"ภาณุพงศ์" ส่งชุดสืบสวนมือดีบุกบ้านบึง เคลียร์ชนวนผลประโยชน์ตลาดที่บ้านบึง รุดสอบ"เสี่ยเอี๋ยว"น้องบุญธรรมของ"เฮียประโยชน์" ไปจนถึงลูกสาวเสี่ยเอี๋ยวและ"ผู้พัน"ที่เคยลั่นวาจาจะจัดการสุนัทที ทั้งหมดยืนยันสำนึกในบุญคุณของเสี่ยโยชน์ไม่กล้าทำอะไรนางสุนัททีลูกสะใภ้แน่นอน ไม่เคยมีจดหมายขู่ฆ่า แค่จดหมายระบายความน้อยใจ จึงเริ่มให้น้ำหนักในประเด็นนี้น้อยลง แต่ไม่ทิ้งเรื่องขัดแย้งกับญาติพี่น้องบางคนในตระกูลเนื่องจำนงค์ เรื่องทรัพย์สินและเพชรมูลค่านับสิบล้านที่หายไป จัดทีมจำลองเหตุการณ์สังหาร ตั้งแต่มานอนผูกเปลดูลาดเลา ไปจนถึงนาทีลั่นไก เพื่อวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของคนร้าย ประสานการเร่งตรวจซุ้มมือปืนตะวันออกและเพชรบุรี
จากเหตุการณ์มือปืนสังหารนางสุนัทที เนื่องจำนงค์ สาวไฮโซนักธุรกิจชื่อดัง ประธานบริษัท ไพรม์ เนเจอร์ กรุ๊ป ต่อมาตำรวจพบปมขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ในหมู่ญาติที่บ้านบึง จ.ชลบุรี ไปจนถึงปมขัดแย้งผลประโยชน์ในธุรกิจบ้านจัดสรรพันล้าน ซึ่งนางสุนัททีมีปัญหากับผู้รับเหมาหลายราย โดยพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รรท.ที่ปรึกษา สบ10 ผู้ควบคุมคดี ได้มอบหมายให้พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อมด้วยทีมสืบสวนของนครบาล กองปราบฯและสันติบาล แบ่งสายออกสืบสวนสอบสวนเพื่อเคลียร์ประเด็นสงสัยในทุกประเด็น ไปจนถึงติดตามมือปืนตามซุ้มสงสัย เน้นที่ซุ้มภาคตะวันออกและซุ้มเพชรบุรี ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบริมถนนสุขาภิบาล 2 ปากซอย 11 แขวงประวศ เขตประเวศ กทม.
ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายลงมือยิงนางสุนัทที อีกครั้ง พบว่า มีผู้นำขวดน้ำส้มยี่ห้อแฟนต้า ใส่หลอดดูดมาวางไว้เซ่นวิญญาณตรงป้ายบอกทางเข้าซอย 16 ซึ่งหักหล่นลงมาจากการที่รถผู้ตายไหลไปชนขณะถูกยิง ป้ายดังกล่าว ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน
เมื่อเข้าไปตรวจสอบในซอย 11 แยก 2 เป็นไซต์งานที่กำลังก่อสร้างร้านคาร์แคร์ และลานจอดรถ
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางทำธุรกิจที่นาง สุนัทที กำลังจะดำเนินการ บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ติดกันกับร้านอาหารครัวสามครก ซอย 11 จากการสอบถามกลุ่มคนงานให้ข้อมูลว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยงาน ย้อนกลับมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และพาตัวคนงานไปสอบปากคำทุกวัน โดยเชื่อว่าพยานปากสำคัญที่เห็นหน้าคนร้ายและถูกคนร้ายข่มขู่ด้วยสายตาขณะกำลังซ้อนรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 100 สีเข้ม สภาพเก่าหลบหนีไปนั้น น่าจะเป็นคนงานก่อสร้างในไซต์งานแห่งนี้
เวลา 12.20 น. วันเดียวกัน พ.ต.ต.จารุวัตร พาหุมันโต สว.กก.1 บก.ป.ได้นำเจ้าหน้าที่กองปราบปราม มารวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และจำลองเหตุการณ์ ณ จุดเกิดเหตุ แต่เมื่อพบว่า
