กรุงเทพฯ 8 พ.ย.52. -ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการโทรศัพท์หลอกชาวจีน ไต้หวัน ให้โอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ตสร้างความเสียหาย กว่า 30 ล้านบาท
นายจิน ไหว่ พร้อมพวกรวม 4 คน ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 60/283 ชั้น 11 อาคารศุภาลัย พรีเมียร์ เพลส ถนนสุขุมวิท 21 เขตวัฒนา
พร้อมโทรศัพท์มือ 21 เครื่องแฟลชไดรฟ์ 44 อัน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 6 เครื่อง เงินสดกว่า 190,000 หมื่นบาท เงินสดสกุลหยวน อีก 25,100 หยวน (125,500บาท) หลังตำรวจไต้หวันประสานให้จับกุมเนื่องจากแก๊งดังกล่าวใช้ประเทศไทยเป็นฐานในกระทำผิด โทรศัพท์หลอกให้ชาวจีนและไต้หวันที่อยู่ที่ประเทศจีนโอนเงินผ่านระบบอี-แบงกิ้ง มีชาวจีน ไต้หวัน ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก และสร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
สอบผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า จะตั้งเป็นคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นอัยการ เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังและตำรวจโทรศัพท์ โทรศัพท์หลอกชาวจีน ไต้หวัน
ว่าได้กระทำผิดเกี่ยวกับการเงิน เนื่องจากมีการโอนเงินเข้าออกผิดปกติ และจะถูกอายัดบัญชี หากไม่อยากถูกอายัดต้องโอนเงินเข้าบัญชีใหม่ผ่านระบบอี-แบงกิ้ง ซึ่งจะเปิดให้แล้วจัดส่งเอกสารบัญชีใหม่ให้ภายหลัง เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีใหม่ที่เปิดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากนั้นจะทำการโอนเงินไปยังผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นคนไทย
อย่างไรก็ตามเตรียมส่งโน้ตบุ๊กและแฟลชไดรฟ์ให้กลุ่มงานตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อมูล ก่อนแจ้งดำเนินคดีต่อไป
สำหรับผู้ต้องหาแก๊งดังกล่าว จะขอวีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยแล้วเช่าห้องพักจับกลุ่มเปิดบริการทางอินเทอร์เน็ต ทำธุรกรรม อี-แบงกิ้ง โทรศัพท์หลอกให้โอนเงินและมีความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินทางเอทีเอ็มที่ตำรวจท่องเที่ยวจับได้ก่อนหน้านี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลและล่าสุดตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ขึ้นบัญชีดำเป็นบุคคลห้ามเข้าประเทศไทยอีก. -สำนักข่าวไทย