เมื่อวันที่ 21 ต.ค. พล.ต.อ.จงรักษ์ จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.แห่งชาติ พล.ต.ท. กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่และคณะ แพทย์ ร่วมชันสูตรศพพระสุระชัย (อ้วน) พุทธธัมโม อายุ 61 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดวังกะโล่ ต.วังกะทะ อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา หลังจากถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้ปืน เอ็ม 16 ยิงเข้าที่ โหนกแก้มขวา 1 นัด ราวนมซ้าย 3 นัด ชายโครงซ้าย 1 นัด, ใต้สะดือ 1 นัด , แขนซ้าย 1 นัด รวม 7 นัด เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ โดยมีปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16 ตกอยู่ข้าง ๆ 8 ปลอก ห่างจากศพประมาณ 10 เมตร พบปลอกกระสุนตกอยู่อีก 4 ซึ่งกระสุน 1 ใน 4 นัดด้าน
พระสวัสดิ์ สีทาธัมมาริวิโย อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 9 หมู่ 4 ต.กุดนกเป้า อ.เมือง จ.สระบุรี พระลูกวัด ซึ่งมาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ได้เพียง 1 พรรษา ผู้พบศพพระสุระชัย ให้การว่า ได้ลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำในช่วงเวลา 04.00 น.และได้ยินเสียงปืนดังขั้น 4 นัด ทางกุฎิของพระสุระชัย จึงออกไปดูก็พบว่าพระอ้วนถูกยิงเสียชีวิตแล้ว แต่จากการให้การของ พระสวัสดิ์พบพิรุธหลายอย่าง จึงสอบสวนอย่างละเอียด สุดท้ายยอมรับสารภาพว่าเป็นเพียงผู้สมรู้รวมคิดเท่านั้น โดยมีนายบุญเกิด พูนทองหลาง อายุ 50 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวังกะโล และมัคคทายกของวัดวังกะโล มาปรึกษาและให้ติดต่อหามือปืนให้ ซึ่งตนได้ประสานงานกับนายแกละ ไม่ทราบนามสกุล อยู่ที่อำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี เป็นคนรู้จักและเคยมารักษาโรคกับตน โดยตกลงค่าจ้างกันในราคา 25,000 บาท เพื่อหวังฆ่าพระสุระชัย ให้ตาย เนื่องจากว่าไม่พอใจที่ พระสุระชัย มีพฤติกรรมในการทำเสน่ห์และสะเดาะเคราะห์ให้กับหญิงที่มีปัญหาทางครอบครัว อาบน้ำมนต์ให้กับชาวบ้าน และกิจนิมนต์ต่างๆ แต่ไม่เคยนำรายได้เข้าวัด และปัญหาเกี่ยวกับการสร้างพระวิหารและการแต่งตั้งเจ้าอาวาส
ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้อีก 2 ราย ทราบชื่อต่อมาชื่อนายบุญสืบ อินธนู อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นคนใช้อาวุธปืน เอ็ม 16 กราดยิงพระสุระชัย และนายสมยง บุญเจียม หรือแกละ คนติดต่อมือปืนและคนขับรถ โดยจับคนร้ายทั้งสองได้ขณะขับรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแมค สีขาว หมายเลขทะเบียน ถถ 5710 กทม. เพื่อหลบหนีที่บ้านนิคมผัง 2 ถนนนิคมลำตะคอง ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทั้งสองให้การรับสารภาพว่ามาดักรออยู่ใกล้เกิดเหตุ จนถึงเวลา 04.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่พระสุระชัย ตื่นจากจำวัด เพื่อมาปฎิบัติภารกิจกวาดลานวัดบริเวณหน้ากุฎิ จึงได้คว้าอาวุธปืนยิงไป 10 กว่านัด และดูจนแน่ใจว่ามรณภาพแล้วจึงรีบหลบหนีไปตามถนนนิคมลำตะคอง สุดท้ายหนีไม่รอดโดนสกัดจับกุมได้
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุได้อีก 1 ราย คือนายบุญเกิด พูนทองหลาง อายุ 50 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวังกะโล ต.วังกระทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และเป็นมัคคทายกของวัดวังกะโล ที่เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งให้การรับสารภาพเช่นเดียวกัน ส่วนสาเหตุนั้นมาจากขัดผลประโยชน์ในการรับสะเดาะเคราะห์ อาบน้ำมนต์ให้กับชาวบ้าน และกิจนิมนต์ต่างๆ ปัญหาเกี่ยวกับการสร้างพระวิหาร และประเด็นสำคัญคือการการแต่งตั้งเจ้าอาวาส
พล.ต.อ.จงรักษ์ จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.แห่งชาติ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาไม่ถึง 6 ชั่วโมง ส่วนมูลเหตุมาจากการขัดผลประโยชน์ภายในวัด รวมทั้งการแต่งตั้งเจ้าอาวาสขึ้นมาใหม่ด้วย ทำให้พระลูกวัดเสียผลประโยชน์