ขู่บึม13แบงก์ป่วนเมืองนรา

"ขู่บึมอีก"


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ก.ย. มีชายลึกลับโทรศัพท์ เข้าไปตามธนาคารต่างๆใน อ.เมืองนราธิวาส ข่มขู่ว่าได้วางระเบิดในธนาคารและระเบิดจะทำงานภายใน 5 นาที หลังรับโทรศัพท์ทางธนาคารแต่ละแห่งรีบแจ้งให้ลูกค้าที่มาใช้บริการออกจากแบงก์เพื่อความปลอดภัยและปิดบริการทันที พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ต่อมา พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง ผกก.สภ.อ.เมืองนราธิวาส พ.ต.ท.วสันต์ พวงน้อย รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ท.อโณทัย จินดามณี สวป. พร้อม พ.ต.ท.สุกิจ ขำมาก สว.นปพ. จ.นราธิวาส นำหน่วยกู้ระเบิดชุด เหยี่ยวดง ไปตรวจสอบทุกธนาคารที่ได้รับแจ้ง และจากการตรวจอย่างละเอียดไม่พบระเบิดแม้แต่แห่งเดียว ขณะที่ พ.ต.ท.อโณทัยเปิดเผยว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารที่รับโทรศัพท์ บอกว่าเป็นเสียง ผู้ชายพูดไทยชัด แต่ออกสำเนียงแปร่งๆคล้ายคนพื้นเมืองว่า จะระเบิดแบงก์ใน 5 นาที แล้ววางหูไป

ส่วนธนาคารอื่นก็ได้รับโทรศัพท์จากชายสำเนียงเดียวกัน จากการตรวจสอบต้นสายพบว่าคนร้ายโทร.มาจากตู้โทรศัพท์สาธารณะ เชื่อว่าเป็นการก่อกวนบ้านเมืองมุ่งทำลายเศรษฐกิจ หลังไม่พบระเบิด ทุกธนาคารเปิดบริการตามปกติในช่วงบ่ายวันเดียวกัน สำหรับธนาคารที่ถูกข่มขู่ครั้งนี้ ประกอบด้วยธนาคารกรุงไทย ธนาคารอิสลาม ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารนครหลวงไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารออมสิน เอสเอ็มอีแบงก์และ ธกส.รวม 11 ธนาคาร


"ขอกำลังสนับสนุน"


นอกจากนี้ในเวลาไล่เลี่ยกัน ธนาคารใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส 2 แห่งคือธนาคารทหารไทยกับธนาคาร กรุงไทย ถูกขู่วางระเบิดเช่นกันแต่ตรวจสอบไม่พบวัตถุต้องสงสัย จากเหตุดังกล่าวทำให้ทุกธนาคารต้องปิดบริการ ไปโดยปริยายในวันเดียวกัน ทั้งสองเหตุการณ์เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือโจรใต้สร้างสถานการณ์

กรณีคนร้ายวางระเบิดธนาคารต่างๆ 22 สาขาใน จ.ยะลานั้น ต่อมาเช้ามืดวันเดียวกัน พ.ต.อ.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง หัวหน้าชุดสืบสวนคดีสำคัญ ศปก.ตร.ส่วนหน้า จ.ยะลา นำกำลังตำรวจจู่โจมเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 182 หมู่ 6 บ้านกะลูบี ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส และ นายซุลกีพลี อาแว อายุ 23 ปี นักศึกษาโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ อ.เมืองยะลา ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดธนาคารใน จ.ยะลา นำตัวสอบสวนขยายผลที่ ศปก.ตร.ส่วนหน้า จ.ยะลา โดยนำภาพถ่ายจากโทรทัศน์วงจรปิดจากธนาคารมาให้ผู้ต้องหาดู หลังเห็นภาพตัวเองผู้ต้องหาเลยให้การรับสารภาพและซัดทอดเพื่อนที่ร่วมลงมือใน จ.ยะลา อีก 5 คน

ต่อมาเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.นรินทร์ บูสะมัญ รอง ผกก.(สส.) สภ.อ.รามัน จ.ยะลา นำกำลังเข้าปิดล้อมหมู่บ้าน ยะต๊ะ หมู่ 3 ต.ยะต๊ะ หลังสืบทราบว่า กลุ่มโจรอาร์เคเค ที่ก่อเหตุวางระเบิดธนาคารซ่อนตัวอยู่ พบกลุ่มผู้ต้องสงสัยถืออาวุธอาก้าวิ่งผ่านหน้ามัสยิดดารุนนาอิม เข้าไปในบ้านเลขที่ 16/3 จึงขอกำลังสนับสนุนจาก พ.ท.สถิตย์ บุญเมือง ผบ.ฉก.11 ร่วมกับ พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.ชัยทัต อินทนูจิตร รอง ผบก.ภ.จ.ยะลานำกำลังไปเสริมปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว และใช้เครื่องขยายเสียงจากรถยนต์สายตรวจสั่งให้กลุ่มคนร้ายออกมามอบตัว


"พบพัวพันแล้วยังต้องคดีอีกเยอะ"


สักพักกลุ่มคนร้ายทยอยเดินออกมาจากบ้านด้วยมือเปล่า เจ้าหน้าที่จึงพุ่งเข้าล็อกตัวจับกุมไว้ได้ทั้งหมดประกอบด้วย 1. นายอาพันธ์ดี อีซอมูซอ อายุ 24 ปี เจ้าของบ้าน 2. นายรุสรี ริแจ อายุ 22 ปี 3. นายสัมรัน อาแซบากา อายุ 23 ปี 4. นายมะกือรี เด็งสาแม อายุ 25 ปี ทั้ง 4 คนอยู่ อ.รามัน และ 5. นายมามะเซ็ง ตารีกา อายุ 23 ปี อยู่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จากนั้นได้ตรวจค้นบริเวณบ่อน้ำหลังบ้าน พบปืนอาก้า 1 กระบอก พร้อมกระสุน 20 นัด ปืน .380 ซุปเปอร์ พร้อมกระสุน 7 นัดและปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ส่วนในห้องนอนของนายอาพันธ์ดี พบเอกสารปลุกระดมจำนวนมาก เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนทั้ง 5 คนยังให้การปฏิเสธ จึงนำส่ง ศปก.ตร.สน.ดำเนินการต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติแต่ละคนนอกจากพบพัวพันในการวางระเบิดธนาคารแล้วยังต้องสงสัยก่อเหตุอีกหลายคดี โดยเฉพาะนายอาพันธ์ดีมีหมายจับคดียิงนายอาแว บือราเฮง แพทย์ประจำตำบลโกตาบารู อ.รามัน เสียชีวิต ส่วนนายรุสรี ริแจ มีหมายจับของ สภ.อ.รือเสาะ คดียิงตำรวจ สภ.อ.รือเสาะเสียชีวิต และเชื่อว่าทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารและ อส. ชุด รปภ.ครูเสียชีวิต 5 ศพ ที่บ้านบูเกะบือราแง หมู่ 3 ต.อาซ่อง อ.รามันด้วย

ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.ปรีชา กิ่มเกลี้ยง ผบ.ร้อย นปพ.จ.นราธิวาส ร.อ.บุญส่ง นิลพรหม ผบ.ร้อย ร.6014 ฉก.39 พร้อมกำลัง ไปตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยริมถนนสายสากอ-ไม้แก่น หมู่ 5 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องมีปุ๋ยยูเรียผสมน้ำมันเบนซินและเหล็กเส้นตัดสั้นบรรจุในถังดับเพลิงต่อสายชนวนไว้เรียบร้อยฝังไว้ริมถนนจึงเก็บกู้เอาไว้ได้ คาดว่าคนร้ายหวังลอบวางระเบิดตำรวจชุดคุ้มครองครู แต่ชาวบ้านมาพบเห็นเสียก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่มาเก็บกู้ได้ทัน

"พอรู้แหล่งที่มาใบปลิวแล้ว"


ด้านนายประชา เตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส เปิดเผยถึงเรื่องใบปลิวขู่ฆ่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่และ ผวจ.นราธิวาสว่า เป็นฝีมือพวกแอบจิต มีทั้งข้าราชการและผู้นำท้องถิ่นบางคนทำให้ประชาชนหวาดกลัว ตอนนี้พอทราบแหล่งที่มาของใบปลิวแล้ว แต่ยังให้โอกาสกลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ แต่หากตรวจสอบพบว่ายังทำตัวเป็นพวกฝ่ายตรงกันข้ามจะต้องถูกลงโทษอย่างหนักแน่

ขณะที่หน่วยข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า กลุ่มก่อความไม่สงบระดับแกนนำใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการประชุมกันในพื้นที่ จ.ยะลา เตรียมลอบวางระเบิดพร้อมกันหลายจุด โดยเน้นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาพุทธคือวัด หรือสำนักสงฆ์ในวันที่ 15 หรือ 22 ก.ย.นี้ ซึ่งทั้ง 2 วันตรงกับวันพระ ซึ่งมีคนมาทำบุญจำนวนมาก และจากการติดตามข่าวในพื้นที่พบว่าตั้งแต่กลางเดือน พ.ค. เป็นต้นมามีบุคคลต้องสงสัยตระเวนซื้อปิ่นโตเถาใหญ่ตามร้านค้าในเขตเมืองทั้ง 3 จังหวัดมากผิดปกติ เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายซื้อปิ่นโตเตรียมนำไปบรรจุวัตถุระเบิดแล้วนำไปวางในวัด หรือไปถวายพระก่อนกดชนวนระเบิด เนื่องจากปิ่นโตเป็นของจำเป็นในการใส่อาหารไปถวายพระเหมือนชาวพุทธทั่วไป ไม่เป็นที่สนใจของคนอื่น นอกจากนี้ กลุ่มโจรยังมีแผนวางระเบิดในเขต อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส อีกครั้งก่อนถึงเดือนรอมฎอนหรือเดือนถือศีลอด

สำหรับใบปลิวขู่ฆ่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ใน จ.นราธิวาสนั้น ทางหน่วยข่าวได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าการเขียนข้อความเหมือนกับเป็นผู้ที่มีความรู้วางตัวอักษรได้ดีแต่หากจะเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะกลุ่มก่อความไม่สงบเองก็มีหลายคนที่มีความรู้ และสามารถทำใบปลิวลักษณะนี้ขึ้นมาได้ ส่วนการกระทำต่อผู้บริสุทธิ์โดยใบปลิวระบุว่า เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่เพื่อล้างแค้นนั้นยังไม่ชัดเจน เพราะการจับกุมคนที่ก่อเหตุที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นแนวร่วมทั้งสิ้น

"จะประกาศใช้เต็มรูปแบบใน พท.ที่รุนแรง"


จากกระแสข่าวดังกล่าวทางนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผวจ.ปัตตานี ได้แจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุร้ายตั้งแต่วันที่ 12-15 ก.ย.นี้ เพื่อทบทวนยุทธวิธีให้มีความพร้อมและสามารถตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามได้ รวมทั้งให้ฝึกทบทวนให้แก่ชุด อส.หมู่บ้านด้วย ส่วนที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี ผวจ.ปัตตานีเป็นประธานสัมมนาโครงการเพิ่มศักยภาพผู้นำท้องถิ่นในการพัฒนาจังหวัดปัตตานีเพื่อร่วมแก้ปัญหาชายแดนใต้ โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่นเข้าร่วมสัมมนากว่า 800 คน

พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ได้ยึดหลักของ ผบ.ทบ. มาโดยตลอดจากนโยบายการเมืองนำการทหาร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากขบวนการแบ่งแยกดินแดนเพื่อปกครองตนเอง อาศัยเงื่อนไขที่เป็นจุดอ่อนเหมือนอดีตที่ผ่านมาคือเงื่อนไขไม่มีความเป็นธรรม เอาประวัติศาสตร์บางตอนมาเป็นเรื่องของการปลุกระดมเยาวชนให้หลงผิดและทำกันเป็นขบวนการแน่นอน แต่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางคนมองภาพไม่ออกจึงทำให้การปฏิบัติงาน การวางแผน การปราบปรามต้องคลาดเคลื่อนหยุดชะงักไปบ้าง ซึ่งการแก้ไขขณะนี้กำลังพิจารณาการใช้ พ.ร.ก.ในสถานการณ์

