ฆ่าเมียสาวไทย สอบบี้ฝรั่ง ผัวเฒ่าพิรุธอื้อ

ฆ่าเมียสาวไทย สอบบี้ฝรั่ง ผัวเฒ่าพิรุธอื้อ

ศพยัดท้ายเก๋ง สยองเชียงใหม่ จนมุมเชียงราย


รวบเฒ่าฝรั่งเศสฆ่าเมียสาวคนไทย ศพยัดท้ายรถเก๋งอยู่ใต้ถุนบ้านหรู เชียงใหม่ แทงร่างพรุนเกือบสิบแผล ก่อนจะหนีไปจนมุมที่เชียงราย อ้างพาเพื่อนไปต่อวีซ่าที่ด่านแม่สาย เบื้องต้นให้การปฏิเสธ พ่อเหยื่อแฉลูกสาวคบหากันมาปีกว่า ทำธุรกิจร้านอาหารร่วมกัน เฒ่าฝรั่งเศสเป็นคนเจ้าอารมณ์ ตร.ชี้ คนร้ายเตรียมนำศพไปทิ้งที่อื่น แต่ไม่ทัน ระบุอำพรางคดี ทำลายหลักฐาน

เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 15 พ.ย. พ.ต.ท. มานพ จิตจรูญพันธ์ สารวัตรเวรสภ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตาย ที่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 10 บ้านป่าไม้ ต.ออนกลาง อ.แม่ออน จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวร ร.พ.แม่ออน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้แฝดทรงไทย 2 ชั้น สร้างอยู่บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ ใกล้กับภูเขาในสไตล์รีสอร์ต ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นบ้านของนายริชาร์ด มารี เฟรเดอ ริค อายุ 66 ปี ชาวฝรั่งเศส ที่อยู่ในเมืองไทยเกือบสิบปีแล้ว โดยสร้างบ้านดังกล่าวราคาประ มาณ 10 ล้านบาท ที่ใต้ถุนบ้านชั้นล่าง บนโต๊ะรับแขก พบแก้วเครื่องดื่มวางกระจัดกระจาย รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รถยนต์แบบนั่งตัดหญ้า 1 คัน รถจักรยานเก่าอีก 2 คันจอดอยู่ใต้ถุนบ้าน ใกล้กันบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นบ้าน พบ รถยนต์มิตซูบิชิ สีแดง ทะเบียน กษ 6416 เชียง ใหม่ จอดอยู่

เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดหยดเป็นทางยาว ตั้งแต่ใต้ถุนบ้านมาถึงฝาท้ายกระโปรงรถเก๋งคันดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้กุญแจสำรองเปิดประตูรถ ถึงกับผงะ เมื่อพบศพน.ส.สุชาดา สิทธิสาร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 10 ต.ออนกลาง อ.แม่อออน ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้บ้านที่เกิดเหตุ 800 เมตร ถูกฆ่ายัดท้ายรถ โดยมีผ้าห่มสีฟ้าคลุมทับร่างอีกชั้นหนึ่ง มีบาดแผลที่ถูกทำร้ายด้วยของมีคม บริเวณลำคอกว้างประมาณ 10 ซ.ม. แผลลึกด้านหน้า 5 แผล ด้านหลังลำคอ 3 แผล สภาพศพใส่เสื้อกล้ามลาย กางเกงขาสั้นลายพราง เลือดเต็มท้ายรถ ขณะเดียวกันบริเวณ ใต้ถุนบ้าน ห่างจากที่พบศพประมาณ 20 เมตร พบร่องรอยการฉีดล้างเลือดด้วย

ต่อมาพ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รองผบก. ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมพ.ต.ท.ฐานันดร วิทยาวุฑฒิกุล นวท.สบ.2 พิสูจน์หลักฐาน เขต 32 เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเก็บหลักฐาน และสันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง

