คนงานคลั่งขับแบ็กโฮทับรปภ.ดับสยอง

คมชัดลึก :สยองกลางดึกคนงานก่อสร้างรถไฟฟ้าเมา กระโดดขึ้นแบ็กโฮบอกว่าจะไปขับเล่น รปภ.เข้าไปห้าม เอาที่ตักดินตบไส้ทะลักดับคาที่ เพื่อนๆ วิ่งหนีกระเจิง ยังไม่หายคลั่งชาวบ้าน-ตำรวจเกลี้ยกล่อมกว่า 2 ชั่วโมง หมดฤทธิ์ยอมมอบตัว อ้างไม่ได้ตั้งใจฆ่า

นายเจียม บุญจันทร์ อายุ 60 ปี พนักงานบริษัท ภัทรวรา ก่อสร้าง จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 4 ต.กุดนกเป้า อ.เมือง จ.สระบุรี

ให้การต่อตำรวจว่า ตนมาทำงานที่ไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ตลิ่งชัน-บางซื่อ แห่งนี้ได้ 3 เดือน ส่วนนายจักรกฤษ ผู้เสียชีวิตเป็นหลายของตน โดยทางบริษัทได้ประมูลงานก่อสร้างมาจากบริษัท ยูนิค จำกัด มาอีกทอดหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุนายวทัญญู ซึ่งเป็นพนักงานขับรถแบ็กโฮได้นั่งดื่มสุราจนเกิดอาการมึนเมา จากนั้นพูดจาพร่ำเพ้อ ต่อว่าหัวหน้างาน โดยบอกว่าจะตัดเงิน ลักษณะพูดจาไม่รู้เรื่อง แต่ไม่มีเพื่อนพนักงานคนใดสนใจ

นายเจียมกล่าวอีกว่า ระหว่างที่พนักงานคนอื่นเลิกงานและพักผ่อน นายจักรกฤษพร้อมกับเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไซต์งานก่อสร้าง

ได้ออกตรวจตราดูแลความเรียบร้อยตามปกติ ระหว่างนั้นนายวทัญญูซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาพูดขึ้นมาว่า "จะไปขับรถเล่น" ก่อนขึ้นไปนั่งบนรถแบ็กโฮ นายจักรกฤษ์จึงเข้าไปห้ามเพราะเลิกงานแล้ว และตามหน้าที่ต้องคอยดูแลความเรียบร้อย ขณะที่ยืนห้าม นายวทัญญูนั่งอยู่บนรถ ได้เลื่อนคันชักส่วนที่เป็นมือตักตบเข้าไปที่ร่างนายจักรกฤษ ก่อนที่จะบี้จนไส้ทะลัก ส่วนเพื่อนคนอื่นวิ่งหลบหนีออกมาได้ทันอย่างหวุดหวิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกลี้ยกล่อมกันประมาณ 2 ชั่วโมง จนถึงเวลา 01.30 น. วันที่ 26 ตุลาคม นายวทัญญู ก็ยอมมอบตัวกับตำรวจ

โดยยื่นเงื่อนไขให้ตำรวจนำรถมาจอดรับที่บริเวณรถแบ็กโฮ ซึ่งจอดอยู่ห่างจากศพผู้ตายประมาณ 70 เมตร จากนั้นจึงคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.ตลิ่งชัน ด้านนายธร ตระการจันทร์ อายุ 44 ปี ผู้ดูแลแคมป์คนงานก่อสร้าง กล่าวว่า นายวทัญญูเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานนัก ตนไม่ทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายวทัญญูดื่มสุราหรือไม่ หรือเกิดเรื่องทะเลาะกับหัวหน้างานคนใดบ้าง แต่กับตนไม่เคยมีปัญหากัน เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายน่าจะเข้าไปห้ามไม่ให้นายวทัญญูใช้รถแบ็กโฮ เนื่องจากหมดเวลาแล้ว ถือว่าเป็นการทำตามหน้าที่

ด้าน พ.ต.ท.ศิริพงษ์กล่าวว่า จากการสอบสวนนายวทัญญู อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจจะฆ่านายจักรกฤษ จึงได้ตั้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ส่วนเรื่องการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ จะต้องตรวจความเสียหายอีกครั้ง