ไล่ล่าคนร้ายชิงทรัพย์นักท่องเที่ยว

มอมยาทำร้ายผัวเมียเยอรมันชิงทรัพย์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น.  วันที่ 22 พ.ย.

ขณะที่ พ.ต.ท.นิพนธ์ ญาณไพศาล สวส.สภ.ตะกั่วป่า จ.พังงา กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่แหล่งท่องเที่ยวเขาหลัก ต.คึกคัก จึงรีบไปสอบสวน ที่เกิดเหตุชื่อซอยไหมไทย ซึ่งเป็นที่เปลี่ยวและมืดอยู่ใกล้กับโรงแรมมุกดารา พบคนเจ็บเป็นสองสามีภรรยา ชื่อนายฮอเกอร์ รอฟ อายุ 48 ปี และนางเพสต้า การ์ดา อายุ 48 ปีเท่ากัน ทั้งคู่สัญชาติเยอรมัน โดยพบว่า นายฮอเกอร์ สามี ถูกไม้ตีได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่บริเวณหัวไหล่ด้านขวาและที่ศีรษะ ส่วนนางเพสต้า ภรรยา ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่บริเวณใบหน้า จมูก ตามตัวจนบวมทั้งตัว ขาทั้ง 2 ข้าง โดยเฉพาะที่หัวเข่ามีบาดแผลจนเดินไม่ได้ต้องประคองตัวอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่รีบนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.ตะกั่วป่า เพื่อปฐมพยาบาลและเอกซเรย์ร่างกาย และขณะที่นางเพสต้ารับการรักษาตัว พบว่ามีการอาเจียนอยู่ตลอดเวลาคล้ายมีสารพิษตกค้างในร่างกาย
   
จากการสอบสวนนายฮอเกอร์ ให้การว่าตนเองทำงานอยู่บริษัทเอกชน ส่วนภรรยาเป็นพยาบาล อยู่ที่ประเทศเยอรมนี พวกตนชื่นชอบและรักประเทศไทยมากโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวบริเวณเขาหลัก

ซึ่งเป็นสถานที่ที่เป็นธรรมชาติมาก และคนไทยส่วนใหญ่นิสัยดี อ่อนโยน ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายด้วยไมตรีจิต จึงมาเลือกพักที่นี่ และจะมาพักปีละ 2 ครั้ง แต่ละครั้งจะพักไม่ต่ำกว่า 1 เดือน โดยครั้งนี้ได้เข้าพักที่ลัดดารีสอร์ทมา 1 สัปดาห์แล้ว ช่วงเกิดเหตุ ตนและภรรยาได้ไปเดินเล่นชมธรรมชาติและสีสันยามราตรี และแวะดื่มเบียร์ที่บาร์เบียร์แห่งหนึ่ง ไม่มีชื่อร้าน หลังจากดื่มไปเพียงเล็กน้อยทั้งตนและภรรยารู้สึกสะลึมสะลือเหมือนถูกวางยา เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงเรียก  บริกรมาคิดเงิน เสร็จแล้วก็ชวนกันเดินกลับที่พักด้วยความอ่อนเพลียผิดปกติ
   
แต่พอเดินออกจากบาร์เบียร์ได้ประมาณ 50 เมตร ได้มีคนร้ายซึ่งเป็นผู้ชายย่องเดินเข้ามาทางด้านหลัง และใช้ไม้ฟาดตนที่บริเวณต้นคอ หัวไหล่ ข้อมือ และที่ศีรษะ จนตนล้มลง

ขณะนั้นภรรยาตนจึงได้เข้าช่วยเหลือ จึงถูกคนร้ายใช้ไม้ฟาด  เข้าที่บริเวณลำตัว ใบหน้า จมูก และที่  หัวเข่า ทั้ง 2 ข้าง จนต้องล้มลุกคลุกคลาน ลุกขึ้นเดินไม่ได้ หลังจากนั้นคนร้ายได้เข้าไปกระชากกระเป๋าของภรรยา ซึ่งภายในมีเงินสดเป็นเงินไทยกว่า 4,000 บาท พร้อมแว่นตากันแดด และกุญแจห้องพัก แล้ววิ่งหลบหนีไปท่ามกลางความมืดทันที การเกิดเหตุครั้งนี้เสียความรู้สึกมากว่าทำไมจึงต้องมาทำกันแบบนี้ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะสะกดรอยตามผู้เสียหายมาจากร้านบาร์เบียร์ เมื่อถึงจุดเปลี่ยวได้ก่อเหตุชิงทรัพย์อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนจับกุม นอกจากนี้จะได้ตรวจสอบว่าผู้ต้องหาถูกมอมยาหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป.