เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 ธ.ค. นางสุมาลี เนตรนัย อายุ 43 ปี
เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กรณีนายสมภพ เนตรนัย อายุ 47 ปี สามีตายอย่างมีเงื่อนงำ เหตุเกิดในสถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี คาดว่าน่าจะถูกซ้อมทำร้าย จึงมาขอความเป็นธรรมจากมูลนิธิ
นางสุมาลี กล่าวว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 ม.ค. สามีมีอาชีพขับรถแท็กซี่ถูกตำรวจเรียกตรวจแอลกอฮอล์และจับกุมในความผิดฐานดื่มสุราเกินมาตรฐานที่กำหนด ศาลพิพากษาให้กักขัง 7 วัน
จึงถูกส่งตัวเข้ากักขังอยู่ที่สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ม.ค. หลังจากอยู่ในเรือนจำเพียง 2 วัน คือวันเสาร์และวันอาทิตย์ ต่อมาวันจันทร์ที่ 19 ม.ค. เจ้าหน้าที่สถานกักขังโทรศัพท์แจ้งว่า สามีเข้าโรงพยาบาลธัญบุรี ให้รีบไปที่โรงพยาบาลด่วน เมื่อไปถึงพบสามีอยู่ในห้องฉุกเฉินสภาพบอบช้ำไปทั้งตัว กะโหลกศีรษะถูกกระทบด้วยของแข็ง ลำตัวมีร่องรอยเขียวช้ำ ใบหน้าและตาเขียวช้ำ ลักษณะถูกทำร้ายร่างกายสาหัส ตนจึงสอบถามเจ้าหน้าที่บอกว่าสามีล้มในห้องน้ำ
นางสุมาลี กล่าวอีกว่า ต่อมาทางโรงพยาบาลได้ส่งสามีไปเอกซเรย์สมองพบว่า มีเลือดคั่งในสมองก้อนใหญ่แต่ไม่สามารถผ่าตัดได้ เพราะร่างกายสามีบอบช้ำมาก
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 52 สามีก็เสียชีวิตลง เมื่อไปสอบถามจากสถานกักขังกลางทราบว่า ผลการสอบสวนของคณะกรรมการสรุปว่า สามีทำร้ายตัวเองจนตาย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ด้านนางปวีณา กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องไว้และจะตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยประสานไปยัง พ.ต.อ.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี ซึ่งรับปากจะรื้อคดีสอบปากคำพยานในสถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานีใหม่ เพื่อให้ความเป็นธรรม และจะประสานรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้เข้าตรวจสอบคลี่คลายคดี เพื่อให้กรมราชทัณฑ์ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวนพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกระบวนการยุติธรรม อย่างเป็นธรรม โดยมูลนิธิจะติดตามคดีอย่างใกล้ชิด ทราบว่าศพนายสมภพ เนตรนัย ยังเก็บอยู่ที่วัดหนองผักชี โดยจะยังไม่เผาศพจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม