ทัวร์วิทยาลัยดังคว่ำ-อจ.สาวดับ3

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 25 ต.ค. พ.ต.ท. สมพงษ์ แก่นจันทร์ สารวัตรเวร สภ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์

รับแจ้งเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำมีผู้รับบาดเจ็บจำนวนมากและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ระหว่างก.ม.ที่ 25-26 สายสุรินทร์-ศรีสะเกษ หมู่ 7 บ้านไทร ต.จารพัด จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิอรรถ ทองหล่อ ผกก.สภ.ศีขรภูมิ ตำรวจจราจรและสายตรวจ และหน่วยกู้ชีพ ร.พ.ศีขรภูมิ รุดไปให้การช่วยเหลือ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นถนนปรับผิวถนนใหม่ ยังไม่มีเส้นแบ่งกึ่งกลาง ไม่มีแสงสว่าง พบรถบัสปรับอากาศ ยี่ห้อเบนซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 40-1057 ศรีสะเกษ

ของวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ศรีสะเกษ พลิกตะแคงซ้ายตกอยู่ข้างไหล่ถนน แถบซ้ายพังยับ บางส่วนจมอยู่ในน้ำโคลน ห่างออกมาด้านหลังที่พื้นไหล่ถนนมีรอยล้อรถบนผิวดินยาว 60 เมตร ภายในรถมีผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นอาจารย์และเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยเฉลิม กาญจนาติดอยู่ในรถ ส่วนคนเจ็บที่พอช่วยเหลือตัวเองได้ก็พยายามตะเกียกตะกายออกมาจากตัวรถ แต่ทุกคนยังอยู่ในอาการตกใจ ร้องขอความช่วยเหลือระงม จึงต้องระดมกำลังจากหน่วยกู้ภัยสุรินทร์และหน่วยกู้ชีพข้างเคียงร่วม 20 คัน มาช่วยลำเลียงคนเจ็บส่งร.พ. ศีขรภูมิ และร.พ. สุรินทร์ แพทย์ให้พักรักษาตัว 21 คน

เมื่อตรวจสอบภายในรถบัสพบผู้เสียชีวิต 3 คน คือ 1.น.ส.วีณา พรหมรัตน์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่ 16 ต.โนนชัยศรี อ.โพน ทอง จ.ร้อยเอ็ด 2.น.ส.นฤมล พลเยี่ยม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่ 16 ต.โนนชัยศรี อ. โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด และ 3.น.ส.มณีวรรณ ส่ง เสริม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ 2 ต.หนองแวง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทั้งหมดเป็นอาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ ติดอยู่ในเบาะนั่ง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน คือ น.ส.สุนทรี ศรีเที่ยง อาจารย์วิชาอาชีวอนามัย ยังติดอยู่ภายในไม่สามารถช่วยเหลือออกมาได้ ทีมกู้ภัยและแพทย์ฉุกเฉินต้องนำอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าไปในรถเพื่อช่วยชีวิต โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จึงนำคนเจ็บและผู้เสียชีวิตออกมาได้

ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน คือ นายทองชัย กอแสง กับ น.ส.สุนทรี ศรีเที่ยง แพทย์ยังคงให้นอนรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.ศูนย์สุรินทร์

อาจารย์ที่ได้รับบาดเจ็บเปิดเผยเหตุการณ์ว่า วิทยาลัยจัดสัมมนาที่ จ.ระยอง ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.

มีคณะอาจารย์และเจ้าหน้าที่จากวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ เข้าร่วมสัมมนา เดินทางไปด้วยรถยนต์หลายคัน หลังจากปิดการสัมมนาในช่วงเวลาบ่ายของวันที่ 25 ต.ค. จึงทยอยเดินทางออกจาก จ.ระยอง มุ่งหน้ากลับบ้าน คณะจาก จ.ศรีสะเกษ 51 คน เดินทางกลับด้วยรถบัสคันเกิดเหตุผ่าน อ.บ้าน ฉาง จ.ระยอง ยางหลังของรถระเบิดมาแล้วครั้งหนึ่ง ต้องจอดเปลี่ยน จากนั้นขับออกมาด้วยความเร็วปกติ จนมาถึงที่เกิดเหตุรู้สึกว่ารถเสียหลักลงไหล่ถนนแล้วพลิกคว่ำ จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือดังกล่าว

ด้านนายชุติพงษ์ สัมมนา อายุ 62 ปี คนขับรถคันเกิดเหตุ ให้การว่า ตนเป็นคนขับมือสอง เปลี่ยนขึ้นมาขับรถที่สุรินทร์ เพื่อให้คนขับอีกคนพัก ขับรถมาถึงที่เกิดเหตุถนนโล่งไม่มีรถสวนทาง จู่ๆ รถเกิดเสียการทรงตัวพวงมาลัยดึงซ้าย ตนพยายามประคองรถไม่ให้ตกลงข้างทาง แต่บังคับไม่อยู่ ทำให้เสียหลักตกลงไหล่ถนนจนพลิกคว่ำ

