สั่งปิดโรงเรียนกรุง มีตายแล้วเซ่นโรคปากเท้าเปื่อย

ช็อกทั้งเมืองโรคปากเปื่อย-เท้าเปื่อยระบาดกรุง มีเด็กเสียชีวิตแล้ว 6 ราย ล่าสุดเป็นเด็กชายอายุ 6 ขวบ ชั้นป.1 โรงเรียนดังกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ผู้บริหารสั่งปิดโรงเรียนทันที พร้อมประสานกทม.มาฉีดยาและฆ่าเชื้อในโรงเรียน ออกจม.เตือนผู้ปกครองให้ช่วยดูแลอาการบุตรหลานด้วย หากมีไข้ขึ้นสูงผิดปกติ ต้องรีบพบแพทย์ทันที เพราะเป็นโรคติดต่อทางสัมผัสและน้ำลาย-น้ำมูก เผยด.ช.นอนป่วยแค่ 3 วัน

ก็สิ้นใจอย่างเฉียบพลัน แพทย์ชี้เป็นอาการข้ามขั้นรุนแรง เพราะปกติจะเริ่มมีตุ่มบวมในปาก-มือ และเท้าก่อน แต่รายนี้อาการลุกลามไปที่ปอดทันที ส่งตรวจว่าเป็นเชื้อโรคปากเปื่อย-เท้าเปื่อยหรือไม่ กรมควบคุมโรครีบเข้าพื้นที่หาข้อมูลน.ร.-ครูที่ใกล้ชิดกับเด็กผู้ตาย เพื่อหาทางป้องกันไว้ก่อน นายกโรคติดเชื้อในเด็กชี้อย่าเพิ่งวิตกเกินเหตุ เพราะเป็นไวรัสที่พบบ่อย ระบาดในช่วงหน้าฝนส่วนใหญ่เป็นแล้วจะหายไปเอง มีรายอาการหนักเสียชีวิตแค่ 1 ในหมื่นเท่านั้น

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุตื่นตระหนกขึ้นในเขตกรุงเทพฯ เนื่องจากมีเด็กชายวัย 6 ขวบ นักเรียนชั้นป.1 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ป่วยและเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ต่อมามีการตรวจสอบเบื้องต้นสงสัยว่าอาจจะเสียชีวิตด้วยโรคปากเท้าเปื่อย ซึ่งเป็นโรคติดต่อในเด็ก ทำให้ผู้บริหารโรงเรียนประสานงานไปยังสำนักอนามัย กทม. มาฉีดยาป้องกันเชื้อโรคและทำความสะอาดโรงเรียน ในวันที่ 19 ก.ย. จึงมีคำสั่งปิดการเรียนการสอนอย่างเร่งด่วน โดยระดับมัธยมปิดการเรียนการสอนในวันที่ 19 ก.ย. ส่วนระดับประถมปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 19-21 ก.ย.นี้

พร้อมกันนี้ผู้บริหารโรงเรียนทำหนังสือชี้แจงถึงผู้ปกครองนักเรียน โดยระบุว่า โรงเรียนมีความจำเป็นต้องหยุดเรียนเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในบริเวณที่จำเป็น จึงให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 หยุดเรียนเป็นเวลา 3 วัน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หยุดเรียน 1 วัน เนื่องจากมีนักเรียนต้องสงสัยเป็นโรคมือเท้าเปื่อย ซึ่งโรงเรียนร่วมกับสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคดังกล่าวมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามระหว่างหยุดโรงเรียนนี้ขอให้ผู้ปกครองเฝ้าระวัง คอยสังเกตอาการของนักเรียนตามข้อมูลที่โรงเรียนแนบมา หากมีอาการน่าสงสัยให้รีบนำไปพบแพทย์และแจ้งให้โรงเรียนทราบโดยทันที

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้มีเด็กหญิง อายุ 3 ขวบ 7 เดือน อาศัยอยู่ใน ซ.20 มิถุนา เขตห้วยขวาง กทม. เสียชีวิตโดยฉับพลันที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ(โรงพยาบาลเด็ก) เบื้องต้นไม่มีอาการบ่งชี้ว่าเป็นโรคมือ เท้า ปาก แต่มีแนวโน้มว่าจะติดเชื้อจากโรคดังกล่าว ซึ่งรายนี้นับว่าเป็นเด็กที่เสียชีวิตเป็นรายที่ 5 และเด็กจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนเสียชีวิตเป็นรายที่ 6

น.พ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเบื้องต้นตรวจสอบพบว่าเริ่มมีอาการตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตรียน ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. แต่อาการทรุดหนักจึงส่งต่อไปยังโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ วันที่ 15 ก.ย. แต่แพทย์พยายามช่วยเหลือเพียงวันเดียวก็เสียชีวิต เมื่อวันที่ 16 ก.ย. อาการของเด็กชายคนดังกล่าวไม่มีอาการที่มือ เท้า และปาก แต่ข้ามขั้นไปแสดงอาการที่ปอด มีอาการน้ำท่วมปอด โดยจากอาการทางคลินิกแพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นว่า เป็นอาการของโรคเอนเทอโรไวรัส 71 หรือมือเท้าปาก

"เด็กชายรายดังกล่าวเป็นผู้ป่วยที่มีอาการข้ามขั้น ซึ่งมีอาการรุนแรงคือไม่แสดงอาการมีตุ่มใส ที่มือ เท้า หรือปาก แต่ติดเชื้อที่ปอดเลย ถือเป็นรายที่ 5 ของปีนี้ ที่โรคแสดงอาการข้ามขั้นดังกล่าว ซึ่งโรคมือเท้าปาก เมื่อเชื้อเข้าสู่ปอด โอกาสที่จะเสียชีวิตจะมีสูง ที่ผ่านมาประเทศไทย มีผู้ป่วยลักษณะดังกล่าว 9 ราย" น.พ.ธวัช กล่าว

น.พ.ธวัช กล่าวต่อว่า กรมควบคุมโรคจะส่งทีมเจ้าหน้าที่ระบาดวิทยาเข้าไปสอบสวนโรค โดยดูในเรื่องสุขาภิบาลภายในโรงเรียนว่าผู้ป่วยสัมผัสใกล้ชิดใครบ้าง ไม่ว่าจะทานอาหารร่วมกัน เข้าห้องน้ำ หรือเล่นกับใครบ้าง และภายในโรงเรียนยังมีเด็กที่ป่วยหรือมีอาการเดียวกันหรือไม่ เพื่อหาผู้ป่วยที่เข้าข่ายต้องเฝ้าระวังโรค เพราะโรคดังกล่าวติดต่อจากการสัมผัส อย่างไรก็ตามจะต้องรอการยืนยันผลการตรวจเชื้อจากห้องปฏิบัติการอีกครั้ง

ด้านน.พ.ไพจิตร์ วราชิต อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานการส่งเชื้อผู้ป่วยมาตรวจแต่อย่างใด แต่ตามปกติหากเกิดโรคมือเท้าปากขึ้น จะส่งเชื้อมาตรวจยังห้องปฏิบัติการของกรม โดยมี 2 วิธี คือการตรวจยืนยันระดับห้องปฏิบัติการ(PCR) ใช้เวลาประมาณ 1 วัน และการตรวจหาภูมิต้านทานโดยจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน เพื่อเป็นการยืนยันผลให้ถูกต้องที่สุด

น.พ.สมศักดิ์ โลห์เลขา นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โรคดังกล่าวเป็นโรคที่ในต่างประเทศถือว่าทุกคนต้องป่วย และในไทยมีการระบาดทุกปี 70% ของผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคมือเท้าปากจะไม่แสดงอาการ แต่อีก 30% จะมีอาการไข้สูงประมาณ 2-4 วัน และจะหายไปเอง ในรายที่มีอาการหนักจะมีอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิต โดยอัตราการเสียชีวิตมีประมาณ 1 ต่อหมื่นรายเท่านั้น

น.พ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า พบผู้ป่วยที่แสดงอาการมากในอายุ 1-5 ขวบ และฤดูฝนเป็นช่วงที่มีการป่วยมากที่สุด เนื่องจากโรคดังกล่าวสามารถติดต่อผ่านทางน้ำลาย น้ำมูก รวมถึงเชื้อโรคที่มากับน้ำท่วมด้วยเช่นกัน อาการของโรค คือไข้สูงในช่วง 2-4 วันแรก หลังจากนั้นเด็กจะไม่ยอมทานข้าว เนื่องจากมีแผลภายในปากจำนวนมาก บางรายมีตุ่มขึ้นบริเวณมือและเท้า หัวใจเต้นเร็ว ในรายที่เสียชีวิตพบว่าเชื้อไวรัสเข้าไปทำลายก้านสมอง

"เมื่อ 2 เดือนก่อนก็มีการระบาดทำให้เด็กที่จ.นครราชสีมา ป่วยเข้ารับการรักษาในร.พ.เดียวกันถึง 3 ราย แม้ว่าในประเทศไทยจะไม่มีสถิติของผู้ป่วยโรคดังกล่าว แต่ก็ถือว่าไม่ผิดปกติ เพราะมีการระบาดเป็นปกติทุกปี" น.พ.สมศักดิ์ กล่าว

นายสิทธิสัตย์ เจียมวงศ์แพทย์ ผอ.สำนักอนามัย(สนอ.) กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เด็กที่เสียชีวิตเป็นเด็กชาย อายุ 6 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1 โดยเสียชีวิตตั้งแต่คืนวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา มีอาการสมองอักเสบ ปอดบวม กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน และเสียชีวิตทันที อย่างไรก็ตามจะต้องรอผลการตรวจทางห้องแล็บจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อยืนยันว่าเป็นโรคมือเท้าปากหรือไม่ ทั้งนี้ในวันที่ 19 กทม.ประสานงานให้ศูนย์บริการสาธารณสุข 23 ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนเพื่อควบคุมโรคทันที

นายอนุสรณ์ ไทยเดชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าผู้บริหารโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้สั่งปิดการเรียนการสอน แต่จะสั่งปิดเนื่องจากมีนักเรียนป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคปากเปื่อยเท้าเปื่อย ทั้งนี้ ในการสั่งปิดการเรียนการสอนนั้นหากไม่เกิน 3 วัน เป็นอำนาจของผู้อำนวยการโรงเรียนสามารถสั่งปิดได้ทันที แต่หากเกินกว่า 7 วัน ต้องรายงานมายัง สช. อย่างไรก็ตามตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ทำหนังสือแจ้งไปยังโรงเรียนเอกชนในสังกัดทุกแห่งให้ระมัดระวังและป้องกันโรคปากเปื่อยเท้าเปื่อยแล้ว เพราะได้รับรายงานจาก กทม. ว่า มีการระบาดของโรคดังกล่าวอยู่

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด