ม.4รับสิ้น คลอดลูกทิ้งในปั๊ม

โผล่อีกหลังรร.ลำปาง ทารกใส่ถุงดำทิ้งขยะ



ตร.เชียงใหม่เรียกสอบอาของนร.ม.4 คดีคลอดลูกทิ้งในห้องน้ำปั๊ม ยันไม่เคยรู้เรื่องหลานท้องมาก่อน เพราะเพิ่งมาอยู่ด้วยกัน ขณะที่เด็กสาวสารภาพเคยมีสัมพันธ์กับชายที่เพิ่งรู้จักกันที่อุตรดิตถ์แค่ครั้งเดียวก็ท้อง โดยไม่ได้ป้องกัน ก่อนจะย้ายมาอยู่เชียงใหม่กับอา ยอมรับเป็นแม่ของลูกน้อย ตร.แจ้งข้อหาทอดทิ้งเด็ก ส่วนอีกรายที่ลำปาง แม่คลอดลูกชาย ยัดใส่ถุงดำ พลาสติกคลุมหัวนำมาทิ้งกองขยะหลังโรงเรียน ชาวบ้านได้ยินเสียงร้อง ช่วยเหลือไว้ทัน

จากกรณีนักเรียนชั้น ม.4 ในจ.เชียงใหม่ คลอดและทิ้งลูกในถังขยะปั๊มน้ำมันปตท. อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ก่อนจะหลบหนีไปเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 พ.ย. พ.ต.ท.สวัสดิ์ หล้ากาศ รองผกก.สภ.เมือง เชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้ว่า พนักงานสอบสวนเชิญตัวอาของน.ส.ดาว (นามสมมติ) นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.เชียงใหม่ มาสอบปากคำแล้ว และสอบปากคำน.ส.ดาวด้วย

อาของน.ส.ดาวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ดาวโทรศัพท์มาหาอาทั้งสองคน บอกว่าปวดท้องขอให้มารับกลับบ้าน ไม่รู้ว่าเป็นอะไร อาของน.ส.ดาวก็ไม่รู้ว่าหลานตั้งท้อง 9 เดือน แล้ว เพราะปกติน.ส.ดาวรูปร่างท้วมอยู่แล้ว จึงดูไม่ออก เมื่ออามารับที่โรงเรียน ระหว่างขับรถกลับบ้าน แวะเติมน้ำมัน น.ส.ดาวบอกกับอาว่า ปวดท้อง ขอเข้าห้องน้ำในปั๊ม เมื่อเติมน้ำมันเสร็จ ขับมาจอดรอน.ส.ดาวที่หน้าห้องน้ำ ปรากฏว่าเข้าห้องน้ำนานและเปิดน้ำเสียงดัง อาทั้งสองของน.ส.ดาวจึงตะโกนถามว่า "เสร็จหรือยัง" น.ส.ดาวบอกว่ายัง และบอกด้วยว่า ไม่รู้สายอะไรออกมาด้วย ขอให้ไปยืมกรรไกร หรือมีดพนักงานปั๊มมาหน่อย อาจึงไปยืมกรรไกรตัดหญ้าจากพนักงานทำความสะอาดของปั๊มมาให้ โดยน.ส.ดาวไม่ยอมบอกว่าเป็นอะไร แม้แต่ช่วงที่ส่งกรรไกรตัดหญ้าให้น.ส.ดาว ยังต้องส่งทางช่องระบายด้านบน จากนั้นอาไปรอที่รถ กระทั่ง น.ส.ดาวออกจากห้องน้ำ เห็นเลือดเต็มขาทั้งสองข้าง เมื่อสอบถาม น.ส.ดาวบอกว่าเป็นประจำเดือนและรู้สึกปวดท้องมาก

จากนั้นขับรถนำน.ส.ดาวกลับบ้าน ปรากฏว่าน.ส.ดาวมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงเพราะเสียเลือดมาก อาทั้งสองคนจึงให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดนักเรียนเป็นชุดธรรมดาแล้วพาไปหาหมอที่ร.พ.เชียงใหม่แม่และเด็กทันที เมื่อแพทย์ตรวจ พบว่าน.ส.ดาวเพิ่งคลอดลูก สอบถามข้อเท็จจริงจึงรู้ว่าคลอดลูกในห้องน้ำในปั๊มก่อนหน้านี้แล้ว ต่อมาอาทั้งสองจึงรีบไปตรวจสอบ พบทารถถูกนำส่งร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ อาการปลอดภัย น้ำหนัก 3,090 กรัม แพทย์ร.พ.เชียงใหม่แม่และเด็กจึงรับเด็กทารกจากร.พ.มหาราชฯนำมาส่งให้กับน.ส.ดาว ที่นอนรักษาตัวที่ร.พ.เชียงใหม่แม่และเด็ก ซึ่งน.ส.ดาวยอมรับว่าเป็นลูกของตนเอง สำหรับการสอบปากคำอาทั้งสองของน.ส.ดาว ทั้งสองคนไม่รู้ว่าหลานมีท้องและไม่รู้เรื่องการคลอดที่ในปั๊ม เพราะที่ผ่านมา น.ส.ดาวปกปิดตลอดเวลา

ด้านน.ส.ดาวให้การว่า เดิมเป็นคนอุตรดิตถ์ มาเรียนต่อชั้นม.4 ที่เชียงใหม่ ตอนอยู่ที่อุตรดิตถ์ มีสัมพันธ์กับชายคนหนึ่งเพียงครั้งเดียว และไม่รู้ว่าจะตั้งครรภ์ จากนั้นเดินทางมาอยู่ที่เชียงใหม่ โดยอาศัยอยู่กับอาทั้งสองคน และมารู้ว่าตั้งท้องกระทั่งคลอดดังกล่าว ส่วนผู้ชายตนไม่รู้ว่าเป็นใคร ตอนเจอคราวนั้นรู้สึกถูกใจชอบพอกัน จึงมีความสัมพันธ์กันแบบชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น และไม่ป้องกันจนตั้งท้องดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาทอดทิ้งเด็ก ตามมาตรา 306 มีโทษปรับ 6,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ตอนนี้ อาการของน.ส.ดาวพ้นขีดอันตรายแล้ว

อีกรายที่จ.ลำปาง วันเดียวกัน เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุเขลางค์ 191 สภ.เมืองลำปาง รับแจ้งว่าพบทารกแรกเกิดยังมีชีวิตอยู่ ถูกใส่ถุงดำนำมาทิ้งไว้ในถังขยะ ในซอย 5 หลังโรงเรียนบ้านพระบาท ต.พระบาท อ.เมือง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพ โรงพยาบาลลำปางไปช่วยเหลือทารกอย่างเร่งด่วน ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสภ.เมืองลำปางร่วมไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่กู้ชีพร.พ.ลำปางนำเด็กทารกแรกเกิดเป็นเพศชาย ตามตัวเปื้อนเลือดและสายสะดือยังไม่ได้ตัดออกมาปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทำความสะอาดร่างกายและตัดสายสะดือ ก่อนนำตัวไปดูแลรักษาที่ร.พ.ลำปาง ซึ่งเด็กส่งเสียงร้องดังตลอดเวลา

สอบถามทราบว่า นักศึกษาสถาบันเอกชนแห่งหนึ่งในจ.ลำปางซึ่งพักอยู่หอพักบริเวณใกล้เคียงได้ยินเสียงเด็กร้องมาจากถังขยะ จึงเดินไปดู พบว่ามีอะไรดิ้นอยู่ในถุงดำ แต่ไม่กล้าเปิดดู จึงบอกให้ผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยดู

ต่อมานางหลี เงาะหวาน อายุ 72 ปี ซึ่งบ้านอยู่ติดกับที่เกิดเหตุออกมาช่วยนำถุงดำมาเปิดออกดู ต้องตกตะลึงเมื่อพบทารกเพศชายอ้วนท้วนสมบูรณ์ ยังมีสายสะดือติดอยู่ เนื้อตัวเปรอะเปื้อนด้วยคราบเลือด ไม่มีผ้าปกปิดร่างกาย นอนส่งเสียงร้องอยู่ในถุง ที่ศีรษะคลุมด้วยถุงพลาสติกของห้างดังแน่นหนาชั้นหนึ่ง จึงรีบแกะถุงพลาสติกออกจากศีรษะของเด็ก จากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้ง 191 ถ้ามาพบช้ากว่านี้ เด็กอาจเสียชีวิต ตนไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำทารกมาทิ้งไว้ เพราะในซอยเป็นหอพัก จะมีรถจักรยานยนต์ขี่เข้าออกตลอดเวลา

หลังจากช่วยเหลือทารกแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสอบสวนผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมเตรียมลงพื้นที่ใกล้เคียงและสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อหาเบาะแสแม่รายนี้ คาดว่าน่าจะเข้าไปรักษาตัวอยู่ที่ใดที่หนึ่งหลังจากคลอดลูกแล้วนำมาทิ้ง

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวคุณภาพดี โดย : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์