 |
ชาวนาชาวไร่สูญเสียทรัพย์สินกันมานักต่อนัก!?!
ไม่นานมานี้ตำรวจสืบสวนภาค 4 จับแก๊งโจรขโมยอุปกรณ์การเกษตรเอาไว้ได้อยู่หมัด ได้ผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางเป็นเครื่องรถไถนาอีกมากมาย โดยคนร้ายแก๊งนี้ทำงานเป็นทีม เช่ารถกระบะตระเวนก่อเหตุถอดเครื่องรถไถนาที่จอดอยู่ตามท้องไร่ท้องนาในหลายจังหวัดทั่วภาคอีสาน พอได้มาก็นำไปขายต่อให้ชาวบ้านในราคาเครื่องละไม่กี่พัน แถมยังทำหนังสือสัญญาปลอมขึ้นมาเพื่อหลอกคนซื้อว่าได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
แต่แล้วก็หนีคุกไปไม่ได้
ย้อนไปดูเบื้องหลังการจับกุมแก๊งลักเครื่องคูโบต้า เริ่มขึ้นวันที่ 5 ธ.ค. วันนั้นตำรวจสภ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี จับกุมนายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ขณะกำลังแอบถอดนอตลักเครื่องยนต์สูบน้ำคูโบต้าของชาวนาในอ.ศรีธาตุ เอาไว้ได้อย่างคาหนังคาเขา ซึ่งการจับกุมครั้งนี้มีพรรคพวกของมัน 2 คน หลบหนีตำรวจไปได้อย่างหวุดหวิด วิ่งไปขึ้นรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ หมายเลขทะเบียน กจ 4271 อุดรธานี ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งนายเอ็มถูกจับแต่เพียงผู้เดียว
 |
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบสวนขยายผล
ตำรวจโรงพักศรีธาตุรีบประสานไปยังชุดสืบสวนบก.สส.ภ.4 ให้ช่วยตามล่าคนร้าย เนื่องจากนายเอ็มให้การว่าลงมือลักเครื่องมือทำนามาแล้วในหลายท้องที่ทั่วภาคอีสาน
คดีนี้เป็นคดีที่น่าสนใจ เนื่องจากคนร้ายขโมยได้แม้กระทั่งเครื่องมือทำมาหากินของเกษตรกร พล.ต.ต.สันติ เพ็ญสูตร รรท.ผบช.ภาค 4 พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รรท.รองผบช.ภาค 4 จึงสั่งการไล่ล่าคนร้าย มอบหมายให้ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.ศสส.ภาค 4 พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.สส.1 บก.สส.ภาค 4 พ.ต.ท.ณัฐนนท์ ประชุม พ.ต.ท.ไพโรจน์ แสงอรุณ รอง ผกก.ฯ จัดกำลังตามล่าคนร้ายมาดำเนินคดี
แผนแกะรอยโจรจึงเริ่มขึ้นทันที
ตำรวจใช้เวลาแกะรอยอยู่ไม่นาน เช็กดูเลขทะเบียนรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ ที่คนร้ายใช้งาน ทะเบียน กจ 4271 อุดรธานี ก็รู้ทันทีว่าเป็นรถของนายสุรพงษ์ เอี่ยมป้อง อายุ 23 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 182/1 หมู่ 1 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ที่มาหากินเป็นมิจฉาชีพอยู่แถวนี้ ส่วนคนร้ายอีกคน คือ นายอเนก จันล้วน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 2 ต.บ้านฝาง อ.สระใคร จ.หนองคาย เพื่อนร่วมแก๊งที่ลงมือก่อเหตุในหลายท้องที่
 |
เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานได้ ตำรวจสืบสวนภูธร ภาค 4 เสนอขออนุมัติออกหมายจับกุมทันที ชุดทำงานของกก.1 บก.สส.ภ.4 สืบทราบมาว่า
นายสุรพงษ์ หลบหนีไปอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งในต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมเอาไว้ได้ พร้อมด้วยของกลางเป็นรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ ที่ใช้งาน โดยที่ฝากระโปรงหลังคนร้ายเก็บเครื่องมือถอดลักเครื่องยนต์คูโบต้าเอาไว้ในนั้น ประกอบด้วย ประแจปากตาย 8 ตัว ไขควง 2 อัน ใบเลื่อยตัดเหล็ก 1 อัน นอกจากนี้ ยังยึดหนังสือสัญญาซื้อขายเครื่องคูโบต้า 15 ชุด ที่คนร้ายทำปลอมขึ้นมาเพื่อหลอกคนซื้อ ว่าเครื่องรถไถนาเหล่านี้ได้มาโดยถูกต้อง หลังจากนั้นจึงให้คนร้ายนำไปตรวจยึดเครื่องรถไถนาของกลางอีกมากมายที่เตรียมนำออกขาย ส่วนนายเอนกเพื่อนร่วมแก๊งซัดทอดว่าหลบหนีไปอยู่ที่บ้านหนองบัว ต.บ้านฝาง อ.สระใคร จ.หนองคาย ตำรวจจึงตามไปจับกุมตัวไว้
ตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์เครื่องมืออันมีไว้ประกอบอาชีพกสิกรรมในเคหสถานในเวลากลางคืนทันที
จากการสอบสวนนายสุรพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า
ร่วมกับนายอเนกและนายเอ็ม ก่อคดีลักษณะเดียวกันนี้ตั้งแต่เดือนพ.ค. โดยตระเวนลักเครื่องยนต์คูโบต้าทั่วภาคอีสาน เช่นที่ จ.อุดรธานี หนองคาย หนองบัว ลำภู เลย ได้เครื่องยนต์คูโบต้าไปแล้วไม่ต่ำกว่า 40 เครื่อง หลังจากลักเครื่องยนต์มาแล้ว จะนำไปติดต่อขายให้ชาวบ้านทั่วไป ในราคาเครื่องละ 7,000-10,000 บาท โดยทำสัญญาซื้อขายปลอมขึ้นมาหลอกผู้รับซื้อว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับวิธีการของแก๊งคนร้าย จะรวมหัวกันเช่ารถกระบะตามร้านรับเช่ารถในจ.อุดรธานี ราคาวันละ 1,000 บาท เพื่อใช้เป็นพาหนะตระเวนลักเครื่องยนต์คูโบต้า แต่ต่อมาได้พัฒนาเปลี่ยนมาใช้รถยนต์เก๋งแทน เพราะสามารถตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดีกว่าหากเจอด่านตรวจหรือจุดสกัด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้นายสุรพงษ์ และนายอเนก พาไปตรวจยึดเครื่องยนต์ที่ลักมาแล้วนำไปจำหน่ายให้ชาวบ้าน สามารถตรวจยึดกลับคืนมาได้จำนวน 26 เครื่อง ยึดเป็นของกลาง 14 เครื่อง และรอตรวจสอบอีก 12 เครื่อง ซึ่งทางบก.สส.ภ.4 ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตพื้นที่จ.อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู และจ.เลย แจ้งให้ผู้เสียหายที่เคยถูกลักเครื่องยนต์มาตรวจดูเพื่อดำเนินการต่อไป
ใครสงสัยตกเป็นเหยื่อขอดูตัวได้ที่บก.สส.ภ.4
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
