จับสาวใหญ่ตุ๋นฝรั่ง หลอกชมวิวก่อนรีดเงิน

รวบสาวใหญ่หนึ่งในแก๊งกรรโชกทรัพย์ชาวต่างชาติ แฉพฤติกรรมร่วมมือคนขับสามล้อ หลอกพานักท่องเที่ยวลงเรือหางยาวชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนเรียกเก็บเงิน 5,000 บาท หากเหยื่อขัดขืนไม่ให้จะถูกถีบตกน้ำ เจ้าตัวยอมรับทำมาแล้ว 7-8 ราย เคยจับโยนน้ำ-ทิ้งให้ลอยคอ ตร.เร่งติดตามเพื่อนร่วมแก๊งอีก 2 ราย

เหตุการณ์ตำรวจท่องเที่ยวจับกุมสาวใหญ่พฤติกรรมร่วมกับพวกที่หลบหนีกรรโชกทรัพย์ชาวต่างชาติครั้งนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 กันยายน พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบก.ทท.) แถลงข่าวการจับกุมตัว นาวิไลวรรณ พื้นนวน อายุ 47 ปี ตามหมายจับ เลขที่ 2894/2549 ลงวันที่ 14 กันยายน 2549 ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ชาวต่างชาติ โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ สาขาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง แขวงและพระนคร กทม.

พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวหลายรายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจท่องเที่ยวว่า มีกลุ่มแก๊งคนไทยร่วมกับคนขับรถสามล้อมาชักชวนให้ไปท่องเที่ยวโดยการลงเรือหางยาวชมวิวในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งหลงเชื่อว่าเป็นบุคคลที่มีจิตใจดีและมีน้ำใจต่อนักท่องเที่ยวจึงลงเรือด้วย จากนั้นได้ถูกกลุ่มแก๊งดังกล่าวเรียกเก็บเงินคนละ 5,000 บาท เพื่อเป็นค่าลงเรือท่องเที่ยว หากไม่จ่ายเงินก็จะถีบลงน้ำ และบางรายก็ข่มขู่ว่าจะไม่นำส่งขึ้นฝั่ง นักท่องเที่ยวเกิดความกลัวจึงยอมจ่ายเงินให้กับแก๊งดังกล่าว และได้มาแจ้งความร้องทุกข์ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว

พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวอีกว่า การกระทำของผู้ต้องหาได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวม สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของประเทศไทยตลอดจนการท่องเที่ยว ดังนั้น จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.พันธนะ นุชนารถ สว.งานสืบสวน กก.1 บก.ทท. ทำการสืบสวนออกติดตามหาตัวคนร้าย กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว

ด้าน นางวิไลวรรณ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับ นายจอห์นสัน หรือน้อย และนายยงยุทธ หรือดาว ไม่ทราบนามสกุล หลอกลวงนักท่องเที่ยวจริง โดยจะขับรถสามล้อไปตามสถานที่ต่างๆ เมื่อเห็นชาวต่างชาติก็จะเข้าไปตีสนิท ชักชวนไปเที่ยวโดยการนั่งเรือ

"เมื่อชาวต่างชาติหลงเชื่อก็จะให้นั่งเรือหางยาวออกไปกลางแม่น้ำเจ้าพระยา และขู่บังคับเก็บค่าโดยสารคนละ 5,000 บาท รายไหนไม่ให้ก็จะจับโยนแม่น้ำ ทิ้งให้ลอยคออยู่ในน้ำ ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 7-8 ราย" นางวิไลวรรณ กล่าว

เบื้องต้นตำรวจท่องเที่ยวได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และจะออกติดตามจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งอีก 2 คนยังที่หลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก