เด็กตกท่อ!เซ่นน้ำท่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตอนสายวานนี้ (14 ก.ย.) เกิดน้ำท่วมบริเวณแยกศรีเทพาช่วงถนนเทพารักษ์ตัดถนนศรีนครินทร์ด้านขาเข้ากรุงเทพมหานคร เขต ต.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ น้ำท่วมผิวจราจรสูงถึงฟุตปาท รวมทั้งถนนทุกด้านเป็นระยะทางเกือบ 200 เมตร ประชาชนที่ใช้เส้นทางเดือดร้อนอย่างหนัก การจราจรกลายเป็นอัมพาตรถติดยาวนับกิโลเมตร

กระทั่ง 15 นาฬิกาเศษน้ำจึงลดลง พ.ต.ต.สุขสันต์ ส่งประเสริฐ สว.จร.สภ.ต.สำโรงเหนือกล่าวว่า สาเหตุมาจากฝนตกหนักทั้งคืนยันเช้า ประกอบกับมีการสร้างสะพานข้ามทางแยก ทำให้ระบายน้ำไม่ทัน อีกทั้งเมื่อสูบน้ำลงคลองสำโรงน้ำก็ดันกลับมาทางท่อระบายน้ำอีกทำให้น้ำท่วมขัง

ที่ จ.ชลบุรี ฝนตกหนักตั้งแต่ตีสี่ถึง 11 โมง ทำให้น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ เนื่องจากระบายไม่ทันโดยเฉพาะเมืองพัทยาจมน้ำทั้งเมือง ถนนสุขุมวิททั้ง 2 ฝั่งรถขนาดเล็กผ่านไม่ได้ ถนนเลียบชายหาด ถนนสาย 2 และสาย 3 ระดับน้ำสูง ร้านค้า บ้านเรือน 2 ข้างทางโดนน้ำท่วมหมด โรงแรมส่วนใหญ่น้ำท่วมถนนทางเข้าจนเข้าออกไม่ได้

ชุมชนบางแห่งน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ขยะและคราบน้ำมันลอยฟ่อง ส่วนโรงพยาบาลบางละมุงน้ำท่วมลานรอบโรงพยาบาล แต่ไม่เข้าไปในตัวตึก ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถเข้าออกได้ ต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น กระทั่งเย็นน้ำเริ่มลดลง นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกเมืองพัทยากล่าวว่า สาเหตุเกิดจากฝนตกหนักและน้ำทะเลหนุน คาดว่ากลางดึกคงคลี่คลายหมด

ขณะเดียวกัน มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 รายชื่อ ด.ช. สิทธินันท์ พงษ์มณี อายุ 8 ขวบ เป็นนักเรียนชั้น ป. 2 โรงเรียนวัดใหม่เนินพะยอม โดยหลังจากฝนตกหนักจนโรงเรียนประกาศหยุด ด.ช.สิทธินันท์ตามนายบุญเรศ แซ่ตั้ง ที่อยู่บ้านใกล้กันไปวางตาข่ายดักปลาที่ไหลมากับน้ำท่วมริมถนนท่าเรือสยามซีพอร์ต หมู่ 1 ต.ทุ่งศุขลา อ.ศรีราชา ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน

ระหว่างเดินลุยน้ำเล่นกับ ด.ช.ธวัชชัย แซ่ตั้ง อายุ 11 ขวบ และ ด.ช.บุญญฤทธิ์ แซ่ตั้ง อายุ 8 ขวบ ลูกของนายบุญเรศ ด.ช.สิทธินันท์เกิดพลัดตกลงไปในท่อระบายน้ำกว้าง 1 เมตร ซึ่งไม่มีฝาปิด หน่วยกู้ภัยมุดลงไปในท่อ พบศพไหลไปตามท่อห่างจากจุดที่ตกประมาณ 1 กิโลเมตร เกือบออกทะเล ท่ามกลางความเสียใจของนายบุญโฮม พงษ์มณี และนางหงส์ทอง พงษ์มณี พ่อแม่เด็กซึ่งรํ่าไห้ เสียใจอย่างหนัก

นายชุมพจน์ มีวุฒิสม ปลัดเทศบาลตำบลแหลมฉบัง เปิดเผยว่า ท่อระบายน้ำดังกล่าวไม่ใช่ของเทศบาลตำบลแหลมฉบัง แต่บริษัทท่าเรือสยามซีพอร์ตขออนุญาตสร้างเชื่อมกับท่อของเทศบาล เพื่อระบายน้ำเนื่องจากเวลาฝนตกหนักเคยมีน้ำท่วมโกดังของบริษัทต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในท่าเรือ พร้อมกันนั้น ได้สั่งให้นำตะแกรงเหล็กมาปิดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก ขณะเดียวกันตำรวจ สภ.ต. แหลมฉบัง เข้าสอบสวนแล้ว

ขณะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ระดมป้องกันโบราณสถาน แต่ยังมีน้ำทะลักเข้าวัดไชยวัฒนาราม ต้องใช้แผ่นคอนกรีตและผ้าใบกั้น นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ฝนตกทุกวันทำให้ มีน้ำขังตามโบราณสถาน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารับมือได้ แต่ต้องระวังน้ำเหนือหลากเท่านั้น ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าอำเภอรอบนอกเริ่มมีน้ำท่วมแล้ว

ด้านภาคเหนือที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก นำยาไปมอบให้ประชาชนและพบว่าน้ำท่วมขังหลายตำบลจนเน่าส่งกลิ่นเหม็น ส่วนที่ ต.วังพิกุล อ.วังทอง มีน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ และน้ำจากแม่น้ำวังทองไหลท่วมพื้นที่ ทหารจากกองทัพภาค 3 ช่วยขนกระสอบทรายทำพนังกั้นน้ำ แต่ไม่นานก็พัง น้ำทะลักท่วมบ้านเรือนไร่นา ชาวบ้านต้องหอบลูกหลานหนี ด้าน ตชด.31 นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจลำน้ำเข็กในเขต อ.วังทอง พบว่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากทำให้พื้นที่อุทกภัยขยายออกไปอีก ขณะที่บริษัททัวร์ ยกเลิกการล่องแก่งลำน้ำเข็ก เพราะกลัวอันตราย

ส่วน จ.แพร่ น้ำป่าไหลท่วม ต.วังธง อ.เมืองแพร่ นายเศรษฐวุฒิ นุคำ อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 3 ต.วังธง เล่าว่า ถูกน้ำป่าและน้ำฝนกระหน่ำตลิ่งหน้าบ้านพังทลาย ที่ดินหายไปกว่า 100 เมตร เหลืออีก 4 เมตรก็จะถึงตัวบ้าน ส่วน จ.ตาก ที่ อ.สามเงา และ อ.บ้านตาก ฟาร์มเลี้ยงหมูบางแห่งโดนน้ำท่วมจนหมูที่เลี้ยงไว้จมน้ำตายจำนวนมาก เจ้าของต้องนำหมูที่เหลือออกขายแบบขาดทุน ขณะที่ ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เริ่มมีน้ำท่วมพื้นที่รวมทั้งบ้านพักตำรวจ สภ.อ.พรานกระต่าย

ที่ จ.เชียงใหม่ นายสุพจน์ หอมชื่น นายอำเภอแม่แจ่ม เปิดเผยว่า น้ำเริ่มลดลง เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮเคลียร์ถนนที่ดินถล่มและต้นไม้โค่นขวางทาง สำหรับถนนสาย 108 ช่วงเชียงใหม่-ฮอด-แม่สะเรียง และถนนฮอด-ดอยเต่า ช่วงสะพานข้ามลำน้ำปิง สามารถผ่านได้แล้ว ส่วน จ.น่าน มีรายงานว่า ในวันที่ 18 ก.ย. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ จะเสด็จเยี่ยมผู้ประสบภัย ประทานสิ่งของช่วยเหลือและประกอบอาหารเลี้ยงที่โรงเรียนบ้านท่าค้ำ ต.ริม อ.ท่าวังผา

ในเขต จ.เชียงราย นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ นายอำเภอเทิง ไปที่บ้านตับเต่า หมู่ที่ 6 ต.ตับเต่า ตรวจถนนทางเข้าหมู่บ้านที่ดินทรุดตัวลึก 1.5 เมตร เป็นระยะทางราว 100 เมตร หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน จึงเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมอพยพเพราะเกรงจะขยายวงกว้างออกไป พร้อมกันนั้นได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีมาตรวจสอบ

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก ทำให้มีฝนตกหนักบริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี สระแก้ว เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง และพังงา ต้องระวังภัยน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่า

ขณะเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งให้ทราบว่าสำนักพยากรณ์อากาศจะงดการให้บริการข้อมูลอุตุนิยมวิทยา เช่น ข่าวพยากรณ์อากาศประจำวัน แผนที่อุตุนิยมวิทยา ภาพถ่ายดาวเทียม ที่เคยให้บริการเป็นประจำทุกวันทางเครื่องโทรสาร เนื่องจากในปี 2550 ไม่ได้รับงบประมาณเพียงพอ แต่สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th จะมีการอัพเดทข้อมูลทุก 6 ชั่วโมง สำหรับกรณีมีเหตุการณ์ร้ายแรงถึงขั้นต้องประกาศเตือนภัย สำนักพยากรณ์อากาศจะรีบส่งข้อมูลให้ทางโทรสารทันที

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