บุกทลายบ่อนโป๊กเกอร์กลางพัทยา

จู่โจมทลายบ่อนโป๊กเกอร์กลางเมืองพัทยาครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.20 น. วันที่ 2 พ.ย. พ.ต.อ.อธิศวิส กมลรัตน์ ผกก. ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี

พร้อมด้วย พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย ผกก. สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ชูศักดิ์ เคทอง รอง ผกก. ช่วยราชการ กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับ   การค้ามนุษย์ (กก.2 บก.ปคม.) นำกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 50 นาย พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา ที่ 618/ 2552 บุกตรวจค้นโรงแรมเอนคอร์ เลขที่ 109/29 ซอย 14 ถนนพระตำหนัก หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มาเปิดห้องพักเพื่อลักลอบเล่นการพนันโป๊กเกอร์มาเป็นเวลานานแล้ว และคาดว่าทางโรงแรมน่าจะมีส่วนรู้เห็น
   
จากการตรวจสอบพบว่าโรงแรมดังกล่าวเป็นอาคารสูง 6 ชั้น ด้านล่างเป็นเคาน์เตอร์ติดต่อห้องพักและบาร์เบียร์

โดยทางตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.พรพรรษา สมบัติมาก อายุ 27 ปี เจ้าของโรงแรมที่ยืนดูต้นทางอยู่ด้านล่างไว้ ก่อนนำกำลังบุกค้นเป้าหมายภายในห้อง บี 301 บนชั้น 2 ซึ่งทางโรงแรมดัดแปลงเป็นห้องขนาดใหญ่ไว้สำหรับเล่นการพนัน พบชายชาวต่างชาติ และหญิงชาวไทยจำนวนมาก กำลังนั่งเล่นพนันไพ่โป๊กเกอร์กันอย่างสนุกสนาน เมื่อเห็นตำรวจต่างพากันพยายามจะวิ่งหลบหนี สามารถจับกุมตัวไว้ได้ทั้งหมด 10 คน
   
สอบสวนทราบชื่อต่อมาคือ นายโจฮาน โอลอฟ เอเบิร์ก อายุ 37 ปี นายลีฟ มาตติ แอนเดรียส มาลมิ อายุ 37 ปี ทั้งคู่สัญชาติสวีเดน, นายอฟาราฮาม บาชาร์ อายุ 52 ปี สัญชาติอิสราเอล, นายวิลเล-เปคคา วิลฮูเนน อายุ 23 ปี นายวิลเล    อิลาริ เลน อายุ 25 ปี นายฮานนู ทาปิโอ ลาฮทิเนน อายุ 23 ปี นายเอ็ดดี ฟาเบียน ลูนด์เกรน อายุ 31 ปี และนายจารโน ตาปานี ปาสสิ อายุ 36 ปี ทั้งหมดสัญชาติฟินแลนด์ และจับกุมสาวไทยทำหน้าที่บริการเสิร์ฟน้ำ-อาหารอีก 2 คน ทราบชื่อ น.ส.เกศินี หล้าหัวหน้า อายุ 25 ปี และ น.ส.จารุณี กิ่งน้อย อายุ 29 ปี พร้อมยึดของกลางโต๊ะและอุปกรณ์การเล่นพนันโป๊กเกอร์ ไพ่โป๊กเกอร์ 25 สำรับ เงินสด 124,000 บาท ชิปแทนเงินสดมูลค่า 850,000 บาท ป้ายดีลเลอร์ 5 แผ่น  กล้องบันทึกภาพวิดีโอวงจรปิด 1 ตัว และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง ภายในมีบัญชีรายชื่อลูกค้าและรายรับรายจ่ายในการเล่นพนัน
   
พ.ต.อ.อธิศวิส หัวหน้าชุดจับกุม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้มีชาวต่างชาติลักลอบเปิดบ่อนเล่นพนันไพ่โป๊กเกอร์อยู่ภายในโรงแรมดังกล่าว

และทางเจ้าของโรงแรมก็มีส่วนรู้เห็นด้วย จึงส่งสายลับทำทีเป็นแขกเข้าไปพักคอยหาข่าววงใน จนทราบว่าบริเวณทางเข้าโรงแรมชั้นล่างมีกล้องวงจรปิดติดไว้ และส่งภาพเข้าไปยังห้องที่ใช้เล่นพนัน หากมีตำรวจบุกจับกุมก็จะรู้และพากันหลบหนีได้โดยง่าย จึงทำให้ยากต่อการจับกุม จากการสอบปากคำ น.ส.พรพรรษา เจ้าของโรงแรม ให้การรับสารภาพว่า มีชาวต่างชาติรายหนึ่งสั่งซื้ออุปกรณ์การเล่นโป๊กเกอร์รวมถึงชิปแลกเงินจากต่างประเทศ ก่อนจัดใส่ตู้คอนเทเนอร์แล้วส่งมาทางเรือ เพื่อนำมาเปิดให้แขกที่มาพักในโรงแรมเล่นพนัน โดยตนจะได้ส่วนแบ่งจำนวนหนึ่งเป็นค่าสถานที่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การมากนัก จะได้สอบสวนขยายผลต่อไป.