ล่าทีมบึ้มหาดใหญ่ 20นศ.ยะลาออกหมายแล้ว2

ชาวหาดใหญ่ฮือประณามเหตุระเบิดเมือง รวมตัวออกแถลงการณ์ต่อต้านความรุนแรง แฉทีมวินาศกรรมหาดใหญ่ เป็น 20 นักศึกษาจากยะลา โดยมี"ไฟซอล" เป็นคนคุมทีม ล่าสุดตร.ออกหมายจับแล้ว 2 ราย หลังพบขี่จยย.ที่คาดว่าซุกระเบิดมาจอดที่หน้าห้างโอเดียน "แม้ว"

สั่งการจากตปท.ให้ฝ่ายราชการประสานกับเอกชนเพิ่มกล้องวงจรปิดในหาดใหญ่ให้มากขึ้น โดยเฉพาะตามย่านชุมชน และเตรียมเปิดเว็บไซต์รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน หากมีผลสาวไปจับคนร้ายได้จะมีเงินรางวัลให้ รัฐบาลแคนาดาแถลงประณามเหตุระเบิดหาดใหญ่ ส่วนที่นราธิวาสป่วนหนัก แนวร่วมออกอาละวาดเผาโรงเรียน ตู้โทรศัพท์ โปรยตะปูเรือใบดักจนท. ระเบิดเสาสัญญาณรถไฟ "เติ้ง"จี้รัฐบาลฟื้นฟูศอ.บต.และพตท.43

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างแวะพักที่เมืองแคนคูน ประเทศเม็กซิโก ก่อนเดินทางไปประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่สหรัฐอเมริกา ถึงเหตุระเบิดที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ว่า ได้โทรศัพท์สั่งการไปยังน.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้แจ้งพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ให้ลงไปดูแลและจัดการปัญหาในพื้นที่ทันที

นายกฯ กล่าวว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระมหากรุณาธิคุณเสด็จฯ ไปยังสถานที่เกิดเหตุ และเสด็จฯ เยี่ยมคนป่วย รวมทั้งรับสั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลประชาชน ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันตนได้สั่งการไปเพิ่มเติมให้กระทรวงสาธารณสุขไปดูแลการรักษาพยาบาลคนเจ็บ และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางกรุงเทพฯ คงจะเริ่มดำเนินการในวันจันทร์นี้ และจะโทรศัพท์ไปสอบถามความคืบหน้าทางคดีและข้อมูลจากผบ.ตร. ทันทีที่เดินทางถึงนครนิวยอร์ก

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เบื้องต้นสั่งให้ตรวจสอบว่า เหตุใดห้างสรรพสินค้าโอเดียน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศไปจับจ่ายซื้อของจำนวนมาก จึงไม่มีเจ้าหน้าที่ไปคอยดูแล และยังสั่งการเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไปประสานกับภาคเอกชน ซึ่งมีสถานที่ที่ประชาชนไปใช้บริการจำนวนมากให้ติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการ

"หากเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จากภาพโทรทัศน์วงจรปิด จะมีรางวัลให้ในลักษณะรางวัลนำจับ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับเอกชนร่วมมือกับภาครัฐ เพราะการจับกุมผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดธนาคาร 22 จุด ที่ จ.ยะลา ได้เบาะแสจากโทรทัศน์วงจรปิดของธนาคาร นอกจากนี้ อาจเปิดเว็บไซต์เพื่อให้ประชาชนแจ้งเบาะแส โดยเป็นในรูปแบบเอ็มเอ็มเอส หากข้อมูลใดนำไปสู่การจับกุมจะมีรางวัลตอบแทนให้ด้วย" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เท่าที่สอบถามจากพล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ทราบว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมาจากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหนึ่งคือ กลุ่มก่อเหตุไม่พอใจที่เรามีความคืบหน้าในการติดตามจับกุมคนร้าย โดยเฉพาะที่ก่อเหตุวางระเบิดธนาคารหลายแห่งได้หลายคน และหลายคนรับสารภาพและพาดพิงถึงคนอื่นด้วย จากการสอบสวนเบื้องต้นมีประชาชนหลายคนเห็นคนร้ายที่นำระเบิดมาวาง มีหน้าตาคล้ายกับผู้ที่เคยก่อเหตุที่ยังหลบหนีการจับกุมอยู่ เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อมโยงกับเหตุก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายกฯ อยู่ที่นครนิวยอร์ก จะร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งในการประชุมนายกฯ จะกำชับครม. ให้นำเหตุการณ์วางระเบิดที่หาดใหญ่มาเป็นหัวใจหลักในการพิจารณาหารือกัน และจะย้ำให้ดูแลเรื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใย และรีบดำเนินการโดยด่วน

เวลา 08.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม เป็นประธานการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยพล.ต.อ.ชิดชัยให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมถึงเหตุระเบิดกลางเมืองหาดใหญ่ ว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีห่วงใยมาก และสั่งการให้ตนควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย รวมทั้งสั่งให้ ผบ.ตร.นำกำลังลงไปในพื้นที่พร้อมกับรมว.กลาโหม และผบ.ทบ. ทั้งนี้ต้องขอชื่นชมผวจ. และผู้บังคับการตำรวจจังหวัดที่ได้พยายามควบคุมสถานการณ์จนได้

"ผมต้องขอประณามผู้ก่อเหตุ เพราะเป็นการลอบทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่ทำมาหากินโดยสุจริต และทำลายธุรกิจการค้าของหาดใหญ่ และภาคใต้ ถือว่าแย่มาก ซึ่งนายกฯ ได้สั่งการให้ดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่ ส่วนที่มีชาวต่างชาติเสียชีวิตด้วยนั้น ต้องทำหนังสือชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไป" พล.ต.อ.ชิดชัยกล่าว และว่า ส่วนเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยนั้น ประชาชนถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล เพราะกำลังตำรวจและทหารจะมีเฉพาะในจุดที่วางไว้ ซึ่งอาจจะมีช่องโหว่ได้

เมื่อถามว่าทางการข่าวมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าแล้ว ทำไมถึงปล่อยให้เกิดเหตุระเบิดขึ้นได้ พล.ต.อ.ชิดชัยกล่าวว่า จากการติดตามข่าวเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายบอกว่ามีความพร้อมที่จะรองรับสถานการณ์ ดังนั้นจึงต้องไปดูว่าเมื่อมีความพร้อมแล้วเหตุใดจึงยังมีช่องโหว่อยู่ เพราะในด้านการข่าวนั้นตนก็ได้ถาม จี้ และเร่งรัดอยู่ตลอด จนเขาเริ่มไม่พอใจแล้ว ต้องยอมรับว่าการข่าวของเรายังตามหลังผู้ก่อเหตุอยู่ ขอให้เป็นบทเรียนที่ต้องไปดูว่ามีช่องว่างตรงไหนบ้าง ซึ่งทางผบ.ทบ.ไม่ได้รายงานถึงอุปสรรคในการทำงานแต่อย่างใด เพราะในการทำงานมีฝ่ายเลขาฯ ซึ่งประกอบด้วย ทบ. และสมช. ซึ่งต้องมาพิจารณาร่วมกันว่ามีอะไรที่ต้องปรับปรุงบ้าง

ต่อข้อถามว่าผู้ก่อเหตุครั้งนี้เป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยวางระเบิดสนามบินหาดใหญ่เมื่อปี 2548 หรือไม่ พล.ต.อ.ชิดชัยกล่าวว่า ยังไม่อยากพูดเดี๋ยวจะเสียรูปคดี เจ้าหน้าที่กำลังพยายามทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้พยายามปิดล้อม ตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยอยู่ ส่วนความจำเป็นในการขยายการบังคับใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินมายัง อ.หาดใหญ่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่จะพิจารณาถึงความจำเป็น ไม่ใช่ตนจะตัดสินใจคนเดียว

ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.ชิดชัยกล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่ได้พูดคุยในเรื่องการขยายเขตพื้นที่ใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งไม่ได้คุยกันเรื่องทำหนังสือชี้แจงต่อสถานทูตประเทศต่างๆ ในกรณีที่มีชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุระเบิดดังกล่าว โดยที่ประชุมได้พูดคุยกันถึงเหตุการณ์ระเบิดพร้อมวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่กลุ่มก่อการร้ายสามารถวางระเบิดได้หลายจุดเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าระวังผิดที่ ซึ่งการแก้ไขจะต้องรื้อระบบการข่าวให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร ว่า ขณะนี้คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก ตำรวจดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลในพื้นที่ที่เกิดเหตุ เชื่อว่าตำรวจจะขยายผลไปถึงกลุ่มผู้ลงมือก่อเหตุได้ การค้าขายในพื้นที่ที่เกิดเหตุทุกจุดสามารถค้าขายได้ตามปกติ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศไทยยังเชื่อว่าเจ้าหน้าที่สามารถดูแลความปลอดภัยให้ได้ อยากขอความร่วมมือไปยังประชาชนทุกคน หากมีเบาะแสในเรื่องนี้หรือพบอะไรที่ผิดปกติสามารถแจ้งตำรวจใกล้เคียงได้

และคงยังไม่มีความจำเป็นที่จะประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินใน อ.หาดใหญ่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังสามารถดูแลได้ เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการเกี่ยวโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ที่พรรคชาติไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงปัญหาภาคใต้ว่า ที่รัฐบาลบอกว่าจะมอบอำนาจเด็ดขาดในการแก้ปัญหาใต้ให้กับผบ.ทบ. แต่เท่าที่ติดตามจากข่าวยังไม่ได้มอบอำนาจให้อย่างเด็ดขาด สำหรับตนเห็นว่าควรจะมีการฟื้น ศอ.บต.ขึ้นมา ไม่ต้องกลัวเสียหน้า รวมทั้ง พตท.43 ขึ้นมาด้วย เพราะเป็นกลไกที่รวมทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือนเข้าด้วยกัน ซึ่งตนเคยดูแลเมื่อครั้งที่เป็นรมว.มหาดไทย ที่เกิดเหตุปิดตลาดปัตตานี 7 วัน 7 คืน ซึ่งนายพลากร สุวรรณรัฐ เป็นผู้ว่าฯปัตตานีอยู่ ปัญหาภาคใต้เป็นเรื่องที่หมักหมมมามาก ดังนั้นจะต้องมีอำนาจเด็ดขาดในการแก้ไขทั้งแข็งและอ่อนปัญหาคงจะเบาบางลงไปได้ การให้คนนั้นคนนี้ลงไปทำให้ปัญหาบานปลายมากขึ้น ยืนยันว่าการมีศอ.บต.จะแก้ปัญหาได้ดีที่สุด

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายปีเจอร์ แม็คคาย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแคนาดา แถลงประณามผู้อยู่เบื้องหลังเหตุก่อการร้ายลอบวางระเบิดใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งทำให้นายเจสซี ลี แดเนียล ครูสอนภาษาอังกฤษชาวแคนาดา และคนไทย เสียชีวิตรวม 4 ราย ว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตทั้งหมด

"น่าสลดใจอย่างยิ่งที่เหตุก่อการร้ายครั้งนี้ทำให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งนายเจสซี ลี แดเนียล ชาวแคนาดา ต้องจบชีวิต แคนาดาขอประกาศว่าจะร่วมมือกับประเทศไทยและพันธมิตรอื่นๆ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เพื่อต่อสู้กับภัยก่อการร้าย และเราขอสนับสนุนให้รัฐบาลไทยทำงานต่อไปและใช้แนวทางสันติแก้ปัญหาผู้ก่อการร้ายและความไม่สงบที่เกิดขึ้นในภาคใต้" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแคนาดากล่าว

พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบช.ภ.9 กล่าวว่า การควบคุมสถานการณ์ทางภาคใต้ ต้องเข้าปรึกษากับทางพล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาค 4 ผอ.สส.จชต. เพื่อปรับแผนการทำงาน ส่วนเรื่องการจะขยายพื้นที่การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่มหรือไม่ต้องหารือกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ภาคใต้ยืนยันว่าเป็นการก่อการร้ายในประเทศเท่านั้น ไม่มีผู้ก่อการร้ายจากต่างประเทศมาร่วม

ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.วรพงษ์ ซิวปรีชา รองผบช.สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า พร้อมด้วยทีมสืบสวน และพนักงานสอบสวนของสภ.อ.หาดใหญ่ ได้เดินทางไปยังร้านนิวเชอรี่นวดแผนโบราณ ถ.เสน่หานุสรณ์ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่มีผู้เสียชีวิต 4 ราย เพื่อเชิญพนักงานในร้านมาทำการสอบปากคำ เพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับคนร้าย ทั้งนี้มีรายงานว่าจากการสอบสวนพยานแวดล้อมเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 2 คน เป็นนักศึกษาของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา ภายหลังจากพบเบาะแสสำคัญว่าเป็นผู้ที่ขับรถ จยย.มาจอดไว้ที่หน้าห้างโอเดียนช็อปปิ้งมอลล์

รายงานข่าวจากชุดสืบสวนศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลา (ศปก.ตร.สน.ยะลา) ระบุว่าขณะนี้จากแนวทางการสืบสวนที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่มีความเชี่ยวชาญด้านการประกอบวัตถุระเบิดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ นายไฟซอล หะยีสะมะแอ อายุ 23 ปี หัวหน้ากลุ่มก่อวินาศกรรม ของขบวนการกู้ชาติปัตตานี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาที่ 373/2548 ลงวันที่ 12 เม.ย.48 จากเหตุการณ์วางระเบิดสนามบินนานาชาติหาดใหญ่และสถานที่ใกล้เคียงรวม 3 แห่ง ใน จ.สงขลา เมื่อวันที่ 3 เม.ย.48 โดยนายไฟซอลมีรางวัลนำจับถึง 3 ล้านบาท

สำหรับแนวร่วมที่ลงมือก่อวินาศกรรมครั้งนี้พบว่าทั้งหมดเป็นนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา ที่มีการศึกษาในระดับปริญญาตรี อยู่ในการควบคุมของนายไฟซอล

รายงานข่าวยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนายไฟซอลแล้ว ชุดสืบสวนยังพุ่งเป้าไปที่นายอับดุลพาเมล สาและ หรือมีชื่อจัดตั้งว่า โคเบ อินโด อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 4 บ.กาโด๊ะ ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาลอบวางระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.รือเสาะ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 5 นายและได้รับบาดเจ็บอีก 3 นาย เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา

จากการสอบสวนในเชิงลึกของชุดสืบสอนของศปก.ตร.ส่วนหน้า พบว่ากลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อวินาศกรรมในอ.หาดใหญ่ มีทั้งหมดด้วยกัน 20 คน เป็นแนวร่วมที่เป็นนักศึกษาดังกล่าว มีการแบ่งหน้าที่กันออกเป็น 3 ฝ่ายโดยฝ่ายหารถจักรยานยนต์มาประกอบระเบิด จุดที่ใช้ในการประกอบระเบิด เป็นบ้านเช่าของแนวร่วมในพื้นที่ซึ่งเช่าบ้านอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ฝ่ายที่ 2 ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยว มาเช่าโรงแรมชั้น 2 ในพื้นที่รอบๆ บริเวณที่มีการวางระเบิด เพื่อดูความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ และวิธีการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะบล็อกจุดวางระเบิด 4 วันด้วยกัน และเป็นผู้ทำหน้าที่จุดชนวนระเบิด หลังจากที่ฝ่ายที่ 3 ขับรถจักรยานยนต์ที่ประกอบระเบิดแล้ว มาจอด และหลังจากทำการสำเร็จแล้ว แนวร่วมทั้งหมดได้สลายตัวออกจากพื้นที่อ.หาดใหญ่ในทันที

เมื่อเวลา 14.00 น.ที่มูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊งหาดใหญ่ นายสมพร ใช้บางยาง ผวจ.สงขลา พร้อมตัวแทนจากกาชาดจังหวัดสงขลา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา เดินทางมามอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวนางสาวจรณินทร์ สีพรม ชาวจ.เชียงราย และนางนิชาภา เสหมี ชาว จ.เชียงราย ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุระเบิด ที่ได้เดินทางมาขอรับศพ

นายสมพรกล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าจะดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่ให้ถึงที่สุด พี่น้องประชาชนชาวสงขลา และชาวหาดใหญ่รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่พระองค์ท่านทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเพื่อปลอบขวัญ ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่

ล่าสุดศูนย์นเรนทร จ.สงขลา สรุปจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดกลางเมืองหาดใหญ่ โดยมียอดของผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บที่ยังคงรักษาตัวอยู่ตามร.พ.ต่างๆ อีก 30 คน ประกอบด้วยร.พ.หาดใหญ่ 5 คน ร.พ.สงขลานครินทร์ 14 คน ร.พ.ราษฎร์ยินดี 9 คน ร.พ.ศิครินทร์ 2 คน มีอาการสาหัส 12 คน ประกอบด้วยนางธิราวรรณ วิญญูสิงขร นางจิราพร กวานสุวรรณ ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.หาดใหญ่ ส่วนอีก 7 คนอยู่ที่ร.พ.สงขลานครินทร์ และ 3 คนรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.ราษฎร์ยินดี ทั้งนี้เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นได้ส่งผลให้มียอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 74 ราย

เวลา 10.00 น. กลุ่มประชาชนคนรักหาดใหญ่ นำโดยนายภาณุ พิทักษ์เผ่า ได้ออกตระเวนเดินแจกจ่ายใบปลิวย่านตลาดกิมหยง และย่านศูนย์กลางธุรกิจใจกลางเมืองหาดใหญ่ โดยใบปลิวระบุว่า "หาดใหญ่ลุกเป็นไฟ...คนหาดใหญ่ต้องตื่นตัว เราจะร่วมมือกันอย่างไร?...ให้เป็นครั้งสุดท้าย" เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกสาขาอาชีพ ร่วมกันออกมาแสดงพลังกันต่อต้านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และชาวหาดใหญ่ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก เนื่องจากเป็นการคุกคามความสงบสุขของประชาชน เป็นภัยร้ายแรงจนสร้างผลกระทบต่อทุกสาขาอาชีพ สร้างความหวาดระแวงแก่พี่น้องประชาชน อีกทั้งผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อความรุนแรง

