ม.4แอบคลอดลูกในปั๊มยัดถุงดำ โชคดีช่วยทารกทัน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 พ.ย. ร.ต.อ เกริกชัย กิตติ ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้นำทารกมาทิ้งในถังขยะในปั๊มน้ำมัน ปตท. ถ.มหิดล  อ.เมืองเชียงใหม่

โดยที่ทารกยังมีชีวิต หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุ พบพนักงานปั๊มได้ช่วยกันแกะถุงดำออกแล้วมีเด็กทารกเพศชาย อายุ 9 เดือน เลือดเต็มตัว ร้องหายใจรวยริน สายรกติดอยู่ที่สะดือยาวประมาณ 1 ฟุต เจ้าหน้าที่รีบนำส่ง รพ.มหาราชนครเชียงใหม่เป็นการด่วน ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบกองเลือดในห้่องน้ำหญิง และเลือดไหลเป็นทางมายังถังขยะนอกห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในปั๊มทันที พบมีรถปิกอัพ และรถตู้ต้องสงสัย จึงได้ตรวจเช็คเป็นการด่วน กระทั่งทราบว่ามีหญิงสองคนขึ้นรถปิกอัพออกจากปั๊มไป ทางตำรวจจึงได้ตรวจเช็คที่ รพ.และคลินิก ต่าง ๆ

จากการสอบสวน แม่บ้านของปั๊มน้ำมัน ปตท.ผู้พบเด็กทารกคนแรก ให้การว่า ตอนที่ตนกำลังจะมาทำความสะอาดห้องน้ำ ได้มีหญิงสาวลักษณะอ้วนเตี้ยล่ำ ใส่กางเกงขาสั้นเสื้อยืดสีเขียว มาขอยืมกรรไกรตัดตบแต่งดอกไม้

ซึ่งตนก็ได้ให้ยืมไปโดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ จากนั้น ก็ได้ยินเสียงโอ๊ย ตนไม่ได้สนใจอะไรก็ได้ทำความสะอาดห้องน้ำผู้ชายต่อ กระทั่งเมื่อออกมาก็พบว่า หญิงดังกล่าวได้ออกจากปั๊มไปแล้ว และต่อมาก็มีพนักงานมาบอกว่าห้องน้ำผู้หญิงนั้นมีคราบเลือด ตนจึงเข้าไปดู และก็ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องในถังขยะ จึงรีบแจ้งให้กับทางผู้จัดการปั๊ม ผู้จัดการปั๊มได้ให้พนักงานเปิดปากถุงก็พบเด็กทารกดังกล่าวยังมีชีวิต ซึ่งลักษณะของการนำทารกใส่ถุงดำนั้น แม่ของเด็กได้พันปากถุงลักษณะคล้ายกับให้ทารกได้เสียชีวิตด้วยการขาดอากาศเพราะม้วนปากถุงลักษณะพับไปกับตัวทารก โชคดีที่เด็กทารกหายใจเนื่องจากภายในถุงยังพอมีอากาศซึ่งก็ค่อย ๆ หมดไป ดีที่พนักงานมาเห็นและได้ยินเสียงจึงสามารถช่วยไว้ได้ทัน

พ.ต.ท.สวัสดิ์ หล้ากาศ รองผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบตัวมารดาของเด็กทารกแล้ว คือน.ส.หญิง (นามสมมติ) อายุ 16 ปี กำลังศึกษาชั้นม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง

ก่อนเกิดเหตุ น.ส. หญิง เกิดปวดท้องอย่างหนักจึงเรียกอาผู้หญิง กับอาผู้ชายมารับจากโรงเรียน และแวะเข้าปั๊มน้ำมัน จากนั้นนส.หญิง ก็เข้าห้องน้ำและคลอดทารกออกมา จึงต้องยืมกรรไกรตัดหญ้าจากพนักงานปั๊มมาตัด สายรกและนส.หญิง ก็นำเด็กยัดใส่ถุงและทิ้งถังขยะ พอทิ้งเด็กเสร็จเรียบร้อยก็เกิดปวดท้องอย่างหนัก เนื่องจากตกเลือดทางญาติจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลแม่และเด็ก ให้แพทย์รักษาตัวเป็นการด่วน หลังการสอบสวนทางพนักงานสอบสวนคงต้องรอให้อาการนส.หญิง หายดีก่อนแล้วจะควบคุมตัวมาสอบสวนและอาจจะตั้งข้อหาทอดทิ้งเด็ก และหากการสอบปากคำเข้าข่ายพยายามฆ่า ก็จะดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์