มีผู้สื่อข่าวมาเฝ้ารอทำข่าวอยู่ก่อนแล้ว จึงรีบนำกำลังขึ้นรถกลับไป ซึ่งในขณะนั้นมีรายงานว่าขวดน้ำส้มยี่ห้อแฟนต้า ซึ่งมีผู้นำมาวางไว้เซ่นวิญญาณตรงป้ายบอกทางเข้าซอย 16 สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่กองปราบฯเดินทางกลับไป ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มีเจ้าหน้าที่ชุด ศสส.บช.น.มาตรวจสอบที่เกิดเหตุและเรียกตัวคนงานก่อสร้างสอบปากคำอีก โดยนายตำรวจหัวหน้าชุดเปิดเผยเพียงว่า มาตามคำสั่งของ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รรท.ที่ปรึกษา (สบ10) ซึ่งเป็นผู้ควบคุมคดี
ต่อมาเวลา 15.00 น. ตำรวจกก.สส.บก.น.4 หลายนาย มาที่จุดเกิดเหตุเพื่อจำลองเหตุการณ์ ก่อนที่คนร้ายจะลงมือยิงนางสุนัทที และหลังจากยิงแล้ว เพื่อจำลองเวลาและจุดที่คนร้ายเฝ้าดู เริ่มจากจุดที่คนร้ายมาผูกเปลนอน เพื่อเฝ้าติดตามเวลาเข้าออกจากสำนักงานของนางสุนัทที จากนั้นเป็นช่วงที่นางสุนัทที ขับรถยนต์ออกจากหมู่บ้าน ผ่านจุดที่คนร้ายอีกคนผูกเปลนอนรออยู่ ก่อนที่คนร้ายจะโทรศัพท์ไปหามือปืน แล้วขับรถจักรยานยนต์ตามรถของนางสุนัทที จากนั้นเป็นจุดที่คนร้ายซึ่งนั่งซุ่มอยู่ริมถนนเดินเข้ามาใช้อาวุธปืนยิงนางสุนัทที ที่กำลังเลี้ยวรถออกจากปากซอย ซึ่งทุกขั้นตอนเจ้าหน้าที่ได้จับเวลา ถ่ายวิดีโอ บันทึกขั้นตอนไว้ทั้งหมด
เสี่ยเอี๋ยว-ผู้พันเคลียร์ โต้ฆ่าสนัทที
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุนางสุนัทที ได้เดินทางไปที่ จ.ชลบุรี
นานถึง 3 วัน ก่อนจะเดินทางกลับมาที่หมู่บ้านไพร์ม เนเจอร์ วิลล่า และขับรถกลับออกมาจากหมู่บ้านจนมาถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าวนั้น คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะต้องมีคนรู้ความเคลื่อนไหวของนางสุนัทที เป็นอย่างดี คอยรายงานให้มือปืนทราบเป็นระยะว่า นางสุนัททีกำลังจะเดินทางออกจากหมู่บ้าน เพราะปกตินางสุนัททีจะเข้าไปในหมู่บ้านไม่เป็นเวลา ยากแก่การคาดเดาของคนร้ายว่านางสุนัททีจะเข้าหรือออกหมู่บ้านในเวลาเท่าใด หากมีคนคอยรายงาน จะง่ายกว่าการเฝ้าสังเกตอย่างเดียว
วันเดียวกัน ที่กองปราบปราม พ.ต.อ. สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รรท. ผบก.ป. กล่าวว่า
ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนกองปราบฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องทุกวัน ทั้งบริเวณจุดเกิดเหตุ บ้านพักของผู้ตาย รวมทั้งที่ตลาดหนองชาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เบื้องต้นได้เก็บหลักฐานในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุและจุดที่คาดว่าคนร้ายผูกเปลนอนเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวของนางสุนัทที อาทิ กล่องนม แก้วน้ำ ซองถุงขนม มาตรวจสอบ โดยได้ส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไปแล้ว ร่วมทั้งยังตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุย้อนหลังไป 1 เดือน ว่าจะสามารถจับภาพของคนร้ายได้หรือไม่
พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวต่อว่า
