โจรงัดรพ. ฉกโน้ตบุ๊ก บุกถึงห้อง ผู้ว่าป่วย!

โจรอาละวาดบุกขโมยทรัพย์สินในร.พ.อุตรดิตถ์ แม้แต่ผู้ว่าฯ เองก็ยังโดน

ขณะนอนรักษาตัวหลังผ่าฝีคัณฑสูตรที่ทวารหนัก โดนมือดีย่องเข้าไปถึงห้องคนไข้ ฉกโน้ตบุ๊กพร้อมมือถือ 2 เครื่องซ้อนเผ่นหนีลอยนวลตอนเช้ามืด รวมทั้งห้องใกล้ๆ ก็โดนกันถ้วนหน้าอีกหลายราย แค่เข้าห้องน้ำออกมามือถือที่ชาร์จทิ้งไว้อันตรธานหายไปแล้ว

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 11 พ.ย. ร.ต.อ.ชนะ ศรีวิชัย ร้อยเวร สภ.เมืองอุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุคนร้ายลักทรัพย์ในตึกพิเศษ โรงพยาบาลอุตรดิตถ์

หลังรับแจ้งจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.ท.ทรงวุฒิ ทองสุข รองผกก.สส. พ.ต.ท.สมเกียรติ เสวก มหารี หัวหน้าตำรวจวิทยาการอุตรดิตถ์ และน.พ.ดิเรก งามวาสีนนท์ รองผอ.ร.พ.อุตรดิตถ์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นตึกพิเศษ ชั้น 2 ห้องเลขที่ 710 พบผู้ป่วยคือ นายโยธินศร์ สมุทร์คิรีจ์ ผวจ.อุตรดิตถ์ นอนพักรักษาตัว หลังจากผ่าตัดฝีคัณฑสูตรที่ทวารหนัก ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีนายเสน่ห์ เทพา เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผนงาน สำนักงานจังหวัดอุตรดิตถ์ มาคอยดูแล แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ตื่นขึ้นมาเวลาประมาณ 05.00 น.และวางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อคอมแพ็ค ราคาประมาณ 18,000 บาทไว้ พร้อมโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 2 เครื่อง กระเป๋าหนังสีดำใส่เงินสด ก่อนจะเข้าห้องน้ำ เมื่อออกมาพบว่ากระเป๋าคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือหายไป เหลือเพียงแค่กระเป๋าเงินวางอยู่

ต่อมาน.ส.ไพโรจน์ อ้นกระโทก อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/1 หมู่ 7 ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ คนเฝ้าไข้ห้องเลขที่ 704 มาพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังตรวจสอบหาหลักฐานที่บริเวณห้องพัก 710

จึงแจ้งให้ทราบว่า กระเป๋าสะพายขนาดเล็กสีเลือดหมูใส่เอกสารและเครื่องสำอางหายไปเช่นกันขณะนอนหลับ นอกจากนี้ที่ห้องเลขที่ 810 ชั้น 3 อาคารเดียวกัน นางสุริยา ปานโปร่ง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158/1 หมู่ 5 ต.ท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์ คนนอนเฝ้าไข้ แจ้งให้ทราบว่าโทรศัพท์มือถือ ซึ่งชาร์จแบตเตอรี่อยู่ใต้เตียงนอนคนไข้หายไปเช่นกันขณะเข้าห้องน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันรับแจ้งจากพนักงานทำความสะอาดของอาคารดังกล่าว ทราบว่า พบกระเป๋าสะพายสีเลือดหมูวางทิ้งอยู่ที่บนกระถางต้นไม้ที่ระเบียงของตึก

พบบัตรประชาชนน.ส.ไพโรจน์ อ้นกระโทก และเอกสารชนิดอื่นตกอยู่กระจัดกระจาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่าคนร้ายบุกเข้าไปค้นห้องพักเลขที่ 701 ด้วย แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไป เนื่องจากคนนอนเฝ้าไข้ตื่นมาพบก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บลายนิ้วมือแฝงที่ลูกบิดประตูห้องที่เกิดเหตุไว้ น.พ.ดิเรกกล่าวว่า เจ้าหน้าที่พยาบาลแจ้งเตือนให้ญาติที่มาเฝ้าไข้ระมัดระวังทรัพย์สินด้วยการสั่งให้ล็อกประตูห้องทุกครั้ง พร้อมทั้งมีสติ๊กเกอร์ติดแจ้งเตือนให้ทุกห้องทราบเช่นกัน รวมถึงมีเจ้าหน้าที่เวรพยาบาลเฝ้าระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา สำหรับกล้องวงจรปิดได้ติดตั้งเฉพาะที่ประตูทางเข้าและออกของโรงพยาบาล แต่ยังไม่ได้ติดตั้งตามตึกอาคารต่างๆ เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นก็ต้องมีมาตรการด้านความปลอดภัยให้มากขึ้นพร้อมจะดำเนินการหางบประมาณมาติดตั้งกล้องวงจรปิดตามตึกอาคารห้องพักคนไข้

เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายคงรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ในตึกที่พักคนไข้ รวมถึงความเคลื่อนไหวของคนไข้และคนเฝ้าไข้ภายในอาคารเป็นอย่างดี

อีกทั้งรู้เส้นทางเข้าออกหรือหลบหนีภายในตัวอาคารด้วย ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาลหรือไม่ คงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาหลักฐานเพื่อนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป