เหตุวางบึ้มรถยนต์ด้วยระเบิดแรงสูงถึง 2 ครั้งในย่านใจกลางกรุงแบกแดด เมืองหลวงอิรักเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า ้ร้อยศพ บาดเจ็บกว่าครึ่งพัน
โดยเหตุระเบิดดังกล่าวอุบัติขึ้นใน เวลาไล่เลี่ยกันไม่ถึงนาทีใกล้หน่วยงานสำคัญ 2 แห่งของรัฐบาลอิรักคือ กระทรวงยุติธรรม และที่ว่าการกรุงแบกแดด ในช่วงชั่วโมง เร่งด่วนตอนเช้า ขณะที่ประชาชนเร่งรีบไป ทำงาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 136 ศพ บาดเจ็บราว 600 ราย ซึ่งถูกนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง 4 แห่ง
พลตรีกัสซิม อัตตา โฆษกหน่วยความมั่นคงแบกแดดเปิดเผยว่า ระเบิดดังกล่าวมาจากการวางระเบิดรถยนต์ ที่ผู้ก่อการร้ายมีเป้าหมายโจมตีหน่วยงานหลักของรัฐบาล และกระบวนการทางการเมืองในประเทศ ขณะเดียวกัน แรงระเบิดยังทำให้รถยนต์หลายสิบคันถูกทำลายจนวอด อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ ก่อนหน้านี้ พลโทอาลี ไกแดน มาจีด เคยเตือนให้ระวังเหตุรุนแรงก่อนการเลือกตั้ง
แต่การโจมตีล่าสุดมีขึ้น ในขณะที่ บรรดาผู้นำทางการเมืองของอิรักประชุมกันเพื่อพยายามยุติภาวะชะงักงันกรณีกฎหมายการเลือกตั้งที่ยังคาราคาซังกันอยู่ ท่ามกลางความวิตกกันว่า การเลือกตั้งในวันที่ 16 ม.ค.ของอิรักอาจจะต้องเลื่อนออกไป ทว่านายกรัฐมนตรีนูริ อัล-มาลิกี เตือนว่า การเลื่อนการเลือกตั้งออกไป จะคุกคามต่อความชอบด้วยทางกฎหมายของรัฐสภาและรัฐบาล เช่นเดียวกับผู้นำกองทัพอิรักเตือนว่า การเลื่อนการเลือกตั้งเพิ่มความเสี่ยงของภาวะไร้เสถียรภาพยิ่งขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐระบุว่า การโจมตีเช่นครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อจุดชนวนความขัดแย้งทางศาสนาที่เกิดขึ้นในอิรักตลอดระยะเวลา ภายหลังการบุกกรุงแบกแดดของกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐเมื่อปี พ.ศ. 2546 หรือเพื่อบั่นทอนความเชื่อมั่นในตัวนายกฯ อัล-มาลิกี ก่อนเลือกตั้งรัฐสภาปีหน้า
เหตุระเบิดรถยนต์เกิดขึ้นในรอบ 2 เดือน หลังเหตุระเบิดเมื่อ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา มีเป้าหมายโจมตีกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงการคลัง ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่าร้อย ศพ และบาดเจ็บอีกหลายร้อย.