สอบสวนนายบุญส่ง สิทธิสาร อายุ 50 ปี บิดาของผู้ตายให้การว่า หลังจากผู้ตายเรียนจบปริญญาตรีจากกรุงเทพฯ กลับมาช่วยงานทางบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว และรู้จักชอบพอกับนายริชาร์ด เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ จนไปมาหาสู่กันเป็นประจำ และในที่สุดเป็นสามีภรรยากัน โดยนายริชาร์ดเตรียมจะเปิดร้านอาหารยุโรปในตัวเมืองเชียงใหม่ ชื่อร้าน "โอลาล้า" โดยใช้ชื่อของลูกสาวตน ร่วมกับแฟนของนายมาร์ค ปิแอร์ เรเน่ เพื่อนของนายริชาร์ด และจะเปิดอีกไม่กี่วันนี้ เพราะไปทำสัญญาเช่าตึกไว้แล้วที่ถ.ช้างคลาน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่

นายบุญส่ง กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุเย็นวันที่ 14 พ.ย. ลูกสาวโทรศัพท์มาชวนตนไปกินหมูจุ่ม ที่ร้านในย่านเขตอ.แม่ออน ตนปฏิเสธ กระทั่งเวลา 21.00 น. นายริชาร์ดโทรศัพท์มาหาตน ถามหาลูกสาว ตนตอบว่า ไม่ได้อยู่ที่บ้าน ด้วยความเอะใจ จึงให้น้องสาวผู้ตายไปตามหาที่บ้านนายริชาร์ด ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านตนเพียง 800 เมตรเท่านั้น ปรากฏว่านายริชาร์ดอยู่กับเพื่อนและบอกว่าลูกสาวตนไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่มีรถลูกสาวตนจอดอยู่ น้องสาวผู้ตายจึงมาบอก ตนก็ออกไปตามหาที่ร้านหมูจุ่ม แต่ไม่พบ ต่อ มาเวลา 23.50 น. ตนไปหาลูกสาวที่บ้านนาย ริชาร์ดอีกครั้ง แต่นายริชาร์ดบอกว่าลูกสาวของตนไม่ได้มาที่นี่ แต่รถเก๋งลูกสาวของตนจอดอยู่ที่บ้านนายริชาร์ด ตนจึงเดินทางกลับ

กระทั่งเวลา 03.00 น. วันที่ 15 พ.ย. นาย ริชาร์ดพร้อมเพื่อนเดินทางมาหาตนที่บ้าน พร้อมนำกุญแจบ้านของเขามาให้ ตนสอบถามหาลูกสาว นายริชาร์ดบอกไม่รู้ และบอกว่าเขาจะไปต่อวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่ออยู่ต่อในประเทศไทยได้อีก 15 วันตามธรรมเนียม จากนั้นนายริชาร์ดขับรถยนต์จี๊ปเชโรกี สีดำ ทะเบียน กร 3836 เชียงใหม่ ออกไป ด้วยความผิดปกติ ตนจึงแจ้งความกับตำรวจ แต่ตำรวจบอกว่าต้องรอให้ครบ 24 ชั่ว โมงก่อน ตำรวจถึงจะช่วยติดตามหรือวิทยุแจ้งกระจายข่าวให้ได้ กระทั่งเวลา 03.30 น. ด้วยความร้อนใจจึงแจ้งให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และญาติๆ พากันไปยังบ้านนายริชาร์ดอีกครั้ง และนำกุญแจรถยนต์สำรองของลูกสาวไปด้วย จากนั้นจึงให้ญาติเปิดดูกระโปรงท้ายรถที่จอดอยู่ในบ้านของนายริชาร์ด พบศพลูกสาวดังกล่าว

นายบุญส่งกล่าวต่อว่า ปกตินายริชาร์ดเป็นคนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว เจ้าอารมณ์ เคยมีปัญหากับร้านขายจานดาวเทียมจนขึ้นโรงพักมาแล้ว เพราะไม่พอใจเรื่องคุณภาพของจานดาวเทียม นายริชาร์ดจะใส่อารมณ์อย่างมาก จนมีเรื่องฟ้องร้องกันเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนนายมาร์คเพื่อนของนายริชาร์ด นั้นเพิ่งเดินทางมาหานายริชาร์ดเมื่อวันที่ 14 พ.ย. โดยนายริชาร์ดบอกกับลูกสาวของตนให้ไปช่วยทำอาหารเลี้ยงนายมาร์ค ลูกสาวของตนก็ไป กระทั่งมาพบศพดังกล่าว

ต่อมาเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ประจำด่านสภ.แม่เจดีย์ จ.เชียงราย สกัดจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนได้ ขณะขับรถเชโรกีผ่านด่านและนำตัวมาสอบปากคำที่สภ.แม่ออน โดยทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธและให้การวกวน ตำรวจยังคงสอบปากคำทั้งสองคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสอบปากคำนายริชาร์ดและนายมาร์คเสร็จแล้ว ตำรวจนำทั้งสองคนไปตรวจร่างกายที่ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ จากนั้นยึดพาสปอร์ตไว้ และถ่ายภาพทำประวัติทั้งสองคนไว้ ก่อนจะปล่อยตัวไปชั่วคราว และจะทำหนังสือเรียกตัวมาสอบปากคำใหม่ในภายหลัง และในวันที่ 16 พ.ย. พ.ต.อ.ภาณุเดชจะส่งพนักงานสอบสวนของบก.ภ.จว.เชียงใหม่มาร่วมกับพนักงานสอบสวนสภ.แม่ออน เพื่อให้คดีแน่นทั้งหลักฐานและพยาน ก่อนจะรวบรวมขออนุมัติหมายจับ ทางตำรวจท้องที่กำลังสอบปากคำพยานเกี่ยวกับห้วงเวลา การเกิดเหตุ การที่ผู้ต้องสงสัยออกเดินทางไปหาหรือจุดที่พยานพบเห็นผู้ต้องสงสัย เวลาการเสียชีวิตของ น.ส. สุชาดา รวมทั้งสถานที่เกิดเหตุด้วย

ส่วนประเด็นการสังหาร เบื้องต้นตำรวจตั้งไว้คือเรื่องการขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ และเรื่องทรัพย์สินของผู้ต้องสงสัยกับผู้ตายที่เกิดขัดแย้งกัน โดยตำรวจจะสืบสวนพยานเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจต่างๆ ของผู้ต้องสงสัย รวมทั้งของผู้ตายที่ไปมีส่วนร่วมว่ามีอะไรบ้าง

พ.ต.อ.ภาณุเดช เปิดเผยว่า คดีนี้คนร้ายมีการอำพรางคดี ทำลายหลักฐานและร่องรอยเป็นอย่างดี คนร้ายนำน้ำมาล้างคราบเลือดและนำศพใส่กระโปรงหลังรถของผู้ตาย เพื่อเตรียมนำไปทิ้งจุดอื่น แต่คาดว่าคงไม่ทัน ตอนนี้มีผู้ต้องสงสัย 2 คน คือนายริชาร์ดกับนายมาร์คเป็นเพื่อนกัน แต่ยังให้การปฏิเสธ ทางตำรวจกำลังสอบปากคำ และกำชับให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานแวดล้อม ทั้งญาติพี่น้องของคนตาย แพทย์ ให้ละเอียด รวมทั้งเรื่องของเวลา สถานที่เกิดเหตุ สภาพศพ ให้ละเอียด เพราะคดีนี้มีชาวต่างประ เทศพัวพันด้วย ต้องให้ละเอียดและหาหลักฐานพยานให้ครบสมบูรณ์ คดีนี้คนร้ายทำลายเตรียมการไว้เพื่อซ่อนเร้นหรืออำพรางคดีอย่างดี ตำรวจ จึงต้องละเอียดและให้รอบครอบ ก่อนจะขอหมายจับกุมต่อไป

สำหรับนายริชาร์ดเคยมีภรรยาชาวพม่า แต่เลิกรากันไปนานแล้ว ก่อนจะมาซื้อบ้านอยู่หลังดังกล่าวเกือบ 10 ปี และคบหากับน.ส.สุชาดาประมาณปีเศษ จนมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งและไปมาหาสู่กันเป็นประจำ

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวคุณภาพดี โดย : หนังสือพิมพ์ข่าวสด