โจ๋พัทยารุมทุบโหด

รุมตีขานักธุรกิจออสซี่จนหักสองข้าง เผยเหตุแค่เดินแล้วทำน้ำกระฉอกใส่โดยไม่ตั้งใจ หนุ่มนักท่องเที่ยวขอโทษแล้วก็ยังไม่พอใจ คว้าไม้รุมตีขาจนหัก เหยื่อโทร.หาแฟนสาวชาวไทยนำส่งโรงพยาบาล รอแจ้งความตำรวจหลายชั่วโมงแต่ไร้วี่แวว

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ร.พ.พัทยาเมมโมเรียล ว่าได้มีชาวต่างชาติถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายเหตุเกิดที่ปากซอย 13/1 ถนนชายทะเล ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนขาทั้งสองข้างหัก ต้องทำการผ่าตัดเป็นการเร่งด่วน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบร่างของนายมิก โมแนนส์ อายุ 39 ปี สัญชาติออสเตรเลีย นักธุรกิจเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดฯ ที่ประเทศออสเตรเลีย นอนอยู่บนเตียงในห้องฉุกเฉิน


ขาข้างซ้ายบริเวณใต้หัวเข่ามีร่องรอยถูกตีจนเป็นรอยยุบลงไปประมาณ 5 ซ.ม. ข้อเท้าซ้ายหักจนปลายเท้าห้อยผิดรูป และที่บริเวณหน้าแข้งขวาร่องรอยฟกช้ำและปวดตลอดเวลา จากการเอกซเรย์ของแพทย์พบว่าขาข้างซ้ายกระดูกหักสองท่อน และหน้าแข้งขวากระดูกแตกละเอียด ต้องเข้ารับก่ารผ่าตัดอย่างเร่งด่วน

เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 12 ก.ย. ขณะเดินออกจากห้องพักที่อาคาร โนวา พาร์ค ในซอยเออาร์ พัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ เพื่อไปซื้อของที่ห้างรอยัล ถนนสายชายทะเล ระหว่างนั้นฝนได้ตกลงมาตั้งแต่หัวค่ำ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบวัยรุ่นจำนวน 4 คน นั่งดื่มสุราส่งเสียงโวยวายเสียงดังกันบนทางเดิน ตนจึงได้เดินก้าวขาลงไปบนถนนเพื่อหลบกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว บังเอิญไปเหยียบเข้าที่แอ่งน้ำขังกระเด็นไปโดน 1 ในกลุ่มวัยรุ่น และได้กล่าวขอโทษกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยแล้ว


แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่ฟังหยิบทั้งเหล็กและไม้ที่วางอยู่ข้างๆ ตีเข้าที่ขาตนจนล้ม จากนั้นก็กระหน่ำตีเข้าที่ขาตนอย่างไม่ยั้ง ตนเองได้ร้องกล่าวคำขอโทษเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล ท่ามกลางเสียงร้องของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง จนกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวหนำใจได้วิ่งถือไม่หนีเข้าไปในซอย 13/2 มุ่งหน้าไปทางถนนพัทยาสายสอง

ตนได้ชวนแฟนกลับมาที่เมืองไทยเนื่องจากมาต่อวีซ่าที่ขาดและมาพักอยู่ที่พัทยาได้ประมาณ 1 เดือน โดยก่อนเกิดเหตุนายมิกได้เดินมาบอกว่าจะไปซื้อของที่ห้างรอยัล ต่อมาแฟนได้โทรศัพท์มาว่าถูกทำร้าย จึงเดินทางไปดูและโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ต.พัทยา และนั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเกิดเหตุเพื่อให้รีบไปจับตัวคนร้ายประมาณ 1 ชั่วโมงก็ไม่เห็นวี่แววของตำรวจซักนาย จึงได้โบกรถสองแถวเพื่อนำแฟนของตนไปรักษาที่ร.พ.พัทยาเมมโมเรียล และตนก็ยังรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่เนื่องจากนายมิกต้องการจะรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนที่จะขึ้นผ่าตัด จนกระทั่งเวลา 01.00 น. เห็นว่าไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่มาจึงได้ให้แฟนขึ้นไปผ่าตัด

"ทั้งๆ เหตุเกิดมาจน 2 ช.ม.แล้ว คนร้ายก็คงหลบหนีไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่ชาวต่างประเทศถือว่าเป็นรายได้หลักของเมืองพัทยา แต่กลับไม่มีตำรวจมาสนใจ คาดว่าคงไม่นานนักท่องเที่ยวคงหายไปหมดจากเมืองพัทยาอย่างแน่นอน" แฟนสาวออสซี่กล่าว

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด