จากกรณีน.พ.พรเดชา สุขารมณ์ ผอ.โรงพยาบาลเดชา หรือแจ๊ค สุขารมณ์ ทำร้ายร่างกายและกักขังน.ส.อัญชลิตา เรืองโรจน์เลขานุการจนได้รับบาดเจ็บ
ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกน.พ.พรเดชารับทราบข้อกล่าวหา ขณะที่น.พ.พรเดชาส่งทนายความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งแฉความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินกว่าผู้ร่วมงานและยังไม่พร้อมที่จะเข้าให้การตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)
ให้สัมภาษณ์กรณีน.พ.พรเดชา สุขารมณ์ หรือหมอแจ๊ค ส่งทนายแถลงแฉสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินกว่าเจ้านายกับน.ส.อัญชลิตา เรืองโรจน์ เลขาฯ ทำให้มีประเด็นซับซ้อนเกิดเหตุบานปลายว่า ถึงจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแค่ไหน หมอแจ๊คก็ไม่มีสิทธิทำร้ายรุนแรงได้ แม้จะเป็นสามีภรรยากันก็ทำไม่ได้ การทำร้ายร่างกายรุนแรงจนเกิดร่องรอยอย่างที่เห็นทำไม่ได้แน่นอน ทั้งนี้คิดว่าการส่งทนายมาให้ข้อมูลอย่างนี้ เพื่อหวังผลในการเจรจาทำนองว่ามีความสัมพันธ์ในเชิงสามีภรรยาแล้วไปผูกมัดฝ่ายชายมากเกินไปหรือเปล่า หรือทำเพื่อผลในการเจรจาทางคดี นำไปสู่การขอความเมตตาต่อศาลในการขอเหตุบรรเทาโทษ อาจจะอ้างว่ามีการเจรจาชดใช้กันแล้วหรืออะไรก็ตาม แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรเมื่อทำผิดแล้วก็ย่อมไม่พ้นผิดแน่นอน
น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็หมอก็ไม่มีสิทธิไปทำร้ายทุบตีคนอื่น ไม่ว่าจะเข้าข่ายนายจ้างลูกจ้าง หรือสามีภรรยา
หรือพ่อแม่ตีลูกไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็ไม่มีสิทธิทำ ผิดกฎหมายอาญาแน่นอน ซึ่งยังไม่ทราบว่ามีการกระทำเข้าข่ายละเมิดทางเพศหรือกระทำอนาจารอะไรอีกหรือไม่ เนื่องจากผู้เสียหายยังไม่ได้ให้ข้อมูลเรื่องนี้ แต่การที่ผู้กระทำส่งทนายมาให้ข้อมูลแบบนี้ ขอให้สังคมไตร่ตรองในการจะไปตัดสินลงโทษ ติฉินนินทาผู้ถูกกระทำ