จับ11ขวบฉกมือถือร้านทอง

เข้าไปในร้านทองที่รับจำนำมือถือกลางตลาดกาฬสินธุ์ ขอดูโทรศัพท์มือถือที่มีคนมาจำนำ พอสบโอกาสคว้าโทรศัพท์ราคาหมื่นกว่าบาทวิ่งหนีดื้อๆ กระโดดขึ้นรถประจำทาง พนักงานร้านทองขี่จยย.ตามไปจับไว้จนได้ พร้อมแจ้งตร.มารับตัว เจ้าหนูรับสารภาพต้องการหาเงินไปเล่นเกมและซื้อของเล่น ก่อนหน้านี้ก็เคยก่อเหตุมาครั้งหนึ่งแล้ว

ร.ต.ท.พงษ์ภิญโญ ลมคำภา ร้อยเวรสภ.อ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งได้นำ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ส่งสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.กาฬสินธุ์ เพื่อขออนุญาตกักขังตัวไว้ชั่วคราวรอการสอบสวนต่อไป

ร.ต.ท.พงษ์ภิญโญรับแจ้งจากพนักงานขายของห้างทองศรีฟ้า ตั้งอยู่ที่ตลาดสดเทศบาลตรงข้ามกับโรงพักว่า ได้ควบคุมตัวด.ช.เอไว้ เนื่องจากได้วิ่งราวโทรศัพท์มือถือที่ร้านไป 1 เครื่อง แต่พนักงานร้านไล่ติดตามจับไว้ได้

ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุด.ช.เอได้เดินเข้ามาในร้าน จากนั้นได้เดินตรงเข้ามายังตู้กระจกที่เก็บโทรศัพท์มือถือที่มีลูกค้านำมาจำนำไว้ พร้อมทั้งบอกว่าขอดูโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น 7260 ราคาประมาณ 12,000 บาท ตนจึงหยิบให้ดู จากนั้นก็หันไปให้บริการลูกค้าคนอื่น ระหว่างนั้นด.ช.เอก็ฉวยโอกาสวิ่งหนีไปพร้อมโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าว โดยวิ่งเข้าไปในตลาดสดเทศบาล ตนกับพนักงานอีกประมาณ 3-4 คน


จึงวิ่งและขี่รถจักรยานยนต์ตามไป พบด.ช.เอนั่งรถประจำทางสีเหลือง ที่สามแยกร.พ.ธีระวัฒน์ พนักงานที่ไปด้วยกันจึงเรียกรถประจำทางหยุด แต่เด็กกลับกระโดดลงและวิ่งหนีเข้าไปในร้านอาหารสุกี้เฮาส์ ต้องวิ่งตามเข้าไปจับมารอที่ร้าน ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัว

พบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น 7260 ซิมโทรศัพท์มือถือ 1 อัน เงินสด 19 บาท โดยด.ช.เอสารภาพว่า ขโมยโทรศัพท์มือถือที่ห้างทองศรีฟ้าจริง เนื่องจากต้องการเงินไปซื้อของเล่น และเล่นเกม โดยก่อนหน้านี้เคยดูจากภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องหนึ่ง เห็นเด็กเข้าไปหยิบสิ่งของในร้านค้าแล้ววิ่งหนีไปได้ โดยไม่ถูกตำรวจจับ และก่อนหน้านี้เคยขโมยโทรศัพท์มือถือคนในหมู่บ้านเดียวกันมาแล้ว 1 เครื่อง และเงินสดอีก 20,000 บาท

จากการสอบถามเด็กทราบว่าขโมยโทรศัพท์มือถือจริง เพราะต้องการเงินไปเล่นเกม ส่วนการดำเนินคดีเบื้องต้นได้ติดต่อผู้ปกครองแจ้งให้ทราบพฤติกรรมแล้ว จากนั้นได้นำตัวด.ช.เอส่งสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนต่อไป

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด