คมชัดลึก :ตร.ราชาเทวะ ส่งข้อมูลไฮโซให้บช.ก.ร่วมแกะรอย หลังเคยแจ้งความถูกขู่ฆ่า ชุดสอบเค้นข้อมูลจากทนาย-สามีอีกรอบ แฉสามีมุ่งปมมรดก-ผลประโยชน์ภายในครอบครัว จนเกิดความขัดแย้งกับคนใกล้ชิดบางคน พบผู้ตายฟ้องร้องคาศาลกับคู่กรณีทั้งแพ่ง-อาญา 6 คดี ขณะที่พฐ.เข้าตรวจสอบวิถีกระสุนรถหาหลักฐานเพิ่ม
(1ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าคดีคนร้ายยิงนางสุนัทที เนื่องจำนงค์ อายุ 45 ปี
ประธานกรรมการ และ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มบริษัท ไพร์ม เนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด ภรรยาของพล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ อดีตรอง ผบก.น.4 เสียชีวิต ซึ่งตำรวจยังมุ่งประเด็นขัดแย้งธุรกิจ โดยเฉพาะปัญหาการบริหารตลาดบ้านบึง จ.ชลบุรี โดย พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนพยายามรวบรวมหลักฐานเพื่อสรุปหาประเด็นสังหารครั้งนี้ อย่างกรณีที่มีการฟ้องร้องกันในชั้นศาลซึ่งมีอยู่ราว 26 คดี ทั้งในกทม.และสมุทรปราการ รวมทั้งกรณีธุรกิจตลาดสดเนื่องจำนงค์ ที่ผู้ตายเข้าไปเกี่ยวข้องเก็บค่าเช่าร้านค้า ทางตำรวจก็ไม่ได้ตัดทิ้ง ชุดคลี่คลายคดีก็ต้องเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดเพื่อหาความเป็นไปได้ว่าจะเป็นปมสังหาร
รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบคดีความที่นางสุนัทที ผู้ตายเคยมีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ จำนวนหลายคดี
จนถึงขั้นมีการขู่ฆ่ากัน ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ขอรายละเอียดคดีความต่างๆ เหล่านี้ไปตรวจสอบแล้ว นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่า นางสุนัทที ยังมีคดีฟ้องร้องกันอยู่ที่ ศาลจังหวัดพระโขนง อีก 6 คดี โดยเป็นคดีอาญา 4 คดี และคดีแพ่งอีก 2 คดี ซึ่งเหตุเกิดตั้งแต่ปี 2550 และ 2551 และคดียังอยู่ในชั้นศาล
สามีสุนัททีชี้ปมมรดกเหตุภรรยาถูกยิง
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งข้อมูลด้านคดีของผู้ตายกับคู่กรณีที่มีการแจ้งความกันไว้ที่ สภ.ราชาเทวะ
ให้แก่ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก.ทราบแล้ว ขณะเดียวกันทาง พล.ต.ต.ศรีวราห์ จะเดินทางไปพบและสอบถามข้อมูลกับ พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ อดีตรองผบก.น.4 สามีผู้ตาย เพื่อนำมาประกอบคดีเพื่อหาแนวทางในการสืบสวนหาตัวคนร้ายต่อไป เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ ผาคุ้มภัย เจ้าหน้าที่ชุดขีปวิถี สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ เดินทางเข้ามาสน.อุดมสุข เพื่อทำการตรวจหาวิถีกระสุน บริเวณรถบีเอ็มดับบลิว ทะเบียน ชต 356 กทม. โดยใช้เหล็กเส้นยาวทิ่มไปที่รูกระสุนบริเวณกระจก เพื่อตรวจหาร่องรอยวิถีกระสุน ซึ่งพบร่องรอยการยิงบริเวณกระจกทั้ง 3 นัด ซึ่งกลุ่มยิงชุดแรกกระจกแตกไปแล้ว ส่วนนัดที่ 3 ยังมีร่องรอยคาอยู่ที่กระจกเป็นบางส่วน เบื้องต้นคาดว่าร่องรอยกระจกที่แตกเป็นกรณีที่คนเห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยเหลือนางสุนัทที โดยการทุบกระจกและนำตัวผู้ตายส่งโรงพยาบาล
ต่อมาเวลา 12.00 น. ตำรวจได้เดินทางมาที่เกิดเหตุบริเวณซอยสุขาภิบาล 2 แยก 11 ถนนสุขาภิบาล 2 โดยได้จำลองวิถีกระสุน
โดยใช้รถนักข่าวติดสติกเกอร์ที่กระจกด้านขวาฝั่งคนขับ และจำลองวิถีกระสุนโดยใช้อุปกรณ์ที่ใช้ในราชการวัดวิถีกระสุน โดยจำลองท่ายิงสูงประมาณ 30 องศา ในการยิง 2 นัดแรก และรถก็ไหลไปอีก 1 เมตร และยิงอีกนัดที่ 3 จนรถไหลไปชนกับป้ายบอกซอยฝั่งตรงข้ามจนหัก โดยที่ทำในวันนี้เป็นการเดินทางมาเก็บพิกัดกระสุนของคนร้ายว่ามีคนเดียว หรือหลายคนที่เป็นมือปืน
ผู้สื่อข่าวรายว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พนักงานชุดสอบสวนจะเดินทางไปสอบปากคำทนายความส่วนตัวของนางสุนัทที ที่อาคารแห่งหนึ่งย่านถนนสาธร กทม. เพื่อหาสาเหตุการสังหารในครั้งนี้
รายงานข่าวในชุดสืบสวนสอบสวนแจ้งด้วยว่า ถึงแม้ พล.ต.ต.ปิยะชาติ จะยังไม่เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข อย่างเป็นทางการ แต่หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนได้พูดคุยเบื้องต้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในประเด็นฆาตกรรมนางสุนัทที โดย พล.ต.ต.ปิยะชาติเชื่อว่าประเด็นสังหารน่าเกี่ยวกับเรื่องมรดกและผลประโยชน์ภายในครอบครัว ซึ่งเกิดความขัดแย้งกับคนใกล้ชิดคนหนึ่ง นอกจากนั้นแล้วมองไม่เห็นว่าจะมีเรื่องใดอีกที่นำมาสู่การสังหาร
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของทนายความประจำตัวนางสุนัททีเอง ถึงแม้จะปฏิเสธไม่ทราบว่าประเด็นการตายของลูกความเป็นเรื่องมรดกและตลาดเนื่องจำนงค์ แต่ปัญหาคดีความที่ฟ้องร้องกันอยู่ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็นสังหารเช่นกัน
นอกจากการปะติดปะต่อและหาพยานหลักฐานมาสนับสนุนประเด็นข้างต้นแล้ว สิ่งที่ชุดสืบสวนกำลังทำอีกเรื่องก็คือ การนำตัวพยานที่อยู่ในเหตุการณ์และระบุว่า เห็นคนร้ายสวมหมวกมาผูกเปลนอนอยู่ใกล้หมู่บ้านไพร์ม เนเจอร์ วิลล่า ถนนสุขาภิบาล 2 ซอย 11 แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพฯ นานนับสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ ไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และสเก็ตช์ภาพคนร้ายใหม่ หลังจากเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ออกภาพสเก็ตช์แล้วไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง