หมอพรทิพย์ ดังเป็นพลุข้ามประเทศ ฝ่ายค้านมาเลเซียเชิญพิสูจน์ศพ ผู้ช่วย ส.ส. ตกตึกตายปริศนา หลังถูกคณะกรรมการต่อต้านคอรัปชั่นเรียกสอบ ฟันธงส่อถูกฆาตกรรม 80% ขัดแย้งกับแพทย์มาเลย์ ทำการเมืองป่วน ขอให้ยกคณะผ่าศพเองโดยตรง
ผู้สื่อข่าวพิเศษมติชนออนไลน์ รายงานจากกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2552 ว่า แพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ชื่อเสียงโด่งดังถึงประเทศมาเลเซีย เมื่อรัฐบาลรัฐสลังงอร์(ฝ่ายค้านมาเลเซียเป็นผู้ครองอำนาจ)ได้เชิญ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์เข้าให้การในฐานะพยานผู้เชี่ยวชาญต่อคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุการตายปริศนาของโต๊ะ เบ็ง ฮก (Teoh Beng Hock) อดีตผู้สื่อข่าวหนุ่มซึ่งลาออกมาเป็นผู้ช่วย ส.ส.ฝ่ายค้านหลังจากถูกคณะกรรมการต่อต้านการคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (The Malaysian Anti-Corruption Commission - MACC )เรียกไปสอบสวนกลางดึกและมีการพบศพบนหลังตึกชั้น 5 ในอาคารเดียวกับที่ตั้งของ MACC ซึ่งความเห็นของแพทย์หญิงคุณหญิงแพทย์ทิพย์เหมือนระเบิดลงในกระบวนการการสืบสวนคดีการเมืองของมาเลเซียคดีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพิจารณาภาพและรายงานการชันสูตรพลิกศพรวมทั้งผลการเก็บข้อมูลของคณะทำงานจากประเทศไทยแล้ว แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ลงความเห็นว่า 80 เปอร์เซ็นต์ การตายของโต๊ะ เบ็ง ฮก มาจากการฆาตกรรมมากกว่าการฆ่าตัวตาย!โดยอ้างว่า หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า รอยช้ำรอบๆคอของโต๊ะเบ็งฮกน่าจะเป็นเป็นร่องรอยของการถูกบีบคอด้วยมือมากกว่าการรัดด้วยวัสดุอื่น ในขณะที่รอยแตกของกระโหลกศีรษะไม่ใช่รูปแบบของรอยแตกอันเกิดจากการหล่นจากที่สูง นอกจากนั้นรอยแผลภายในก้นของเขาอาจเกิดจากการถูกของมีคมทิ่มเข้าใปก่อนที่เขาจะหล่นจากตัวตึก
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ยังมีความเห็นแย้งกับแพทย์ฝ่ายมาเลเซียที่ว่า โต๊ะเบ็งฮก ตกจากตึกสูงในขณะที่ยังมีสติอยู่ โดยกล่าวว่า เขาอาจจะหมดสติไปแล้วด้วยบาดแผลต่างๆ ที่เขาได้รับก่อนที่จะหล่นลงจากตึก โดยสังเกตได้จากการที่ร่างกายไม่มีปฏิกิริยาสนองต่อการบาดเจ็บจากการหล่นกระทบพื้นตามปกติของคนที่ยังมีสติรู้ตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ของไทยเดินทางกลับเมืองไทยเมื่อเสร็จหน้าที่ แต่คำให้การของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์เป็นเหตุให้พรรคฝ่ายค้านมีดำริที่จะขุดศพเบ็งฮกขึ้นมาชันสูตรกันอีกครั้ง โดยข่าวบอกว่า คราวนี้อยากจะขอให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์และคณะเป็นผู้ชันสูตรเอง ซึ่งเรื่องนี้ได้รับอนุญาตจากครอบครัวของโต๊ะเบ็งฮกแล้ว แต่ก็ต้องดูต่อไปว่าในแง่กฏหมายนั้นจะต้องผ่านการอนุญาตของศาลหรือไม่อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานโตธเบ็งฮก ตายเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมาท่ามกลางการต่อสู้ทางการเมืองอย่างดุเดือดระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล จนบางคนเรียก การตายของโต๊ะเบ็งฮกว่า ศพการเมืองศพแรกในยุคของนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งพรรคอัมโน
ก่อนเสียชีวิตในตอนค่ำของวันที่ 15 กรกฎาคม โต๊ะเบ็งฮกถูกเรียกตัวเข้าให้การต่อ MACC โดย MACC อ้างว่า มีผู้ร้องเรียนกรณีการโกงกินของนักการเมืองฝ่ายค้านซึ่งเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาลของรัฐสลังงอร์ ในขณะนั้น MACC ไม่ระบุตัวผู้ถูกกล่าวหาที่ชัดเจน แต่ใช้วิธีสอบสวนแบบ กวาด ด้วยการบุกเข้าตรวจค้นเอกสารในสำนักงาน ส.ส.ฝ่ายค้านหลายราย และเรียกตัว ส.ส.และผู้ช่วยเข้าสอบสวนทั้งในยามกลางวันและกลางคืน
ในวันรุ่งขึ้นไม่มีใครติดต่อโต๊ะเบ็งฮกได้ จนกระทั้งราวๆ 17.00 น.องวันถัดมา ข่าวก็เริ่มแพร่สะพัดไปว่าพบศพชายผู้หนึ่งบนหลังคาชั้น 5 ของห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นตัวตึกที่เชื่อมกับตึกอันเป็นที่ตั้งของสำนักงาน MACC ซึ่งอยู่บนชั้นที่ 14
จากการชันสูตรศพเบื้องต้นพบว่า เบ็กฮกเสียชีวิตตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ของวันที่ 16 กรกฎาคม ถ้ามองจากที่สูง เขาอยู่ในท่านอนตะแคงข้างเหมือนคนกำลังหลับ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นได้ว่าขาข้างหนึ่งบิดเบี้ยวผิดรูป รองเท้าข้างหนึ่งหายไป กางเกงบริเวณก้นมีรอยขาดและมีเศษวัสดุที่พบภายหลังว่าเป็นกรอบหน้าต่างของห้องสอบสวนร่วงลงมาด้วย
เจ้าหน้าที่ MACC ผู้สอบสวนเบ็งฮกให้การว่า การสอบสวนซึ่งเกิดขึ้นในเวลากลางคืนกินเวลาทั้งหมดเก้าชั่วโมง เบ็งฮกถูกปล่อยตัวในเวลา 06.30 น.ตอนเช้าของวันที่ 16 กรกฎาคม แต่เขาขอนอนพักภายนอกห้องสอบสวนของสำนักงานต่อ หลังจากนั้นไม่มีใครเห็นเขาในสำนักงานอีกเลย อย่างไรก็ตาม MACC ไม่มีบันทึกเวลาการเริ่มต้นและสิ้นสุดการสืบสวนในครั้งนั้นไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ชวนสงสัย
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวคุณภาพดี โดย : หยังสือพิม์มติชน