โจรป่วนใต้ขู่ยิงหัวผอ.รร.

"ยิงพรุนทั้งคัน"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (15 ก.ย.) ร.ต.ท.ศิริพงษ์ อ่อนละมุล ร้อยเวร สภ.อ.ตากใบ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายคารถ 2 ศพ บนถนนสายตากใบ-สุไหงโก-ลก บ้านโคกยาง หมู่ 5 ต.พร่อน จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.เจตน์ เจริญยืน รอง ผกก.ป. นำกำลังไปตรวจสอบ

พบรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กข 169 นราธิวาส จอดเสียหลักริมเกาะกลางถนน สภาพรถมีรอยถูกยิงพรุนทั้งคัน ในเบาะคนขับพบศพถูกยิงฟุบจมเลือด ทราบชื่อนายชัยโรจน์ เจ๊ะและ อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านตาบา หมู่ 1 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ บ้านเลขที่ 30/2 ท้องที่เดียวกัน ถูกยิงด้วยปืนอาก้าที่บริเวณใบหน้าและตามร่างกายพรุน ส่วนในเบาะด้านซ้ายพบศพเพื่อนของนายชัยโรจน์ ชื่อนายอายุ บินยาโก๊บ ชาวมาเลเซีย อยู่เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ถูกยิงบริเวณใบหน้าและลำตัวพรุนเช่นกัน ภายในรถพบปืนลูกซองยาวกับวิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ชื่อนางนาปีซะ มิงบาเละ อายุ 48 ปี ภรรยาของนายชัยโรจน์ถูกยิงที่แขน นำส่ง รพ.ตากใบ ไปก่อน ห่างกันประมาณ 800 เมตร พบปลอกกระสุนปืนอาก้ากระจายเกลื่อนถนนจำนวน 19 ปลอก


"ขับไล่แซง อาก้ากราดถล่ม"


จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายชัยโรจน์ขับรถไปส่งนายอายุ ซึ่งทำกิจการเจ้าของเรือประมงที่ด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มีนางนาปีซะภรรยานั่งมาที่เบาะหลัง เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นทางยูเทิร์นก่อนถึงสะพานโคกยาง มีกลุ่มคนร้ายใช้รถกระบะเป็นพาหนะไล่ตามแซงประกบใช้ปืนอาก้ากราดยิงถล่มหูดับตับไหม้ นายชัยโรจน์ถูกยิงพยายามประคองรถหลบหนีก่อนเสียหลักชนเกาะกลางถนนเสียชีวิตพร้อมกับนายอายุ ส่วนนางนาปีซะภรรยาบาดเจ็บ คาดเป็นการสร้างสถานการณ์ ของกลุ่มก่อความไม่สงบ

ที่ จ.ยะลา เมื่อเวลา 16.15 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท. สมศักดิ์ แสงสิน ร้อยเวร สภ.อ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุยิงกันที่ถนนเวฬุวัน ซอย 8 เขตเทศบาลนครยะลา ไปสอบสวนพบเลือดกับรถ จักรยานยนต์ซูซูกิ รุ่นคริสตัล สีดำ ทะเบียน กธล 538 ยะลา ล้มอยู่ ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.ศูนย์ยะลาชื่อนายมะรอสาลี ตาเย๊ะ อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 8 บ้านตือระ ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดที่ชายโครงซ้าย 1 นัด กระสุนฝังใน อาการสาหัส สอบสวนทราบว่า นายมะรอสาลีขี่รถ จักรยานยนต์จะไปหาเพื่อนมาถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้าย 2 คน ขี่รถ จักรยานยนต์ไล่ตามประกบยิง ส่วนสาเหตุสันนิษฐานเป็นเรื่องส่วนตัวกับโจรป่วนใต้สร้างสถานการณ์


"หลอกวางระเบิด"


รายงานแจ้งว่า ตอนสายวันเดียวกัน คนร้ายใช้ กระถางต้นไม้ทุ่มใส่กระจกอาคารศูนย์เทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา แตกเสียหายแล้ววางถุงพลาสติกสีดำทิ้งไว้ก่อนขี่รถ จักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีเขียว ทะเบียน กนษ 990 ยะลา หลบหนี ต่อมา พ.ต.ต.วิรัตน์ ดำคง สวป.สภ.อ.เมืองยะลา นำกำลังไปตรวจสอบพบเป็นเพียงขุยมะพร้าวอัดไว้ในถุงเพาะชำ ไม่พบวัตถุระเบิด ขณะเดียวกัน จ.ส.ต.วิฑูร จันทร์บาลใจ และ ส.ต.อ.เชาว์ พันธรัตน์

สายตรวจ 191 พบผู้ต้องสงสัยขี่รถ จักรยานยนต์ไล่ดึงธงชาติที่ติดหน้ารถโดยสารเล็ก แล้วหลบหนีไปจอดหน้าบ้านเลขที่ 267/19 ถนนเทศบาล 9 จึงเข้าจับกุมทราบชื่อนายเอก (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาปี 4 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พร้อมของกลางมีดดาบและมีดสปาร์ตา 2 เล่ม คุมส่ง ร.ต.ท.จบ แก้วศรีจันทร์ ร้อยเวร สอบสวนนายเอกให้การว่า ที่ก่อเหตุเพราะไม่พอใจคนไทย ต่อมามีญาติเข้าพบพนักงานสอบสวนอ้างว่านายเอกมีอาการทางประสาท คุมตัวไว้ดำเนินการต่อไป

เช้าวันเดียวกัน ร.ต.ท.จบ แก้วศรีจันทร์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองยะลา รับแจ้งจากนางเจริญ หนาดดี อายุ27 ปี ผช.ผอ. รร.บ้านป่าหวัง หมู่ 11 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา ว่ามีชายลึกลับโทรศัพท์มาข่มขู่จะทำร้ายแล้ววางสายไป ต่อมาขณะขี่รถ จักรยานยนต์อยู่ในซอย 8 ถนนผังเมือง 4 มีชายวัยรุ่นลักษณะเป็นชาวไทยมุสลิมหน้าตาไม่น่าไว้วางใจขี่รถ จักรยานยนต์ติดตามเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงมาแจ้งความกับตำรวจ ก่อนหน้านั้นนายนันทเดช สามสี อายุ 48 ปี ผอ.รร.บ้านเจาะบันตัง หมู่ 9 ต.บันนังสตา เข้าแจ้งพนักงานสอบสวนว่า มีชายลึกลับสำเนียงเป็นชาวไทยมุสลิม โทร.มาข่มขู่ว่าจะยิง ผอ.และครูทุกคนในโรงเรียน เพราะไม่พอใจกรณีเจ้าหน้าที่ไปจับกุมผู้ต้องหาในหมู่บ้านเจาะบันตัง


"ครูยิงขู่"


ที่ห้องประชุมโรงแรมปาร์ควิว เขตเทศบาลนครยะลา มีการประชุมประจำเดือนผู้บริหารโรงเรียนในพื้นที่เขตการศึกษาพื้นที่เขต 2 จ.ยะลา ระหว่างการประชุมผู้บริหารโรงเรียน 6 โรง ในพื้นที่ อ.บันนังสตาเปิดเผยว่าถูกคนร้ายโทรศัพท์มาข่มขู่เหมือนกันว่า หากเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นหมู่บ้าน ผู้ที่จะถูกจัดการเป็นคนแรกคือผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่ อ.บันนังสตา จากการตรวจสอบพบเบอร์ที่โทร.มาคือหมายเลข 0-7322-2713 เป็นเบอร์ ตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าองค์การโทรศัพท์ยะลา ทำให้ พวกตนรู้สึกหวาดกลัวมาก

ด้านนายปิยะพร มณีรัตน์ อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรครูทางการศึกษากล่าวว่า เพิ่งทราบเรื่องครูถูกข่มขู่แต่ทำได้เพียงเตือนให้ครูระมัดระวังตัว พร้อมกับวิงวอนคนร้ายอย่าทำอะไรกลุ่มครูเลย เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันได้แจ้งผู้บริหารโรงเรียนไปว่าหากเห็นว่าสถานการณ์ไม่น่าไว้ วางใจก็ให้ปิดโรงเรียนชั่วคราวแล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ครูในพื้นที่เขตการศึกษา 2 จะมีการประชุมปรึกษาหารือกันอีกครั้ง


