เจ้าหนี้นาธานผวาแจ้งความอ้างมีคนขู่ฆ่า

2 แม่-ลูก คู่กรณี “นาธาน โอร์มาน” ผวาถูกขู่ฆ่า โร่แจ้งความ อ้างพรายกระซิบแจ้งข่าวร้ายให้ทราบก่อนชะตาจะขาด

ระบุญาตินักร้องหนุ่มเตรียมปิดบัญชีแค้นสั่งตายทั้งคู่ พร้อมนำหลักฐานตรายางหน่วยงานภาครัฐ บริษัทผลิตภาพยนตร์ให้ฮอลลีวูด 15 อัน ที่นักร้องหนุ่มเคยใช้ประทับลงบนเอกสารสัญญาต่าง ๆ มามอบให้จนท. เปรยไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นของจริงหรือไม่

กรณี น.ส.สมาน เสริมสุข อายุ 46 ปี ชาว จ.อำนาจเจริญ แม่บ้านทำความสะอาดคอนโดฯ ย่านอุดมสุขให้นายณธัญ โอมานันท์  หรือ “นาธาน โอร์มาน” อายุ 32 ปี

นักร้องหนุ่ม พร้อมนายอาทิตย์ กุลฝ้าย อายุ 24 ปี ลูกชาย เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.หัวหมาก เรื่องนาธาน ยืมเงินไป 300,000 บาท อ้างว่าจะนำไปลงทุนทำธุรกิจทัวร์ โดยยังไม่มีท่าทีว่าจะใช้หนี้คืนแต่อย่างใด ทั้ง ๆ ที่ผู้เสียหายกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากนำที่ดินไปจำนองไว้กับธนาคาร อีกทั้งเงินส่วนหนึ่งได้มาจากการกู้นอกระบบ กลายเป็นเรื่องฉาวให้กับนักร้องหนุ่มขึ้นมาอีกครั้ง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
   
ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 8 พ.ย. ขณะที่ ร.ต.ท. อนุรักษ์ รามสูตร ร้อยเวร สน.คลองตัน

กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่มีนายอาทิตย์ กุลฝ้าย และน.ส.สมาน เสริมสุข 2 แม่ลูกคู่กรณี นาธาน โอร์มาน เดินทางเข้าแจ้งความอ้างว่าถูกญาตินาธานขู่ปองร้าย นายอาทิตย์ให้การว่า หลังจากตนกับแม่เดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.หัวหมาก เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายนาธาน เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา ต่อมาเวลา 22.00 น. วันที่ 7 พ.ย. ตนได้รับการบอกเล่าจากเพื่อนสนิทที่เป็นลูกจ้างร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของร้านเป็นเพื่อนสนิทกับญาติของนาธาน โดยมาเตือนเพื่อนตนว่า ให้อยู่ห่าง ๆ ตนกับแม่เอาไว้ สาเหตุเพราะมีคนต้องการฆ่าตนกับแม่ ด้วยความที่เป็นห่วงเพื่อนคนดังกล่าวได้รีบมาบอกข่าวให้รับทราบ ซึ่งตนเกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงรีบเข้ามาแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานเอาไว้ก่อน
   
ผู้เสียหายกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามวันนี้ได้นำหลักฐานเป็นตรายางของหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทผลิตภาพยนตร์ชื่อดังของฮอลลีวูด 15 อัน

ที่นาธานเคยใช้ประทับลงบนเอกสารสัญญาต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยไม่ทราบว่าเป็นของจริง   หรือของปลอม และนักร้องหนุ่มมีสิทธินำมาใช้หรือไม่มามอบให้พนักงานสอบสวน เนื่องจากตนต้องการจะแจ้งความดำเนินคดีฉ้อโกงกับนายนาธานอีกข้อหาหนึ่งด้วย ด้าน ร.ต.ท.อนุรักษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่อง และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับคดี  ฉ้อโกงนั้น จากการพูดคุยในรายละเอียดเบื้องต้น คาดว่าเหตุที่เกิดน่าจะอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของ สน.หัวหมาก ไม่ก็ สภ.เมืองอำนาจเจริญ ตนได้แนะนำให้ทั้งสองประสานกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเพื่อนำหลักฐานที่นำมาไปมอบให้ และขอทราบความชัดเจนอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่าคดีดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของท้องที่ใดกันแน่.