เหยื่อโอเกะโหดโผล่อีกราย

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 21 ต.ค. ร.ต.ต.อัฏฐะพันธ์ ใจเที่ยง กับ น.ส.อารีวรรณ สาธรรม แฟนสาว

ที่เข้าไปใช้บริการร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งย่านประชาชื่น แล้วถูกเรียกเก็บเงินค่าบริการสูงถึง 3 หมื่นบาท ได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.สุรพล ขาวคม สว.เวรสอบสวน สน.ประชาชื่น เจ้าของคดี โดย ร.ต.ต.อัฏฐะพันธ์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม และชี้ตัวพนักงานของร้านคนที่ล็อกตนกับแฟน คนที่แย่งโทรศัพท์ เงินสด และคนล็อกห้องไม่ให้ออก มีทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 3 หญิง 2 

ขณะที่ตอนเที่ยงวันเดียวกัน ได้มี นายเจี๊ยบ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง และนายต่าย (นามสมมติ) อายุ 30 ปี นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง

สองผู้เสียหายที่เคยหลงเข้าไปใช้บริการร้านคาราโอเกะมหาโหดแห่งนี้ พากันเข้าพบ พ.ต.ท.สุรพล เพื่อให้ปากคำในฐานะพยาน โดยไม่ติดใจแจ้งความดำเนิคดีกับทางร้าน ทั้งสองคน เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 22.10 น. ของวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา หลงเข้าไปใช้บริการร้านคาราโอเกะดังกล่าวจนถึงเวลา 01.00 น. โดนเรียกเก็บเงินถึง 16,000 บาท พอบอกว่า ทำไมแพงอย่างนี้ ก็มีมาม่าซัง 2 คน และชายฉกรรจ์อีก 2 คน มายืนคุมเชิงพวกตนไม่ให้ออกจากห้อง พวกตนจึงยอมจ่ายเงิน 8,000 บาท แต่ทางร้านไม่ยอม จึงใช้โทรศัพท์มือถือวางไว้ ร้านตีราคาให้ 7,000 บาท พร้อมกับให้เวลา 3 วัน หาเงินมาไถ่โทรศัพท์คืน ก่อนจะยอมปล่อยพวกตน กระทั่งวันนี้เห็นข่าวว่า เป็นร้านเดียวกันกับที่พวกตนเจอมา จึงตัดสินใจเข้าให้ปากคำเพื่อเป็นพยาน เพราะกลัวว่า จะมีคนอื่นหลงไปใช้บริการ แล้วโดนแบบพวกตน

พ.ต.ท.สุรพล เปิดเผยว่า คดีนี้ได้สอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกพนักงานงานของร้านที่ผู้เสียหายอ้างว่า เป็นคนล็อกตัว และข่มขู่มาสอบปากคำ ก่อนแจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์ ส่วนข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวต้องขอพิจารณาอีกครั้ง.