"ให้ทำงานเชิงรุก"


พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีคนร้ายลอบยิงผู้ใหญ่บ้านพร้อมเพื่อนชาวมาเลเซียเสียชีวิตที่ จ.ยะลา ว่า ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพราะเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ ขณะเดียวกันได้กำชับหน่วยงานในพื้นที่ระมัดระวังการก่อเหตุในช่วงวันที่ 16-20 ก.ย. ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการส่งมอบอำนาจให้ ผบ.ทบ.จะมีผลกระทบให้การทำงานชะงักหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า ไม่ ขณะนี้ได้มุ่งเน้นงานด้านทหารเป็นหลักและประสานไปทางฝ่ายปกครองเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันได้แจ้งไปทางตำรวจสิ่งไหนควรจะต้องหารือกัน

เช่น พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จะต้องหารือกันก่อนจะนำไปปฏิบัติเพราะผลจากการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ ที่ลงไปตรวจสอบพบว่ามีปัญหาซึ่งเรื่องตรงนี้ได้เน้นย้ำ ถ้าจะใช้ พ.ร.ก.ก็ต้องคุยกันทั้ง 3 ฝ่ายคือ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ส่วนการตรวจค้นในพื้นที่ ได้ให้หน่วยทหารที่เกาะติดพื้นที่เป็นผู้ตรวจสอบ ถ้าผู้ ก่อเหตุเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านต่างๆ และประเมินได้ว่าหมู่บ้านใดเป็นหมู่บ้านต้องสงสัย ก็จะทำงานเชิงรุกตามที่วางแผนไว้เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง

ที่อาคารราชนาวิกสภา หอประชุมกองทัพเรือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ได้ลงไปดูเรื่องการศึกษาให้เยาวชนมีโอกาสด้านการศึกษามากขึ้น เรื่องทุนการศึกษา การส่งเสริมวิชาชีพ และการเพิ่มการศึกษาด้านสามัญในโรงเรียนสอนศาสนา รวมถึงโรงเรียนปอเนาะ ซึ่งรูปแบบของโรงเรียนเพียงปรับโรงเรียนให้มีความก้าวหน้าทันสมัย โดยเพิ่มวิชาชีพ การศึกษาในสายสามัญเข้าไป ซึ่งการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจ สามารถแยกแยะเรื่องราวต่างๆได้ดีขึ้น


"ไล่ประกบยิงด้วยอาก้า"


ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้เป็นอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ขณะนี้เหตุการณ์ค่อนข้างรุนแรง มีการลอบวางระเบิด ทำให้ ประชาชนไม่อยากลงไปท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ เฉพาะหน้า แต่สิ่งที่เรามองถึงคือโอกาสข้างหน้าที่บ้านเมืองจะกลับไปสู่ความสงบ เมื่อถามว่าจะแก้ไขด้วยยุทธวิธี หรือทางยุทธศาสตร์ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า คงตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้มีหน้าที่ ปัจจุบันเพียงแค่ช่วยทางด้านการศึกษาเท่านั้น

ถัดมาเวลา 17.20 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.นรเศรษฐ์ สุขศรี ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนในหมู่บ้านบือแนกูวะ หมู่ 2 ต.บาโงสะโต ไปสอบสวนพบรถเก๋งมิตซูบิซิ แลนเซอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กข 139 ปัตตานี ถูกยิงตัวรถปรุพรุนจอดเสียหลักบริเวณไหล่ทาง พบศพนายสุเด็ง ดอฆอ อายุ 39 ปี อส. อ.ระแงะ ถูกยิงด้วยปืนอาก้าที่ศีรษะและหน้าอก สอบพบว่านายสุเด็งถูกคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย. ไล่ประกบยิงขณะขับรถกลับบ้านหลังเลิกงาน สำหรับนายสุเด็งเป็นอดีต ขจก.พูโล กลุ่มนายสะรี ตะโล๊ะมีญอ กลับใจเข้ารายงานตัวเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเมื่อประมาณ 8 ปีที่ผ่านมา



แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์