ยิง2ศพ-คาคุก นักโทษจลาจล

"ก่อจลาจลยิง จนท.เสียชีวิต"


เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ก.ย. พ.ต.ต.นพพร วิชัยกุล สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ถนนประชาราษฎร์สาย 1 หมู่ 3 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ว่า มีเหตุนักโทษก่อการจลาจลถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต ขอให้ไปชันสูตรพลิกศพด้วย จึงพร้อมด้วยนายพิเชษฐ์ ไพบูลย์ศิริ รอง ผวจ.นนทบุรี พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ ผกก. เจ้าพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช รุดไปสอบสวน

ที่เกิดเหตุเป็นลานปูนระหว่างเรือนนอน 2 ชั้น 2 หลัง ในแดนควบคุมเขต 2 พบเจ้าหน้าที่เรือนจำร่วม 100 นาย เข้าควบคุมสถานการณ์ จับนักโทษกลุ่มหัวโจกมัดมือไพล่หลังบังคับให้นอนคว่ำหน้ากับพื้น ใกล้กันพบศพนายวรวิทย์ สุดสวาท อายุ 20 ปี ผู้ต้องขังคดีครอบครองกัญชาและยาบ้า สวมกางเกงขาสั้นสีฟ้า เสื้อยืดคอกลมสีเหลือง ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าหน้าอก 1 นัด กับนายอนุชา กระสา อายุ 24 ปี ผู้ต้องขังคดี พ.ร.บ.อาวุธปืน และบุกรุก สวมกางเกงขาสั้นสีม่วง ไม่สวมเสื้อ ข้อเท้าถูกตีตรวน ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันเข้ากลางแสกหน้า 1 นัด กลางหลัง 1 นัด และนิ้วนางซ้าย 1 นัด นอนหงายอยู่บนพื้น


"ใช้ไม้ ก้อนหินทุบ เรียกร้องย้าย จนท.ชอบซ้อมผู้ต้องขัง"


ในที่เกิดเหตุพบเหล็กเจียแหลม ค้อน สิ่ว พลั่ว อาวุธที่นักโทษใช้ก่อเหตุถูกทิ้งเกลื่อน มีเศษโต๊ะเก้าอี้ เครื่องนอนถูกเผาเสียหาย นอกจากนี้ ยังพบว่ากระจกหน้าต่างเรือนนอนทั้ง 2 หลัง ถูกทุบแตกเสียหายจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้ต้องขังได้รับบาดเจ็บสาหัส 5 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 22 คน เจ้าหน้าที่เรือนจำที่เข้าระงับเหตุศีรษะแตก 1 คน ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้ถูกส่งไปรักษาตัวที่ รพ.กรมราชทัณฑ์ แล้ว

สอบสวนทราบว่า เมื่อราว 08.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่เรือนจำกำลังจะเปลี่ยนเวร ผู้ต้องขังในแดนควบคุมเขต 2 ได้ก่อเหตุจลาจล จับเจ้าหน้าที่เรือนจำ 3 นาย เป็นตัวประกัน อาละวาดใช้ไม้ ก้อนหินทุบปาเรือนนอน แล้วเอาเครื่องนอน เสื้อผ้า โต๊ะเก้าอี้ วางสุมหน้าเรือนนอนจุดไฟเผา เรียกร้องให้นายปรีชา สุวรพงศ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี พิจารณาย้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุม 3 คน ที่ชอบทำร้ายผู้ต้องขังออกไป และให้เพิ่มสวัสดิการด้านอาหารให้ดีขึ้น นายปรีชาได้รับปากดำเนินการตามข้อเรียกร้อง


"ส่วนใหญ่พอใจ แต่กลุ่มย่อยไม่พอใจเลยทะเลาะกันเอง"


แต่ผู้ต้องขังต้องสลายตัวทันที ผู้ต้องขังส่วนใหญ่พอใจยอมสลายตัว แต่มีผู้ต้องขังหัวรุนแรงบางคนกลับเรียกร้องให้ทางเรือนจำรับรองความปลอดภัย และไม่ให้เพิ่มโทษกับผู้ต้องขังที่ก่อเหตุ ทำให้ผู้ต้องขังที่กำลังทยอยกลับเข้าเรือนนอนไม่พอใจท่าทีของผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว จนเกิดการขว้างปาข้าวของ ด่าทอใส่กันจนสถานการณ์เริ่มรุนแรง และมีผู้ต้องขังบางส่วนพยายามจะพังประตูเรือนจำ นายปรีชาจึงต้องระดมกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ดังกล่าว

ต่อมานายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ จากนั้นได้เปิดเผยว่า ได้นำตัวนักโทษประมาณ 20 คน ที่เป็นแกนนำก่อความไม่สงบไปแยกควบคุม รอการสอบสวน ส่วนเหตุผลที่ต้องใช้


"เรียกคอมมานโดระงับเหตุ"


กำลังเข้าระงับเหตุ เพราะกลุ่มนักโทษพยายามบุกออกทางประตูเรือนจำเพื่อแหกคุกหนี ตนจึงสั่งการให้กำลังชุดคอมมานโดของเรือนจำกลางบางขวาง

ซึ่งอยู่ติดกัน เข้าไปช่วยระงับเหตุ เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการเลียนแบบนักโทษเรือนจำกลางยะลา กับเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ก่อเหตุจลาจลก่อนหน้านี้ ประกอบกับมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อาจมีเจ้าหน้าที่เรือนจำอยู่น้อย จึงถือโอกาสก่อเหตุขึ้น สำหรับการป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นในเรือนจำต่างๆนั้น ตนได้มีคำสั่งให้ทุกเรือนจำเตรียมพร้อมรับมือแล้ว หากเรือนจำใดมีเหตุการณ์ รุนแรง ให้ผู้บัญชาการเรือนจำใช้ดุลยพินิจในการระงับเหตุอย่างเฉียบขาด


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์