นอกจากนี้ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่ให้ไปตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกของรถยนต์บีเอ็มดับบลิว ซีรีส์ 7 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌต 356 กทม. ของนาง สุนัทที ว่าอาจมีร่องรอยอะไรที่น่าจะเกี่ยวข้องกับรูปคดีบ้าง รวมทั้งยังได้ให้ตรวจสอบระบบ GPRS ของรถด้วยว่าก่อนเกิดเหตุนางสุนันที ขับรถยนต์คนดังกล่าวไปมาที่ไหนอย่างไร โดยเฉพาะในช่วงเวลาก่อนที่จะเดินทางมาพบจุดจบ สำหรับกลุ่มมือปืนนั้นทางกองปราบฯเองก็มีบัญชีรายชื่อมือปืนอยู่แล้ว เชื่อว่ารายนี้จะเป็นมืออาชีพ ที่ทำงานได้แน่นอน มีการเตรียมการมาอย่างดี และทิ้งร่องรอยไว้น้อยมาก ในขณะนี้กำลังตรวจสอบประวัติมือปืนทั้งหมด ส่วนสาเหตุขณะนี้ยังคงให้น้ำหนักไปที่ปมขัดแย้งจากธุรกิจตลาดที่ จ.ชลบุรี มากที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า
วันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 ป. สั่งการให้พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผกก.ช่วยราชการ บก.ป. พ.ต.ท.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน สว.กก.1 ป. ร.ต.อ.ศราวุธ ปรีดากร รอง สว.ฯ พร้อมกำลังออกเดินเท้าเพื่อตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ และพื้นที่ใกล้เคียงอีกครั้ง
สำหรับครั้งนี้เจ้าหน้าที่เน้นไปที่การตรวจสอบห้องพัก คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ และห้องเช่าต่างๆ ภายในรัศมี 2 ก.ม. จากจุดที่เกิดเหตุ ทั้งนี้เนื่องจากการตรวจสอบแผนประทุษกรรมของคนร้าย และจากการสอบปากพยานแวดล้อม แล้วน่าเชื่อว่าคนร้ายอาจติดตามผู้ตายมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ว่า แต่ละวันผู้ตายมีการเคลื่อนไหว เดินทางไปที่ไหนบ้าง เพื่อหาจุดที่ดีที่สุดในการลงมือ จึงเป็นไปได้ว่ากลุ่มคนร้ายอาจจะต้องหาเช่าห้องพักที่ใกล้เคียงจุดที่เกิดเหตุ เพื่อเตรียมแผนล่วงหน้าก่อนจะลงมือ
นอกจากนี้วันเดียวกัน พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รรท.ผบก.จต.9 ยังได้เดินทางลงพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจสอบปมขัดแย้งในเรื่องงานก่อสร้างสาธารณูปโภคของโครงการบ้านหรูไพรม์ เนเจอร์ วิลล่า หัวหิน ว่ามีปมขัดแย้งในเรื่องใดบ้าง เพื่อจะได้ตัดประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป ขณะเดียวกันก็ออกหาข่าวตามกลุ่มอิทธิพล และซุ้มมือปืนในพื้นที่จ.เพชรบุรี เพิ่มเติมด้วยว่าหลังเกิดเหตุกลุ่มใดมีความเคลื่อนไหวบ้าง
รายงานข่าวแจ้งว่า
สำหรับการติดตามหาตัวมือปืนที่สังหารนางสุนัทที ชุดสืบสวนที่เข้ามาร่วมทำคดีประกอบไปด้วย ชุดสืบสวนจาก กองปราบปราม ศูนย์สืบสวนบช.น. บก. สส.น.4 สืบสวนสน.อุดมสุข และชุดสืบสวนของพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. ยังคงใช้ความพยายามแกะรอยเพื่อหาหลักฐาน นำไปเป็นตัวเชื่อมโยงถึงมือปืนภายหลังชุดคลี่คลายพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนในเขตพื้นที่จ.เพชรบุรี
