เฒ่าโหดฆ่า8 ขวบ..หมกบ่อเกรอะ-โบกปูนทับ !
ตลอด 4 ปี หัวอกคนเป็นแม่ยังรอความหวังว่า สักวันหนึ่งลูกสาววัย 8 ขวบ ที่หายตัวไปจะกลับคืนสู่อ้อมอกในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า สุดท้ายความหวังก็ต้องมาพังทลาย เมื่อตำรวจจับกุมผู้ต้องหาที่ลักพาตัวเด็กไป พร้อมทั้งให้การรับสารภาพว่าได้ฆ่าหมกศพในบ่อเกรอะโบกปูนทับไปตั้งนานแล้ว
เหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2549 ซึ่งเป็นวันเด็กยังคงอยู่ในความทรงจำของ "รุ่งอรุณ เจนรัมย์" วัย 36 ปี อย่างไม่ลืมเลือน เพราะมันเป็นวันสุดท้ายที่เธอได้เห็นหน้าน้องเมย์ ลูกสาววัย 8 ขวบ ที่บอกกับเธอแค่ว่าจะไปเล่นกับเพื่อน รุ่งอรุณกระวนกระวายใจมากเมื่อเห็นลูกสาวหายไปนานผิดปกติ ไปถามเด็กๆ ก็บอกว่าเห็นนั่งรถกระบะมาสด้าไปกับ "นายคนึง เพิ่มสิน" คนงานก่อสร้างวัย 56 ปี เธอพยายามโทรศัพท์สอบถามนายคนึงก็ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง สุดท้ายเลยไปแจ้งความต่อตำรวจ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ไว้
"ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาฉันก็ตามหาลูกสาวตลอด ขณะเดียวกันก็พยายามทำใจ เพาะต้องทำงานหาเงินเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน คือ พี่ชายและน้องชายของน้องเมย์ ฉันต้องทำงานคนเดียว เพราะเลิกรากับสามีไปนานแล้ว ในใจก็พยายามคิดว่า ถ้าน้องเมย์ถูกลักพาตัวไปจริง สักวันหนึ่งพอเขาเติบโตขึ้นมาก็คงกลับมาหาฉัน ทุกวันนี้เวลาใครให้เสื้อผ้าเด็กผู้หญิง ฉันเห็นว่าน้องเมย์คงใส่ได้ก็เก็บเอาไว้ เผื่อวันที่เขากลับมา แต่พอได้รู้ว่าน้องเมย์จากไปแล้วกลับทำใจไม่ได้ เสียใจมาก ได้เจอนายคนึงหลังถูกจับ ถามว่า ถ้าลูกหลานของตัวเองเจอแบบนี้บ้างจะรู้สึกยังไง เขาไม่ตอบ ได้แต่พยักหน้าครั้งสองครั้งแล้วล้มตัวนอน ฉันคิดถึงลูกสาวมาก" รุ่งอรุณ พรั่งพรูความรู้สึกเศร้าสะเทือนใจ
เมื่อเกือบ 4 ปีก่อน พ.ต.ท.บัลลังก์ โพธิ์ทอง พงส.(สบ 2) สภ.บางพลี ได้ทำสำนวนการสอบสวนตั้งแต่วันที่รับแจ้งความว่าน้องเมย์หายตัวไป เก็บรวบรวมพยานหลักฐานและขออำนาจศาลจังหวัดสมุทรปราการอนุมัติหมายจับ 55/2549 ลงวันที่ 21 มกราคม 2549 ในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง หลังจากนั้นชุดสืบสวนก็ออกหาเบาะแสของผู้ต้องหารายนี้เรื่อยมา จากการตรวจสอบพบว่า นายคนึงมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ จ.ตาก เมื่อเดินทางไปก็คลาดเคลื่อนกันตลอด เนื่องจากถิ่นที่อยู่เป็นป่าเขา หากมีคนแปลกหน้าเข้าไปจะรู้ตัวก่อนเสมอ
นอกจากนี้ นายคนึงยังเป็นคนชอบดื่มสุราเป็นอาจิณ มีเมียหนึ่งคนเดินทางไปทำงานรับจ้างก่อสร้างด้วยกันเสมอ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครสามารถติดต่อหรือหาความเชื่อมโยงการทำงานของสามี ภรรยาคู่นี้ได้ กระทั่ง พ.ต.ต.วรรณพรต ปิ่นปกบุตร สว.สส.สภ.บางพลี และ ด.ต.บุญยิ่ง พันธุเมฆินทร์ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.บางพลี นำแฟ้มข้อมูลคดีมาตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนจะสุ่มไปยังบ้านพักของเมียนายคนึงเลขที่ 344/1 หมู่ 4 ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และตรวจสอบกับสายข่าวในพื้นที่ก็ได้รับรายงานกลับมาว่า นายคนึงพักอยู่กับเมียที่บ้านหลังนี้จริง ชุดสืบสวนจึงเดินทางไปจับกุม
ทันทีที่นายคนึงเห็นหมายจับก็ยอมรับว่าเป็นคนในหมายจับ แต่พูดไม่ได้เนื่องจากป่วยต้องเจาะคอ ภรรยาที่อยู่ด้วยตกใจถึงกับร้องไห้ อย่างไรก็ดีนายคนึงปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ โดยเขียนลงบนกระดาษว่าไม่รู้ไม่ทราบ ทว่าชุดสืบสวนมั่นใจในพยานหลักฐานที่รวบรวมเอาไว้ พยายามพูดจาปลอบโยน หาข้าวหาน้ำให้ กระทั่ง ด.ต.บุญยิ่ง เข้าไปช่วยพูดกับนายคนึง โดยยกเหตุผลว่า หากน้องเมย์เสียชีวิตแล้วก็บอกมา จะได้ปลดปล่อยวิญญาณของเด็ก แต่ถ้ายังม