จับแล้วมือวางบึ้มสังหารโหดผอ.ซี 9 คา สำนักงานเทศบาลสระบุรี เป็น"ส.อ."สังกัดหน่วยรบพิเศษป่าหวาย ก่อนโอนมาทำงานที่เดียวกับผู้ตาย ทั้งยังเป็นกรรมการฟุตบอล"ฟีฟ่า" ตัดสินระดับเยาวชนโลกมาแล้ว
และยังมีลุ้นไปตัดสินบอลโลกปีหน้าด้วย เจ้าตัวรับสารภาพ หลังตำรวจใช้ภาพกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานมัดดิ้นไม่หลุด สาเหตุคับแค้นถูกคนตายเรียกไปต่อว่าเรื่องงาน ทั้งยังกีดกันไม่ให้เกี่ยวข้องกับการจัดงานกีฬานักเรียนที่จังหวัดเป็นเจ้าภาพ "จงรัก"รุดสอบสวนด้วยตัวเอง ก่อนเปิดแถลงขั้นตอนการลงมือสังหารละเอียดยิบ ตร.ระบุระเบิดที่ใช้เป็นแบบแสวงเครื่อง จุดชนวนด้วยโทร.มือถือ เตรียมสอบขยายผลว่ามีคนอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
จากเหตุการณ์คนร้ายวางระเบิดรีโมตสังหาร นายธรรมนูญ ปทุมมาลย์ อายุ 55 ปี ผอ.กองการศึกษา ระดับ 9 เทศบาลเมืองสระบุรี เสียชีวิตคาห้องทำงานบนอาคารสำนักการศึกษา สำนักงานเทศบาลเมืองสระบุรี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 พ.ย. เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานสำคัญเป็นกล้องวงจรปิดภายในสำนักงานที่สามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง ขณะเดินเข้า-ออกช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ ส่วนสาเหตุมุ่งไปที่ปมขัดแย้งเรื่องการทำงานในหน้าที่เกี่ยวกับงบประมาณโครงการด้านการศึกษาที่ผู้ตายไม่ยอมเซ็นอนุมัติ ตามข่าวที่เสนอไปนั้น
จับผู้ตัดสินฟีฟ่า มือวางบื้ม ฆ่าผอ.คาเทศบาล
ทำแผนฯ แขวนระเบิดสังหารนายธรรมนูญ ปทุมมาลย์ ผอ.ซี 9 สระบุรี ตายคาห้องทำงาน
สารภาพไม่พอใจเรื่องการทำงาน เมื่อวันที่ 7 พ.ย.
เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.อุฬาร อเนกบุณย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี สั่งการให้พ.ต.อ. บำรุง คงชีพ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี พ.ต.ท. ไพโรจน์ ตีรโสภณ รอง ผกก.(สส.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนติดตามคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว
เพราะถือเป็นคดีอุกอาจ เหตุเกิดภายในสำนักงานเทศบาลซึ่งอยู่ห่างจากสภ.เมืองสระบุรี เพียง 200 เมตรเท่านั้น จนกระทั่งได้คุมตัวส.อ.ถนอม บริคุต อายุ 40 ปี ผู้ต้องสงสัย เป็นเจ้าหน้าที่สันทนาการ 6 สำนักการศึกษาเทศบาลเมืองสระบุรี มาสอบสวนเนื่องจากมีภาพปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดช่วงก่อนเกิดเหตุ แต่ส.อ.ถนอมให้การปฏิเสธก่อนได้รับการปล่อยตัวไป
ต่อมาเมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 7 พ.ย. พ.ต.อ.บำรุง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบได้นำหมายศาลจังหวัดสระบุรี เข้าจับกุมตัวส.อ. ถนอม ในหมู่บ้านการเคหะ 1 อ.เมืองสระบุรี มาสอบสวนอีกครั้ง และต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีที่สภ.อ. เมืองสระบุรี และได้สอบสวนส.อ. ถนอมด้วยตนเอง
จากนั้นพล.ต.อ.จงรัก ได้เปิดแถลงข่าวพร้อมด้วย พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบก. ภาค 1 พล.ต.ต.อุฬาร อเนกบุณย์ ผบก.ภ.จ. สระบุรี พ.ต.อ.บำรุง คงชีพ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ว่า
จากหลักฐานในภาพจากวงจรปิดของเทศบาล ส.อ.ถนอมได้ให้การรับสารภาพ ว่าเป็นผู้วาง ระเบิดสังหารนายธรรมนูญ โดยนำถุงระเบิดมาแขวนไว้ที่เหล็กดัดหน้าต่างข้างห้องทำงานของนายธรรมนูญ ตอนเวลา 17.00 น. ของวันที่ 5 พ.ย. จากนั้นรุ่งเช้าวันที่ 6 พ.ย. เวลา 06.45 น. ได้ขับรถเบนซ์สีฟ้า หมายเลขทะเบียน กฉ 3910 สระบุรี มาที่ลานจอดรถเทศบาลเมืองสระบุรี แล้วลงจากรถไปเซ็นชื่อ จากนั้นได้เดินขึ้นไปบนอาคารชั้น 3 ด้านหลังอาคาร เพื่อตรวจดูถุงระเบิด
ช่วงนั้น ส.อ.ถนอมพบว่ามีคนหยิบถุงระเบิดลงมาวางไว้กับพื้นระเบียง จึงได้หยิบแขวนไว้ที่เดิม แล้วเดินลงไปนั่งคอยนายธรรมนูญในรถเบนซ์ จนกระทั่งเวลา 07.28 น. นายธรรมนูญผู้ตายเดินทางมาถึง เดินขึ้นไปยังห้องทำงานชั้น 3 ส.อ. ถนอมจึงลงจากรถเดินไปเข้าห้องน้ำชั้นล่างของอา คารทันที แล้วทำการกดรีโมตระเบิด สักครู่หนึ่ง ส.อ.ถนอมเดินออกจากห้องน้ำโดยไม่สนใจเดินขึ้นไปดูเหตุการณ์ และหลบออกจากที่เกิดเหตุทันที
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า สาเหตุการสังหารครั้งนี้เนื่องจากส.อ.ถนอม มีความคับแค้นใจจากการทำงาน ที่ถูกผู้ตายตำหนิเรื่องการทำงานบ่อยครั้ง ทั้งยังกีดกันไม่ให้ได้เป็นผู้บริหาร ล่าสุดยังถูกกีดกันไม่ให้มีบทบาทในการจัดการแข่งขันกีฬานักเรียน "เมืองเพรียวเกมส์" ครั้งที่ 27
ซึ่งเทศบาลเมืองสระบุรีเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในกลุ่มจังหวัดภาคกลาง ระหว่างวันที่ 12-21 พ.ย.นี้ ทั้งที่ตนเองเป็นถึงกรรมการตัดสินของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่ารายงานข่าวเผยว่า ส.อ.ถนอม เคยรับราชการเป็นทหารบก สังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี ก่อนเปลี่ยนอาชีพโอนมาสังกัดสำนักการศึกษาเทศบาลเมืองสระบุรี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่สันทนาการ 6 นอกจากนี้ ปัจจุบัน ส.อ.ถนอม ยังเป็นคณะกรรมการตัดสินฟุตบอลของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และเป็นผู้ช่วยผู้ตัดสินฟุตบอลของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ มีโอกาสเดินทางไปตัดสินการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอียิปต์ และเป็น 1 ใน 15 คนของกรรมการเอเชีย ที่มีสิทธิ์เข้าไปตัดสินการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปีหน้าที่ประเทศแอฟริกาใต้ ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่คุมตัวส.อ.ถนอม ไปฝากขังศาลจังหวัดสระ บุรีและคัดค้านการประกันตัว ศาลอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงนำส่งตัวเข้าไปควบคุมในเรือนจำสระบุรี
พ.ต.อ.บำรุง คงชีพ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี กล่าวว่า ผู้ต้องพาไปชี้ที่เกิดเหตุโดยรับสารภาพว่าเป็นคนเอาถุงระเบิดไปแขวนไว้ ตอนแรกที่ผู้ต้องหาปฏิเสธเพราะยังไม่เห็นหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด แต่เมื่อได้เห็นจึงยอมรับสารภาพต่อหน้าพล.ต.อ.จงรัก และพล.ต.ต.คำรณวิทย์ ส่วนเรื่องระเบิดนั้น เบื้องต้นผู้ต้องหาอ้างว่าประกอบขึ้นเอง เพราะเคยเป็นทหารอยู่หน่วยกู้วัตถุระเบิดมาก่อนจะโอนมาอยู่เทศบาลสระบุรี แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ อย่างไรก็ตาม สำหรับระเบิดที่ใช้ก่อเหตุ เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องทำขึ้นเอง มีการประกอบวงจรจุดชนวนระเบิด ด้วยโทรศัพท์มือถือ ผู้ต้องหารับว่าหลังเกิดเหตุได้ถอดเอาซิมโทรศัพท์ไปทิ้งลงคลอง
ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้ผู้เชี่ยวชาญกู้ข้อมูลจากโทรศัพท์ดังกล่าว เพื่อตรวจสอบหมายเลขที่ใช้โทร.จุดชนวนระเบิด อีกทั้งจะสอบสวนอย่างละเอียดเกี่ยวกับระเบิดว่า ทำอย่างไร มีใครร่วมด้วยหรือไม่ นำอุปกรณ์ต่างๆ มาจากไหน เพราะระเบิดที่ใช้น่าจะเป็นฝีมือของผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับการประกอบระเบิดอย่างดี เพราะทำให้แรงระเบิดพุ่งไปทางเดียว โดยปกติระเบิดจะกระจายไปทั่วแต่ระเบิดที่ทำมาสามารถบังคับทิศทางให้กระจายไปทางเดียว โดยที่ด้านหลังไม่มีสะเก็ดระเบิด
ผกก.สภ.เมืองสระบุรี กล่าวว่า สำหรับหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด จะเห็นหมดว่าผู้ต้องหาเข้ามาตรงไหน อยู่ตรงไหน เวลาเท่าไหร่
แต่ภาพขณะแขวนถุงระเบิดเป็นมุมด้านหลังกล้องจึงไม่เห็น แต่ตอนเดินเข้า-เดินออกเห็นหมดว่าตรงจุดนั้นมีเพียงผู้ต้องหาเพียงคนเดียวที่เดินเข้าไป จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ตั้งแต่เช้าวันที่ 5 พ.ย. ไปจนถึงเช้าวันที่ 6 พ.ย. ไม่พบใครเข้าไปบริเวณดังกล่าวนอกจากผู้ต้องหา ส่วนสาเหตุนั้นเรื่องโกรธแค้นที่ผู้ตายเป็นคนเจ้าระเบียบ และเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นผู้ตัดสินของฟีฟ่า ต้องไปตัดสินการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ต่างๆ บ่อยครั้ง ทำให้ไม่ค่อยได้ไปทำงานที่เทศบาล ผู้ตายคงเรียกผู้ต้องหาไปต่อว่าเรื่องการทำงาน ทำให้ผู้ต้องหาคับแค้นใจ