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า สำหรับประเด็นความขัดแย้งเกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้ภายในตลาด 2 แห่งในอ.บ้านบึง คือ ตลาดเนื่องจำนงค์ และตลาดหนองชากนั้น ชุดสืบสวนเริ่มลดน้ำหนักลงแล้ว โดยในวันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ มอบหมายให้ พล.ต.ต.ปรี ชา ธิมามนตรี รรท.ผบก.ส.2 จัดทีมสืบสวนสอบสวนเข้าไปสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องกับปัญหาตลาดดังกล่าวโดยตรง ทั้งนายชาตรี เนื่องจำนงค์หรือเสี่ยเอี๋ยว น้องบุญธรรมของนายประโยชน์ เนื่องจำนงค์ ไปจนถึงสอบปาก คำบุตรสาวของเสี่ยเอี๋ยว และผู้ใกล้ชิดซึ่งเป็นนายทหารระดับ"ผู้พัน"ที่มีข้อมูลว่า เคยพูดจาแสดงความไม่พอใจนางสุนัททีด้วยการเอ่ยว่า "จะจัดการสุนัทที"
ทั้งนี้เสี่ยเอี๋ยว ได้ให้ข้อมูลกับชุดสืบสวนว่า
เดิมตนเองเคยเป็นผู้ดูแลตลาดทั้งสองแห่ง โดยได้รับมอบหมายเข้าไปบริหารภายหลังจากภรรยาของนายประโยชน์เสียชีวิตลง จากนั้นเมื่อนายประโยชน์ไปมอบหมายให้นางสุนัททีในฐานะลูกสะใภ้เข้ามาคุมตลาดทั้งสองแทน ตนเพียงรู้สึกน้อยใจ ที่นางสุนัททีออกประกาศและออกจดหมายเวียนถึงพ่อค้าแม่ค้าอย่างไม่ไว้หน้าตน แต่ก็เพียงแค่น้อยเนื้อต่ำใจ ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้น เมื่อนายประโยชน์เป็นคนสั่งก็ต้องทำตาม เพราะตนเองสำนึกในบุญคุณของบิดานายประโยชน์และเคารพในตัวนายประ โยชน์เหนืออื่นใด ทั้งมีฐานะเป็นเพียงน้องบุญธรรมที่บิดาของนายประโยชน์ชุบเลี้ยงมา จึงไม่กล้าคิดจะยึดทรัพย์สมบัติของตระกูลนี้เอาไว้เอง เพราะเป็นคนนอกตระกูลด้วยซ้ำ จึงยอมถอยออกมาโดยดี ส่วนที่ว่าได้ยื่นจดหมายขู่ฆ่าไปนั้น เพียงแค่จดหมายระบายความน้อยอกน้อยใจเท่านั้น พร้อมกับนำจดหมายมาแสดงให้ตำรวจดูด้วย
นอกจากนี้ชุดสืบสวนของพล.ต.ต.ปรีชา ยังได้พบปะกับบุตรสาวเสี่ยเอี๋ยว ที่มีข่าวว่าไม่พอใจนางสุนัททีที่ทำกับบิดาอย่างรุนแรง ไปจนถึงยังได้พบปะกับ"ผู้พัน"ที่ตกเป็นข่าว โดยหลังจากสอบปากคำบุคคลเหล่านี้แล้ว วิเคราะห์ข้อมูลหลักฐานทั้งหมดแล้วเชื่อว่า ประเด็นนี้น่าจะเบาลงไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อน้ำหนักปมขัดแย้งเรื่องตลาดลดลง
แต่ก็ยังเหลือปัญหาความขัดแย้งภายในกองมรดกของตระกูลเนื่องจำนงค์ มีทั้งทรัพย์สินที่เป็นที่ดิน ที่นางสุนัททีผู้ตายนำโฉนดที่ดินของนายประโยชน์ไปค้ำประกันในโครงการที่ดำเนินธุรกิจต่างๆ ซึ่งทำให้คนในตระกูลเนื่องจำนงค์ไม่พอใจ นอกจากนี้ยังมีเครื่องเพชรชุดใหญ่ของญาติผู้ใหญ่แห่งตระกูลเนื่องจำนงค์รายหนึ่ง ซึ่งมีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทหายไป โดยพบว่านางสุนัททีเคยมายืมเครื่องเพชรชุดใหญ่ไปใส่โชว์ออกงานของกลุ่มไฮโซ แต่สุดท้ายเครื่องเพชรดังกล่าวก็สาบสูญไป ซึ่งนางสุนัททีเคยยืนยันกับคนในตระกูลว่าตนเองไม่เกี่ยวข้องกับการหายไปของเพชรดังกล่าว ในประเด็นนี้ชุดสืบสวนจะได้เร่งตรวจสอบให้แน่ชัดว่า เป็นสาเหตุให้ญาติพี่น้องคนใดคนหนึ่งไม่พอใจนางสุนัททีหรือไม่ ไปจนถึงประเด็นขัดแย้งธุรกิจบ้านจัดสรรที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก็ยังต้องเร่งพิสูจน์ให้แน่ชัด