เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 18 พ.ย. นายสันติ นิลวัฒน์ นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง
รับแจ้งจากนายวิเชียร ไชยเดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.จองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ว่าชาวบ้านออกไปหาปลาในทะเลสาบสงขลาตอนใน พบซากโลมาหัวบาตร ขนาดใหญ่ ถูกตัด 2 ท่อน ลอยน้ำอยู่กลางทะเล จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวง ไปตรวจสอบพบซากส่วนหัวของโลมา และส่วนหาง ลอยน้ำขึ้นอืดอยู่ห่างกัน 30 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้เชือกผูกลากมาตรวจสอบที่ฝั่งชายทะเล
จากการพิสูจน์ซากในขั้นต้น พบว่าเป็นซากโลมาหัวบาตร หรือโลมาอิรวดี มีน้ำหนักประมาณ 100 ก.ก. ยาว 2.1 เมตร อายุประมาณ 25 ปี
โดยซากโลมาถูกตัดครีบหน้าด้านซ้าย และมีรอยตัดด้วยของมีคมที่กลางลำตัวแยกออกจากกัน คาดว่าโลมาคงจะไปติดอวนหาปลาของชาวประมง จึงตัดครีบเพื่อนำออกจากอวน ก่อนจะตัดลำตัวแยกออกจากกัน เพื่อให้ซากจมน้ำ สันนิษฐานว่าน่าจะตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำซากโลมา ไปตรวจหาดีเอ็นเอและชันสูตรเนื้อ ที่ศูนย์วิจัย จ.สงขลา
นายสันติ กล่าวว่า ในปีพ.ศ.2552 พบโลมาอิรวดี ตายแล้ว 6 ตัว เป็นลูกโลมา 4 ตัว และโลมาตัวเต็มวัย 2 ตัว
ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากติดเครื่องมือดักปลาขนาดใหญ่ของชาวประมง ดูจากลำตัวจะมีรอยเส้นอวนขนาดใหญ่ จากการสำรวจล่าสุดพบโลมาอิรวดี 36 ตัว มีประมาณไม่เกิน 50 ตัว อยู่ในสภาพวิกฤตมาก ดังนั้น ต้องเร่งสร้างจิตสำนึกให้ชาวประมง และชาวบ้านรอบทะเลสาบ รู้สึกหวงแหน ในประเทศไทยมีโลมาอิรวดีน้ำจืดที่ทะเลสาบสงขลาแห่งเดียว ในโลกมีอยู่ 5 แห่ง โลมาอิรวดีทะเลสาบสงขลา ก็เป็นหนึ่งในนั้น