ตร.อุดรฯรวบพ่อหื่นข่มขืน 2 ลูกสาวนาน 4 ปี จนท้องก่อนจะแท้ง ลูกสาวคนโตถูกย่ำยีมาตั้งแต่เรียนป.6 จนอยู่ม.3 หากไม่ยอมโดนทุบตีทารุณ ไปโรงเรียนด้วยใบหน้าบอบช้ำ ไม่กล้าบอกใคร ต้องโกหกครูว่าหกล้ม น้องสาวอายุ 12 ปีก็ตกเป็นเหยื่อ สุดทนขอความช่วยเหลือศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรีอุดรฯ สลดแม่แท้ๆ ก็รู้เห็น แต่ไม่ยอมห้ามปราม แถมพาลูกไปทำแท้ง พร้อมบอกเพื่อนบ้านว่าลูกสาวถูกเพื่อนวัยรุ่นข่มขืน พ่อรับสารภาพ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. นายไสว ศรีหะ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กและสตรี จ.อุดรธานี
พาด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 และน.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นพี่น้องกัน เข้าแจ้งความต่อพ.ต.ต.อดุลย์ ศรีทอง พนักงานสอบ สวน สบ.2 สภ.เมืองอุดรธานี ว่า ทั้งสองคนถูกนายสมคิด อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ข่มขืนกระทำอนาจารมานานร่วม 4 ปีแล้ว
สอบสวนเบื้องต้น น.ส.บีให้การว่า
ตนมีพี่น้องร่วมบิดามารดา 3 คน ตนเป็นพี่คนโต มี ด.ญ.เอเป็นน้องสาว และด.ช.บอย (นามสมมติ) น้องชาย อายุ 5 ขวบ เมื่อปี 2548 ขณะเรียนอยู่ชั้น ป.6 แม่พาน้องชายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพราะป่วยเป็นโรคโลหิตจาง ต้องนอนเปลี่ยนถ่ายเลือดเป็นประจำ แม่ต้องนอนเฝ้าน้องที่โรงพยาบาล ตนนอนกับน้องสาวในห้องนอนในบ้านที่ไม่มีประตูปิด ตกดึกพ่อเข้ามาบังคับขืนใจต่อหน้าน้องสาว โดยที่น้องสาวไม่กล้าโวยวาย ทำทีเป็นนอนหลับเพราะกลัวพ่อจะจับขืนใจอีกคน
น.ส.บี กล่าวต่อว่า
จากนั้นเมื่อมีโอกาส พ่อจะบังคับขืนใจเรื่อยมาเฉลี่ยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ส่วนน้องสาวยังเล็ก พ่อจะลวนลามภายนอก เมื่อไม่นานมานี้ ตนตั้งท้องโดยไม่รู้มาก่อนจนตกเลือดที่โรงเรียน ครูพาไปโรงพยาบาล และถูกพ่อข่มขู่ไว้ว่าให้บอกกับครูว่า ตั้งท้องกับเพื่อนวัยรุ่นด้วยกัน ไม่งั้นจะฆ่าให้ตาย จึงจำ เป็นต้องโกหกครูและแม่ กระทั่งระยะหลังถูกพ่อทุบตี เมื่อไม่ยอมหลับนอนด้วย ไปโรงเรียนหน้าตาบวมปูด ก็ต้องโกหกว่าหกล้ม ก่อนจะตัดสินใจเข้าปรึกษาครูที่โรงเรียน เพื่อแจ้งความตำรวจ เพราะตนไม่อยากอยู่บ้านอีกแล้ว แม้พ่อจะติดคุกก็ทำใจได้
น.ส.บี กล่าวอีกว่า
ก่อนหน้านี้คืนหนึ่งขณะนอนอยู่ในบ้านซึ่งยังสร้างไม่เสร็จ ไม่มีกลอนประตู ถูกพ่อข่มขืน เมื่อพ่อเมาเหล้า ก็จะข่มขืนตนเรื่อยมา ถ้าไม่ยอม จะถูกทำร้าย บางครั้งขณะถูกข่มขืน แม่ก็เห็น แต่ไม่ได้ห้ามปรามพ่อ จนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตนตั้งท้อง แม่นำตนไปทำแท้งที่ร้านแห่งหนึ่งในอุดรธานี โดยแม่บอกกับชาวบ้านว่าตนถูกเพื่อนที่โรงเรียนข่มขืนจนตั้งท้อง ตนรู้สึกอับอายเพื่อนบ้านมาก
ส่วนด.ญ.เอให้การว่า
ก่อนหน้านี้เห็นพ่อข่มขืนพี่สาวหลายครั้ง จึงระวังตัวอยู่เสมอ แต่เนื่องจากห้องนอนไม่มีกลอนประตู คืนหนึ่งขณะนอนหลับ พ่อบุกเข้าไปข่มขืนกระทำชำเรา หลังจากนั้นตนบอกให้พี่สาวทราบ และเห็นถูกข่มขืนอีกหลายครั้ง จนทนไม่ได้ จึงให้พี่สาวไปปรึกษากับครูประจำชั้นและแจ้งผอ.โรงเรียนทราบ หลังจากผอ.โรงเรียนทราบแล้ว จึงแจ้งไปยังบ้านพักเด็กฯ ก่อนที่สารวัตรนักเรียนจะพามาแจ้งความ
ด้านนางนิศมา มัลลอย อาจารย์ที่ปรึกษา กล่าวว่า
เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา เรียกตัวน.ส.บี มาพบ เนื่องจากเห็นว่ามีอาการซึมเศร้า โดยน.ส.บี ยอมรับว่าถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนกระทำชำเรา ครั้งแรกเมื่อตอนเรียนอยู่ชั้นป.6 ในเวลากลางคืน ตอนแม่พาน้องไปโรงพยาบาล จนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง และข่มขืนกระทำชำเราเรื่อยมา จนเรียนอยู่ชั้นม.3 รวมแล้วร่วม 4 ปี บางครั้งพ่อบังคับทุบตี ชกต่อย แต่น.ส.บีจะบอกครูว่าหกล้ม เพราะกลัวพ่อจะทำร้ายอีก เคยแท้งลูกในโรงเรียน และก็ถูกพ่อข่มขู่ให้บอกว่าท้องกับเพื่อนวัยรุ่น กระทั่งเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา แม่มาเห็นกับตาขณะพ่อข่มขืน จึงนำเรื่องไปบอกยายและอา แต่ไม่มีใครสนใจ ครั้งสุดท้ายที่ถูกข่มขืนคือวันที่ 11 พ.ย. 52 และน.ส.บีมีความประสงค์จะขอความช่วยเหลือเพื่อจะได้ไปอาศัยอยู่กับศูนย์ช่วยเหลือเด็กและสตรี โดยไม่สนใจว่าพ่อจะต้องติดคุก ขอให้มีข้าวกินและที่เรียนหนังสือก็พอ
นางนิศมา กล่าวต่อว่า
เมื่อรับเรื่องทั้งหมดจากน.ส.บีแล้ว จึงรวบรวมเอกสารคำให้การทั้งหมดส่งไปให้นายสมบูรณ์ เป้งคำภา ผอ. โรงเรียนทราบ ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายสมบูรณ์สั่งการกำชับให้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่โดยด่วนที่สุด จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. เดินทางไปที่ บ้านของน.ส.บี พบว่าห้องนอนบ้านที่เกิดเหตุไม่มีประตูปิดกั้น ใครเข้าออกก็ได้ โดยบอกกับพ่อแม่ของเด็กว่า จะพาเด็กไปติววิชา เนื่องจากเรียนติด ร. เมื่อพาตัวออกจากบ้านมาได้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความดังกล่าว
ต่อมา เวลา 14.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท. กิตติพงษ์ จิตรคาม สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชลธิชา อักษร รองสว.ฯ ร.ต.ท.ไพฑูรย์ โสนะโชติ รองสว.ฯ เดินทางไปควบคุมตัวนายสมคิดและภรรยาซึ่งเป็นแม่ของน.ส.บี ได้ที่บ้านพักในอ.เมืองอุดรธานี ขณะนายสมคิดสานสุ่มไก่อยู่ภายในบ้าน โดยนายสมคิดรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ข่มขืนกระทำชำเราลูกสาวในไส้มานานร่วม 4 ปี เพราะคิดว่าเมื่อลูกโตขึ้นก็ต้องมีสามีอยู่ดี เมื่อข่มขืนครั้งแรกเกิดติดใจ จึงข่มขืนเรื่อยมา ส่วนลูกสาวคนเล็กได้แต่ลูบคลำ ยังไม่ได้ลงมือข่มขืน กระทั่งเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน
ด้านพ.ต.ท.กิตติพงษ์ กล่าวว่า
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า บังคับข่มขืนในห้องนอนเวลากลางคืน และเวลากลางวัน ทั้งในห้องนอนในบ้านพัก และกระท่อมมานานร่วม 4 ปีแล้ว ส่วนแม่ของน.ส.บีให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตามหากสอบสวนแล้วพบว่ารู้เห็นเป็นใจ ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม นอกจากนี้ประวัติของนายสมคิดซึ่งมีอาชีพสานสุ่มไก่ เคยขืนใจภรรยาเมื่ออายุ 14-15 ปีด้วย เบื้องต้นแจ้งข้อหานายสมคิดว่าข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายสมคิดและภรรยาไว้ดำเนินคดีต่อไป