ใบปลิวระบุอีกว่าในวันที่ 20 ก.ย. นี้เวลา 15.00 น.ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่ร่วมกันแต่งกายด้วยชุดขาวดำ รวมตัวกันที่หน้าบริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่ เพื่อออกมาแสดงพลังโดยการเดินไว้อาลัย และสร้างขวัญกำลังใจ ไปตามย่านธุรกิจกลางเมืองหาดใหญ่ และจะมาหยุดที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโอเดียนช็อปปิ้งมอลล์ เพื่อร่วมกันกล่าวคำไว้อาลัยต่อผู้สูญเสียในเหตุการณ์ดังกล่าว

ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 00.05 น. ร.ต.ท.วัชรินทร์ ตันเจริญรัตน์ ร้อยเวรสภ.อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านซากอ ม.1 ต.สากอ จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร รุดไปตรวจสอบ พบชาวบ้านและชรบ.จำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันดับไฟห้องครัวของอาคารโรงอาหารโรงเรียน จึงใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำสกัด ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีไฟจึงสงบลง โรงอาหารได้รับความเสียหายเล็กน้อย ต่อมาในเวลา 00.30 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งคนร้ายลอบวางเพลิงตู้โทรศัพท์แบบหยอดเหรียญ ริมถนนในหมู่บ้านตะมะยูง ม.2 ต.ตะมะยูง ได้รับความเสียหาย

ส่วนที่ อ.รือเสาะ เจ้าหน้าที่สภ.อ.รือเสาะ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นชุดๆ หลายนัดที่บริเวณบ้านยาแลเบาะ ม.4 ต.รือเสาะ จึงยกกำลังไปตรวจสอบ แต่ไม่พบอะไรผิดปกติ แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายโปรยตาปูเรือใบวางไว้บนถนนเป็นระยะตลอดเส้นทาง อย่างไรก็ตามรถเจ้าหน้าที่สามารถแล่นผ่านไปได้อย่างปลอดภัย ต่อมาได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบเผายางรถยนต์บนถนนสายรือเสาะ-นราธิวาส บ้านลาเมาะ ม.7 จึงไปตรวจสอบ พบว่าคนร้ายแอบโปรยตาปูเรือใบวางไว้ตลอดเส้นทาง มีรถยนต์ของประชาชนและเจ้าหน้าที่เสียหายไปหลายคัน และคนร้ายยังได้โปรยตาปูเรือใบบนถนนสายรือเสาะ-จากั๊วะ อีกหลายจุด ระดมเจ้าหน้าที่ออกไปเก็บกวาดกันทั้งคืน

ที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส มีเหตุคนร้ายตัดต้นไม้ขวางถนนสายสุไหงปาดี-สากอ บ้านสือแด ม.7 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จึงจัดกำลังไปเคลื่อนย้ายออก จนใช้ถนนได้ตามปกติ และมีเหตุลอบวางเพลิงรถยนต์ 6 ล้อ ของศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันนราธิวาส ซึ่งจอดซ่อมอยู่ภายในอู่ไม่มีเลขที่ ในตลาดล่างเขตเทศบาลตำบลปะลุรู ได้รับความเสียหายเกือบทั้งคัน

ต่อมาช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งคนร้ายลอบวางเพลิงเครื่องสูบน้ำ ริมแม่น้ำสายบุรี บ้านท่าเรือ ม.1 ต.รือเสาะ ได้รับความเสียหายทั้งหลังไม่สามารถใช้การได้ และเกิดเหตุระเบิดเสาสัญญาณให้รถไฟผ่าน ริมรางรถไฟสายรือเสาะ-ลาโละ ม.1 บ้านปือดอ ห่างจากสถานีรถไฟรือเสาะ 1 ก.ม.จึงไปตรวจสอบ พบคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุไว้ในปิ่นโตสูง 1 ฟุต จุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือวางไว้ใต้โคนเสาสัญญาณรถไฟหยุดรอเข้าสถานีรถไฟรือเสาะ ในที่เกิดเหตุพบเศษปิ่นโต เศษเหล็กสะเก็ดระเบิด โทรศัพท์มือถือ ดินระเบิด ปุ๋ยยูเรียไนเตรต ตกเกลื่อน แต่รถไฟทุกขบวนยังวิ่งได้

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด