ร่อนหมายเรียกแจ๊คเร่งมอบตัวคดีทุบเลขาสาว

ผกก.สน.ลุมพินี ส่งหมายเรียกให้"หมอพรเดชา"หรือ “แจ๊ค สุขารมณ์” อดีตนักร้องดังเจ้าของคลินิกศัลยกรรมความงามให้เข้ารับทราบข้อหาทำร้ายร่างกายเลขาฯ

สาวบาดเจ็บภายในเที่ยงวันที่ 12 พ.ย.นี้ ส่วนจะแจ้งข้อ   หาอื่นอีกหรือไม่ต้องรอความเห็นของแพทย์และรอสอบปากคำคนเจ็บเพิ่มเติม ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาปิดคลินิกกบดานเงียบ แต่ก่อนหน้านี้เคยไปหารือ ตร.กองปราบฯ สงสัยเลขาฯ ทุจริตงบตกแต่งคลินิก ด้าน “ปวีณา” เข้าเยี่ยมพบอาการทางจิตแย่หวาดผวาคนแปลกหน้า รพ.ยันฮี ใจดีรักษาส่งจิตแพทย์ฟื้นฟูสภาพจิตใจโดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
   
จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.เจน (นามสมมุติ) เลขานุการของ นพ. พรเดชา หรือแจ๊ค สุขารมณ์ อดีตนักร้องชื่อดังเจ้าของอัลบั้มเพลง “โซล เซิร์ชชิ่ง”

ลูกชายของ นพ.เดชา สุขารมณ์ อดีตเจ้าของรพ.เดชา ซึ่งปัจจุบันเป็น ผอ.คลินิกเสริมความงาม “อีเอ็นวี แอสเทติก” (ENV Aestetic) ตั้งอยู่ที่อาคารอัมรินทร์พลาซ่า โรงแรมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน พาร่างอันบอบช้ำเข้าขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ว่า ถูก นพ.พรเดชา นำตัวไปกักขังหน่วงเหนี่ยวและซ้อมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เพื่อบังคับให้ยอมรับว่า เป็นคนยักยอกเงินหลายล้านงบประมาณตกแต่งคลินิก ตามที่เสนอข่าวไปให้ทราบนั้น
   
ต่อมา เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 พ.ย. ที่โรงพยาบาลยันฮี ชั้น 8 โซน C ห้อง 1838 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้เดินทางเข้าเยี่ยม น.ส.เจนภายในห้องมีพ่อแม่ของ น.ส.เจน เฝ้าดูแล

ลูกสาวด้วยความเป็นห่วง ซึ่ง น.ส.เจน ที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้มีสภาพร่างกายทรุดโทรมอย่างมาก ขอบตาทั้ง 2 ข้างมีรอย    ฟกช้ำบวมปูด และมีอาการหวาดระแวงคนแปลกหน้าที่เข้ามาในห้องอย่างห็นได้ชัด นางปวีณาได้พูดคุยสอบถามอาการกับ น.ส.เจน ครู่ใหญ่ก่อนจะเปิดเผยว่า ทางมูล   นิธิปวีณาฯ จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือใน เรื่องการฟื้นฟูสภาพจิตใจ เรื่องคดีก็ได้ประสาน พ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม ผกก.สน.ลุมพินี ให้ดูแลสำนวนการสอบสวนเป็นที่เรียบร้อย ส่วนเรื่องของการดูแลความปลอดภัยของคนเจ็บนั้น ทางมูลนิธิฯมีความมั่นใจในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยผู้ป่วยของทางโรงพยาบาลยันฮี จึงคาดว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
   
นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้บริหารระดับสูง รพ.ยันฮี เปิดเผยว่า แพทย์ผู้  รักษาได้ตรวจอาการคนไข้ และเอกซเรย์อย่างละเอียดแล้ว

พบว่ากะโหลกศีรษะปกติไม่ได้รับความกระทบกระเทือน แต่ร่างกายมีรอยฟกช้ำตามตะโพก ขา หลัง และแขน ที่ดวงตาทั้ง 2 ข้างเขียวบวม อย่างไรก็ตาม คนไข้มีสติดีพูดคุยรู้เรื่อง ส่วนความหวาดระแวง เป็นปกติของคนที่ถูกทำร้ายร่างกายมา จึงเกิดอาการกลัวคนแปลกหน้า ทาง รพ.ได้เยียวยาโดยจัดจิตแพทย์พิเศษมาคอยดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจ คาดว่าต้องใช้เวลา 2-3 วัน เพื่อสังเกตอาการ หากอาการดีขึ้นก็สามารถกลับบ้านได้ สำหรับค่ารักษาพยาบาล รพ.ยันฮี จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม ผกก.สน.ลุมพินี เปิดเผยเกี่ยว  กับด้านคดีว่า สำหรับคดีนี้ น.ส.เจน ได้  แจ้งความกับ พ.ต.ท.ยุทธ ทองอยู่ พงส. (สบ 2)

ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ และส่งตัวผู้เสียหายให้แพทย์ รพ.ตร.ตรวจร่างกายและรักษาพยาบาลเรียบร้อย ตนตรวจสอบและพิจารณารายละเอียดข้อเท็จจริงตามที่พนักงานสอบสวนรายงานให้ทราบ และออกหมายเรียก นพ.พรเดชา ให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ในเวลา 12.00 น. วันที่ 12 พ.ย.นี้ ส่วนสำนวนคดีคาดว่าน่าจะต้องสอบผู้เสียหายเพิ่มเติมในบางประเด็น เนื่องจากในวันที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความยังมีอาการบาดเจ็บให้การได้ไม่มากนัก
   
ส่วน พ.ต.ท.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ รอง ผกก.สส. กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา นพ.พรเดชา กระทำผิดฐานทำร้ายร่างกาย  ผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ

ส่วนจะแจ้งข้อหาอื่นอีกหรือไม่ จะต้องรอความเห็นจากแพทย์ รพ.ตร. ว่า น.ส.เจนได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ สำหรับข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว คาดว่าอาจจะเกิดในท้องที่ สน.พญาไท แต่ต้องสอบปากคำผู้เสียหายอีกครั้งว่าเป็นการกระทำผิดที่เกี่ยวเนื่องจากในท้องที่ลุมพินีหรือไม่ และจะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะแจ้งข้อหานี้ได้หรือไม่ นอกจากนั้น ยังต้องสอบสวนผู้เสียหายว่าขณะเกิดเหตุมีพยานอื่นรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพื่อจะได้ออกหมายเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยานไว้ประกอบสำนวนด้วย
   
พ.ต.ท.ภิรมย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับหมายเรียกแบ่งเป็น 2 ฉบับ ๆ หนึ่งนำไปปิด ไว้ที่คลินิก อีเอ็นวีฯ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดยในวันเดียวกันนี้ได้นำหมาย เรียกอีก 1 ฉบับ ส่งไปให้ นพ.พรเดชา ตามที่อยู่ในทะเบียนราษฎรแล้วเช่นกัน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการประสานจากผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด แต่เชื่อว่า นพ.พรเดชา จะเดินทางมาตามหมายเรียก เพราะ นพ.พรเดชา เป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคม ซึ่งตนขอยืนยันว่าการดำเนินการของตำรวจเป็นไปตามขั้นตอนทุกอย่าง ไม่ได้ล่าช้าแต่อย่างใด
   
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับบรรยากาศที่หน้าสถานเสริมความงาม อีเอ็นวีฯตามปกติจะเปิดทำการตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ทุกวัน

แต่หลังจากเกิดเรื่องขึ้นคลินิกได้ปิดทำการ ไม่มีพนักงานมาทำงาน   แม้แต่คนเดียว หยุดให้บริการโดยยังไม่ทราบว่ามีกำหนดเปิดให้บริการอีกเมื่อไหร่ วันเดียวกัน ที่กองปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง ผบก.ป.เปิดเผยว่า คดีนี้ เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา นพ. พรเดชา หรือแจ๊ค สุขารมณ์ ได้มาขอคำปรึกษาเรื่องคลินิกเสริมความงามที่ นพ.พรเดชา ร่วมหุ้นกับเพื่อน ๆ เปิดในอาคารอัมรินทร์ พลาซ่าว่า ได้ว่าจ้างคนรับเหมามาตกแต่งคลินิก โดยมอบหมายให้เลขานุการเป็นผู้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งหมดตามงบประมาณที่จัดไว้ 2 ล้านบาท แต่หลังจากที่ตกแต่งคลินิกไปได้ระยะหนึ่งกลับมีค่าใช้จ่ายเกินเลยไปมากเป็นเงินถึงเกือบสิบล้านบาทแต่งานยังไม่เสร็จ จึงทำให้บรรดาหุ้นส่วนทั้งหมดเริ่ม  มีปัญหา บางรายถึงกับขอถอนตัวออกไป
   
พ.ต.อ.มนตรี กล่าวต่อว่า ภายหลัง นพ.พรเดชา จึงนำใบเสร็จค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มาตรวจสอบว่า น.ส.เจนใช้เงินจ่ายค่าอะไรไปบ้าง

จึงพบใบเสร็จจำนวนมากที่สั่งจ่ายเช็คโดยไม่รู้ว่าเป็นค่าอะไร จึงเรียก น.ส.เจน มาสอบถาม แต่ น.ส.เจน ไม่สามารถตอบคำถามได้ นพ.พรเดชา จึงสงสัยว่า น.ส.เจน ทุจริต จึงมาปรึกษา ตนจึงแนะนำให้กลับ  ไปหาหลักฐานนำมาแจ้งความให้เรียบร้อย ซึ่งเรื่องนี้ นพ.พรเดชา เข้ามาปรึกษาตน ยังไม่ได้แจ้งความเป็นคดี เพียงแต่ลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น.