โหด! ยิงหัว2แม่ลูก

พ.ต.ต.สุรพล ต้อยจตุรัส สารวัตรเวร สภ.อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงที่โรงงานผลิตลังปลาชื่อ ส.เจริญทรัพย์ ตั้งอยู่เลขที่ 82 หมู่ 2 ต.ศาลเจ้าโรงทอง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร ผบก.ภ.จ.อ่างทอง พ.ต.อ.นริศวร์ ละม้ายอินทร์ ผกก. พ.ต.ท.สมศักดิ์ ชูตระกูล รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ปิยะมงคล รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ต.อรรถพร ภมรมานพ สว.วท.อ่างทอง และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง

ปลูกอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ติดริมถนนสายวิเศษชัยชาญ-บ้านหลักแก้ว พบคนงานกว่า 30 คน อยู่ในอาการแตกตื่นตกใจ ภายในออฟฟิศด้านหน้าของโรงงานพบกองเลือดเปรอะเปื้อนโซฟาและพื้นห้อง ปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. 4 ปลอก หัวกระสุนปืนขนาดเดียวกัน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.วิเศษชัยชาญ ก่อนหน้าแล้ว 2 ราย เสียชีวิตเวลาต่อมา ทราบรายแรกชื่อนางสุวรรณ เจริญทรัพย์ อายุ 52 ปี เป็นเจ้าของโรงงานดังกล่าว สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 11 มม. เข้าอกซ้ายทะลุหลัง 1 นัด ดั้งจมูกกระสุนตุงท้ายทอย 1 นัด อีกรายชื่อนายนันธวัฒน์ เจริญทรัพย์ อายุ 24 ปี เป็นลูกชายของนางสุวรรณ สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันเข้าอกขวากระสุนตุงด้านหลัง 1 นัด กลางศีรษะ 1 นัด

นางสุวรรณนอกจากจะประกอบอาชีพทำธุรกิจโรงงานผลิตลังปลาขายแล้ว ยังมีตำแหน่งทางสังคมเป็นสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง ส่วนลูกชายอยู่ระหว่างการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะบริหารธุรกิจ ก่อนเกิดเหตุตนคุมคนงานผลิตลังปลาในโรงงาน ส่วนภรรยาและลูกชายนอนพักผ่อนอยู่ตรงโซฟาภายในออฟฟิศ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัด เมื่อวิ่งออกไปดูพบว่าภรรยาและลูกชายถูกยิงนอนจมกองเลือด จึงรีบนำส่ง รพ. และเสียชีวิตเวลาต่อมา ขณะเดียวกัน ตำรวจสอบปากคำพยานเป็นคนงานโรงงานผลิตลังปลาให้การว่าขณะนั่งอยู่ใกล้ออฟฟิศมีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มอำพรางใบหน้าทั้งคู่ ขี่เข้าไปจอดด้านหน้า จากนั้นเปิดประตูเดินเข้าไปในออฟฟิศ ตอนแรกไม่ได้สนใจคิดว่าเป็นลูกค้ามาติดต่อเรื่องงาน กระทั่งได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ส่วนคนร้ายวิ่งออกจากออฟฟิศไปขึ้นรถหลบหนี

เป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร ชอบช่วยเหลือเพื่อนบ้านและสังคมส่วนรวม ส่วนนายนันธวัฒน์ ทราบว่าเมื่อไม่นานมานี้เคยมีเรื่องกับคู่กรณีรายหนึ่งย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะเข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ โดยนายนันธวัฒน์ทุบรถยนต์ของคู่กรณีได้รับความเสียหาย อีกฝ่ายแจ้งความตำรวจ พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 5 หมื่นบาท นายนันธวัฒน์นำเรื่องไปปรึกษากับนายประสิทธิ์เพื่อขอเงินไปชดใช้ให้กับคู่กรณี แต่นายประสิทธิ์ไม่ยอมให้พร้อมแนะนำไปให้ขอกับนางสุวรรณแทน แต่ยังไม่ทันที่นายนันธวัฒน์จะเอ่ยปากขอเงินกลับมาถูกยิงเสียชีวิตไปก่อน

ก่อนหน้าเกิดเหตุไม่กี่วันมีชายแปลกหน้า 2 คน ทำทีมาสอบถามหานายนันธวัฒน์ซึ่งประเด็นดังกล่าวตำรวจเชื่อว่าอาจเป็นไปได้ที่คนร้ายต้องการชีวิตของนายนันธวัฒน์แต่ขณะลงมือนางสุวรรณตกใจตื่นขึ้นมาเห็น คนร้ายจึงฆ่าปิดปากไปอีกคน ส่วนประเด็นอื่นๆทั้งเรื่องขัดแย้งส่วนตัว และขัดผลประโยชน์ ธุรกิจผลิตลังปลาตำรวจไม่ได้ตัดทิ้งไป อยู่ระหว่างการสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