สุวิทย์ เผยสถานการณ์สารเคมีรั่วท่าเรือแหลมฉบังเป็นปกติแล้ว เชื่อหาตัวเจ้าของได้ไม่ยาก เทศบาลเตรียมตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่ายตรวจสอบมลพิษ สร้างความมั่นใจทุกฝ่าย นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แถลงข่าวที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ถึงความคืบหน้ากรณีสารเคมีโซเดียม เปอร์ซัลเฟต หรือสารฟอกขาว เกิดรั่วไหลจากตู้คอนเทนเนอร์ ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ว่า ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทางกระทรวงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งสภาพอากาศ เรื่องน้ำที่จะต้องตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด และต้องมีมาตรการบริหารจัดการเกี่ยวกับน้ำ ส่วนการนำเข้าสารเคมีดังกล่าวจะมีทีมกฎหมายลงไปตรวจสอบถึงที่มาของสารเคมีดังกล่าว กำลังเช็คว่าเป็นสารเคมีของบริษัทใด แต่เชื่อว่าสามารถตรวจสอบได้ เพราะมีหมายเลขกำกับไว้ และเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษได้ลงพื้นที่เข้าไปดูแลประชาชนเพื่อให้เกิดความมั่นใจ
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กล่าวว่า วันที่ 30 พฤศจิกายน
กมธ.จะลงไปตรวจสอบในพื้นที่ที่เกิดเหตุ จากนั้น จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพื่อทราบวิธีการปฏิบัติหากเกิดกรณีแบบนี้ เพื่อไปตรวจสอบในทางวิชาการว่า วิธีปฏิบัติดังกล่าวได้มาตรฐานหรือไม่ และจะประสานกรมควบคุมมลพิษมาช่วยกันดูว่า ภารกิจคงไม่ใช่แค่ควบคุมมลพิษจากโรงงานเท่านั้น เพราะแหล่งที่มามีได้หลากหลาย เช่น มากับตู้คอนเทนเนอร์ ฉะนั้น น่าจะมาดูการขนย้าย ขนส่งสารเคมีอันตรายด้วย
"ผมคิดว่า กรณีแหลมฉบังควบคุมยากกว่าพวกมลพิษของมาบตาพุด เพราะที่นั่นมีการนิคมอุตสาหกรรรมรับผิดชอบ แต่นี่ไม่มีเจ้าภาพ ถ้าเกิดมีการรั่วไหลระหว่างขนส่ง ลองนึกดูว่าจะเป็นอย่างไร แล้วยิ่งรั่วตอนขนส่งยิ่งเสี่ยงต่อการฟุ้งกระจาย คนที่มาดูแลก็เป็นเพียงบรรเทาสาธารณภัย ที่เป็นเอกชน ไม่มีความชำนาญพอ" นายสุรชัยกล่าว และว่า ต่อไปต้องหันมาคิดถึงเรื่องนี้ว่า การขนส่งสินค้าสารเคมีที่ระเหยง่าย รั่วซึมง่ายจะต้องทำแผนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจไม่ถึงกับต้องทำรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) แต่ต้องมีเอกสารชี้แจงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุแบบนี้จะมีแผนป้องกันแก้ไขอย่างไร"
สุวิทย์ชี้เคมีรั่วแหลมฉบังเข้าสู่สภาวะปกติ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 8 นาย จาก สภ.แหลมฉบัง สภ.บางละมุง และ สภ.พัทยา ที่เป็นคณะกรรมการสอบสวนหาสาเหตุการรั่วไหลของสารเคมี
ได้ตั้งโต๊ะเพื่อสอบปากคำชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบที่ศาลาการเปรียญวัดแหลมฉบังเก่า หมู่ 3 ต.ทุ่งศุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีชาวบ้านประมาณ 200 คน เข้าให้ปากคำ และจะเปิดให้ชาวบ้านเข้าร้องทุกข์ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบก.ภ.จว.ชลบุรีกล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาได้ตั้งข้อหาประมาทกับผู้เกี่ยวข้องที่ทำให้สารเคมีรั่ว ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ช่วงนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด หากการสอบสวนว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินคดีกันไป และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ขณะเดียวกัน คณะแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลอ่าวอุดม อ.ศรีราชา ได้มาตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและให้บริการตรวจสุขภาพประชาชนที่วัดแหลมฉบังเก่าเช่นกัน
โดยมีประชาชนจำนวนมากเข้ารับบริการ ซึ่งส่วนใหญ่ยังมีอาการแสบตา จมูก ไอ เจ็บหน้าอก และคอแห้ง ซึ่งการตั้งศูนย์ให้บริการจะเปิดถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน นายบุญเลิศ น้อมศิลป์ นายกเทศมนตรีตำบลแหลมฉบัง กล่าวว่า ในส่วนของการตรวจสอบมลพิษ ทั้งทางน้ำ อากาศ และดิน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า จุดเกิดเหตุยังห่างไกลทะเล เบื้องต้นยังต้องรออีกสักระยะในการตรวจสอบ และต้องรอการรายงานผลของกรมควบคุมมลพิษในการสรุปผลอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังเป็นห่วงว่าช่วงนี้ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่หากฝนตกลงมาและมีการชะล้างสารเคมีลงไปในทะเลซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เพื่อการสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่ายจะมีการตั้งคณะกรรมการไตรภาคีขึ้นมาทำงานร่วมกันคือ ภาคประชาชน ภาคราชการ และท่าเทียบเรือ เพื่อออกตรวจสอบสารเคมีด้วยกันว่ามีผลกระทบต่อชุมชนหรือไม่ คาดว่า จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการในสัปดาห์หน้า ขณะนี้ยืนยันได้ว่าในพื้นที่ปลอดสารเคมีแล้ว เพราะตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติพี่น้องได้นำศพนางสุนีย์ ภู่เพ็ชร อายุ 54 ปี แม่ค้าขายอาหารบริเวณชายหาดแหลมฉบังที่เสียชีวิต มาตั้งบำเพ็ญกุศล ที่ศาลาวัดแหลมฉบังเก่า
มีผู้มาร่วมงานศพประมาณ 30 คน และทางท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือ บี 3 ได้ให้ตัวแทนนำพวงหรีดมาเคารพศพ พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานทั้ง 2 แห่ง จำนวน 20,000 บาท และเทศบาลตำบลแหลมฉบังช่วยเหลือ 5,000 บาท