ฉุกเฉินเพื่อประกาศใช้อย่างเต็มรูปแบบในบางพื้นที่ที่มีปัญหาความรุนแรง

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะชุมนุมแสดงพลังที่หน้ามัสยิดกลาง จ.ยะลา ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ ว่า การรวมตัวครั้งนี้ตนไม่เห็นด้วย เนื่องจากจะมีปัญหาเรื่องความไม่ปลอดภัย อีกทั้งวัตถุประสงค์ของการชุมนุมไม่ชัดเจนรวมทั้งกลุ่มบุคคลที่มาร่วมกิจกรรมเป็นใครบ้าง ไม่ได้มีการประสานงานมา หากเกิดความรุนแรงขึ้นมาแล้วใครจะรับผิดชอบ

"จำกัดวงแคบลง"


ต่อมาในบ่ายวันเดียวกัน ส.ต.ต.เด่นพงษ์ ศิริไชย อายุ 21 ปี สังกัด นปพ.ภ.จ.นราธิวาส ช่วยราชการ ศปก.ตร.สน.ยะลา เสียชีวิตลงที่ รพ.ศูนย์ยะลา หลังใช้ปืน 9 มม. จ่อยิงศีรษะตนเองในห้องพัก กองร้อยที่ 5 ศูนย์ฝึก อบรมตำรวจภาค 9 เมื่อบ่ายวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุคงจะเครียดในการปฏิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลัง ร.ต.ท.ทัศพล สุวรรณบูลย์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองยะลา ไปสอบสวนชันสูตรพลิกศพ ก่อนแจ้งให้ญาติรับศพไปดำเนินการ

ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้ายของประเทศสิงคโปร์ระบุว่า หากเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยืดเยื้อ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ ผู้ก่อการร้ายข้ามชาติเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยได้มากขึ้น ว่า ขณะนี้เราจำกัดวงแคบไว้ โดยประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มประเทศอิสลามทั่วโลกรับทราบและเข้าใจว่าปัญหานี้เป็นปัญหาภายในของเรา ไม่เกี่ยวข้องกับชาวมุสลิมหรือศาสนาอิสลามแต่อย่างใด แต่เป็นพวกผู้ก่อการร้าย พวกไม่หวังดีจริงๆ หากปัญหายืดเยื้อ เราก็สามารถควบคุมให้อยู่ในขอบเขตระดับหนึ่ง ไม่มีปัญหา


"เป็นช่วงแต่งตั้งโยกย้าย"


ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีนักรบอาร์บู ไซยาบเข้ามาช่วยฝึกผู้ก่อความไม่สงบ พล.อ.อ. คงศักดิ์ตอบว่า ไม่มีการเข้ามาแน่นอน รับรองได้ แต่ข่าวนี้มีมานานแล้ว เมื่อถามถึงกรณีที่ ผวจ.นราธิวาสระบุว่ามีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบ รมว. มหาดไทยตอบว่ากำลังตรวจสอบ ถ้ามีต้องลงโทษ แต่ นายประชาได้รายงานว่าเป็นเรื่องของใบปลิวที่ว่ากันไปว่ากันมา เพราะช่วงนี้เป็นช่วงแต่งตั้งโยกย้าย และเป็นช่วงการเลือกตั้งเป็นปกติที่อาจมีการเมืองเข้ามาผสมผสานก่อเหตุเพราะเป็นปกติที่แต่ละพรรคต่างต้องการฐานเสียงในภาคใต้

ต่อมาเวลา 15.40 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.ต.อ.สมจิตร นาสมยนต์ ผกก.สภ.อ.เมืองปัตตานี พร้อมกำลัง ไปสอบสวนเหตุยิงกันเสียชีวิตที่เชิงสะพานตะลุโบะ หมู่ 1 ต.ตะลุโบะ พบศพนายสุรศักดิ์ ขันสู้การ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/1 หมู่ 1 ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี ถูกยิงด้วยปืน .38 เข้าศีรษะ 1 นัด ทะลุหมวกกันน็อก และที่ลำตัว 4 นัด โดยมีรถ จยย.ของผู้ตายล้มอยู่กลางถนน สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นข้าราชการบำนาญ ปัจจุบันมีอาชีพขี่ จยย. รับจ้างและยังเป็นกรรมการมัสยิดตะลุโบะ ขณะผู้ตายขี่ จยย.จะกลับบ้าน ถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนซ้อน จยย.ตามประกบยิง คาดเป็นฝีมือโจรใต้สร้างสถานการณ์


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์