ดแน่นพอสมควร เพราะไม่ธรรมดา ทำอะไรจึงต้องครบถ้วนรัดกุม อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.อุดม ได้ชี้แจงกรณีที่เคยออกมาการันตีว่า พ.ต.ต.อรรถวุฒิ มีประวัติดี ได้เลื่อนตำแหน่ง 2 ขั้นมาตลอดว่า เมื่อเกิดเรื่องขึ้นทุกฝ่ายก็โยนกลับมาที่ จ.สกลนคร ทั้งหมดทั้งที่นายตำรวจคนดังกล่าวถูกขอตัวไปช่วยราชการที่ สตช. ตนจึงตอบไปตามข้อมูลที่ปรากฏเพราะได้ดูประวัติแล้วก็เหตุว่าพอสมควรอยู่ แต่พฤติกรรมจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง
ภายหลังการชี้แจง นายเฉลิมชัย ประธานคณะกรรมาธิการฯการตำรวจ สภาฯ กล่าวว่า จะทำหนังสือถึงสตช.เพื่อขอกำลังตำรวจมาดูแลคุ้มครองพยาน เนื่องจากเพียงแค่รับฟังคำชี้แจงของ พ.ต.ต.อรรถวุฒิมาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ทำให้พอทราบว่าไม่ธรรมดา แม้แต่กรรมาธิการฯ เองยังไม่กล้าจะมอบรายชื่อให้ตามที่ขอ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเหมือนกัน และยืนยันจะติดตามเรื่องนี้ต่อไปจนถึงชั้นศาล