ด้านพ.ต.อ.สิทธิอรรถ ทองหล่อ กล่าวว่า ต้องตรวจสภาพรถอย่างละเอียด เพราะทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถเก่าที่นำมาซ่อมแซมใหม่

ประกอบกับที่เกิดเหตุเป็นที่มืด ถนนอยู่ระหว่างปรับปรุงผิวถนนยังไม่มีเส้นแบ่งช่องทางจราจรและเส้นทึบแบ่งไหลถนน ถนนสร้างสูงจากพื้นดินมาก เมื่อรถเสียหลักตกลงไปจึงพลิกคว่ำ ส่วนผู้เสียชีวิตเก็บศพไว้ที่ร.พ.ศีขรภูมิ ผู้ได้รับบาดเจ็บยังไม่ทราบรายละเอียดเร่งส่งโรงพยาบาลหลายแห่งเพื่อช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ ส่วนคนขับรถนำตัวไปสอบสวนเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป

วันเดียวกัน เวลา 16.00 น. วันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านม่วง หมู่ 12 ต.เป๊าะ อ.บึงบูรพ์ จ.ศรีสะเกษ

มีคณะอาจารย์ของคณะสาธารณสุขศาสตร์ วิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ศรีสะเกษ พากันไปร่วมพิธีศพ น.ส.วีณา พรหมรัตน์ ซึ่งญาตินำมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด และมีบรรดาญาติพี่น้องพากันมาร่วมงานท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด ขณะที่ศพของน.ส.นฤมล พลเยี่ยม ญาตินำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ส่วนศพของน.ส.มณีวรรณ ส่งเสริม ญาตินำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดกันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ

นายพงษ์ศักดิ์ ศรีสุขคำ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ซึ่งนั่งมากับรถคันดังกล่าวเล่าถึงนาทีวิกฤต

ก่อนเกิดเหตุเมื่อรถเดินทางมาถึง จ.สุรินทร์ คณะอาจารย์ทั้งหมดพากันจอดรถรับประทานอาหาร จากนั้นมีการเปลี่ยนให้ ลุงเมฆ หรือ นายชุติพงษ์ สัมมนา อายุ 62 ปี เดิมเป็นพนักงานขับรถยนต์ แต่เนื่องจากว่าอายุมากแล้ว ทางวิทยาลัยจึงให้ไปเป็นยามรักษาการณ์มาขับรถแทน และปรากฏว่าไฟหน้ารถซึ่งเป็นไฟต่ำหลอดไฟต่ำได้ขาดทั้ง 2 ข้าง มีเพียงไฟสูงเท่านั้น แต่ว่าได้ใช้วิธีแก้ปัญหาโดยการเปิดไฟในรถเพื่อให้เกิดแสงสว่าง และมีนายชัยวุฒิ ไชยโพธิ์ ผู้ช่วยอธิการบดีวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา นั่งประกบมาด้วย และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบริเวณที่มีการก่อสร้างเทพื้นถนนลาดยางใหม่ และยังไม่ได้ตีเส้นแบ่งช่องการจราจรแต่อย่างใด ปรากฏว่ารถแฉลบลงไปข้างทางและคนขับพยายามดึงพวงมาลัยเพื่อหักเลี้ยวขึ้นมาบนถนนเช่นเดิม แต่ว่ารถพลิกคว่ำลงไปข้างทางซึ่งมีดินโคลนอยู่ทำให้ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ถูกรถทับซ้อนกันอยู่จนเสียชีวิตคาที่ แต่ว่ากว่าที่จะช่วยเหลือนำศพออกมาได้ก็ใช้เวลานานถึง 3 ชั่วโมงทีเดียว เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่มีอุปกรณ์ในการช่วยชีวิตผู้ประสบภัย

นายเทอดสิทธิ์ อุตส่าห์ ผู้ช่วยอธิการบดีวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา กล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้คณะอาจารย์และนักศึกษาทุกคนของวิทยาลัยเฉลิมกาญจนารู้สึกเศร้าเสียใจมาก

เนื่องจากว่าอาจารย์ที่เสียชีวิตทุกท่าน ล้วนอยู่ในวัยทำงานและเป็นกำลังที่สำคัญในการพัฒนาการศึกษาของวิทยาลัย ในส่วนของการช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บนั้น ดร.สุชีราภรณ์ ธุวานนท์ อธิการบดีวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา สั่งการให้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตามระเบียบของวิทยาลัย และให้การช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษอีกส่วนหนึ่งด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปลอบขวัญให้กำลังใจแก่ญาติผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ต่อไป