ล่าหนุ่มใหญ่บ้ากาม อาละวาดชานกรุง ลวงบังคับขืนใจดญ.

ผวาภัยหนุ่มใหญ่หื่นกาม พ่อแม่ ผู้ปกครองระวัง ชายหัวล้านวัยกลางคนออกอาละวาด ขี่รถ จยย. สีแดงตระเวนล่อลวงเด็กหญิงไปขยี้พรหมจรรย์ล่าสุด 2 พี่น้องวัย 10 และ 13 ปี ตกเป็นเหยื่อสังเวยความใคร่ ถูกอุ้มขึ้นรถพาไปข่มขืนทั้งในป่าละเมาะข้างทางและโรงแรมม่านรูด แถมยังทำร้ายร่างกายเหยื่อจนบอบช้ำ คาดก่อเหตุบัดซบมาแล้วในหลายพื้นที่ ตำรวจตามไล่ล่าตัวยังไร้วี่แวว ด้านตำรวจศูนย์พิทักษ์เด็กฯภาค 2 รวบพ่อเล้าแม่เล้าเอเย่นต์ค้ามนุษย์ ที่นำเด็กในสังกัดเร่ขายบริการทางเพศได้กลางเมืองพัทยา

ไอ้โล้นหื่นขี่รถ จยย.ตระเวนล่าเหยื่อเด็กหญิงไป ขยี้กามรายนี้ เปิดเผยเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 16 ต.ค. นางแอ๋ม (นามสมมติ) อายุ 55 ปี นำหลานสาว 2 คนคือ ด.ญ.นะ (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ และ ด.ญ.แหวว (นามสมมติ) อายุ 13 ปี เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.คลองเจ็ด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี กรณีหลานสาวทั้ง 2 ถูกคนร้ายเป็นชายวัยกลางคนล่อลวงขึ้นรถ จยย.จากปั๊มน้ำมันร้างย่านสายไหม ก่อนพาตระเวนไปข่มขืนตามพงหญ้าข้าง ทาง และโรงแรมม่านรูดใน จ.ฉะเชิงเทรา ตลอดทั้งคืน พร้อมทั้งทำร้ายร่างกายก่อนปล่อยตัวกลับมาในรุ่งเช้าในสภาพเสื้อผ้าเปื้อนเลือดปนคราบน้ำอสุจิเต็มตัว

นางแอ๋ม น้าสาวของเด็กหญิงเคราะห์ร้ายทั้ง 2 คนกล่าวว่า พ่อแม่เด็กเสียชีวิตไปนานแล้ว ตนและญาติเป็นคนคอยดูแลแทน ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 12 ต.ค. เวลาเที่ยง หลานทั้งสองถูกชายศีรษะล้านอายุ 50 ปีเศษ ขี่รถ จยย.สีแดงไม่ทราบสีและยี่ห้อทำทีมาสอบถามเส้นทาง และชักชวนให้เด็กขึ้นรถอ้างว่าจะพามาส่งบ้าน เด็กหลงเชื่อขึ้นซ้อนท้ายรถไปด้วย คนร้ายข่มขู่ไม่ให้ส่งเสียงร้อง ถ้าไม่เชื่อจะฆ่าให้ตาย จากนั้นขี่รถพาเด็กลัดเลาะไปตามถนนหทัยราษฎร์ เมื่อถึงทางเปลี่ยวคนร้ายจอดรถข้างทางให้ ด.ญ.นะนั่งรอที่รถ และอุ้ม ด.ญ.แหววเข้าไปข่มขืนในพงหญ้า

จากนั้นขับรถพาเด็กไปเปิดห้องพักหมายเลข 103 โรงแรมม่านรูดชื่อ "พิสิทธิ์รีสอร์ท" ฝั่งตรงข้าม รพ.โสธราเวช เลขที่ 574/1 ถนนฉะเชิงเทรา-บางปะกง อ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยอ้างว่าทั้ง 3 คนเป็นพ่อลูกกันขี่รถ จยย.มาจากต่างจังหวัด แล้วลงมือข่มขืน ด.ญ.แหวว อีกครั้ง และพยายามจะข่มขืน ด.ญ.นะด้วย แต่ไม่สำเร็จ กระทั่งช่วงตี 4 คนร้ายพาเด็กออกจากโรงแรม จอดรถแวะเข้าไปในป่ารกข้างทางทำอนาจารกับเด็กทั้ง 2 คน และยังทำร้ายร่างกายจนเด็กต้องร้องขอชีวิต ก่อนนำตัว 2 พี่น้องมาปล่อยลงที่ป้ายรถเมล์ย่านมีนบุรี เด็กจึงโทรศัพท์มาหานางแอ๋ม น้าสาว ให้ไปรับตัวในสภาพเสื้อผ้าเปื้อนเลือดปนคราบน้ำอสุจิ เมื่อเด็กเล่าเรื่องบัดซบที่เกิดขึ้นให้ฟัง น้าสาวได้พาหลานกลับไปที่โรงแรมม่านรูดอีกครั้ง เพื่อขอดูภาพใบหน้าคนร้ายจากกล้องจรปิดของทางโรงแรม และพาเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา เพื่อขอความช่วยเหลือ

หลังทราบเรื่อง นางปวีณา ประสานไปยัง พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ ผกก.สน.สายไหม และ พ.ต.อ.สุเทพ บุญค้ำ ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อให้เร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดโดยเร็วที่สุด จากนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พา 2 เด็กหญิงผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.สายไหม พร้อมพาไปตรวจร่างกายที่ รพ.ภูมิพล สำหรับคนร้ายหื่นกามรายนี้ อาจจะเป็นบุคคลเดียวกับที่ก่อคดีอนาจารเด็กในพื้นที่ สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้ลงภาพจากกล้องวงจรปิดขณะคนร้ายขี่รถ จยย.พาเด็กหญิงผู้เสียหายคนหนึ่งไปกระทำอนาจาร และน่าจะตระเวนก่อคดีลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่

ก่อนหน้านี้ ตำรวจศูนย์พิทักษ์เด็กฯภาค 2 รวบเอเย่นต์ค้ามนุษย์รายใหญ่ โดยเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 15 ต.ค. พ.ต.ท.กรีฑา ตันคนารัตน์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชน และสตรี (พดส.) ภาค 2 พร้อมเจ้าหน้าที่วางแผนล่อซื้อบริการทางเพศจาก น.ส.พรเพ็ญ สารทัตร์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/3 หมู่ 2 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งว่า น.ส.พรเพ็ญ เป็นเอเย่นต์ค้าประเวณี โดยมักจะนำเด็กสาวมาส่งให้กับลูกค้ากลัดมันเพื่อขายบริการทางเพศในเขตเมืองพัทยา นาจอมเทียน และสัตหีบ จึงวางแผนล่อซื้อบริการในราคา 2,000 บาท นัดส่งตัวเด็กหญิงที่โรงแรมพรทิพย์ รีสอร์ต ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เมื่อถึงเวลานัดหมาย น.ส.พรเพ็ญ ขี่รถ จยย.นำเด็กหญิงวัย 15 ปี มาส่งให้ในห้องพักของโรงแรมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุมไว้ได้ จากนั้นวางแผนให้ น.ส. พรเพ็ญ โทรศัพท์ติดต่อนัดให้นายพัชร โพธิ์แหบ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/98 หมู่ 5 ต.สัตหีบ เพื่อนร่วมขบวนการ นำเด็กหญิงมาส่งให้ที่ห้องพักโรงแรมฮิลล์พีค็อก รีสอร์ต เลขที่ 74/7 หมู่ 5 ต.สัตหีบ โดยเจ้าหน้าที่ทำทีเป็นลูกค้านั่งรออยู่ในห้อง เมื่อนายพัชรพาหญิงสาวและเด็กหญิงอายุระหว่าง 13-17 ปี มาส่งให้ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมทันที

สอบสวน น.ส.พรเพ็ญ และนายพัชร แม่เล้าพ่อเล้าแก๊งค้ากาม รับสารภาพว่า เป็นเอเย่นต์ลักลอบค้าประเวณีจริง ทำมานานกว่า 1 ปีแล้ว หญิงสาวและเด็กหญิงที่นำมาส่งให้ลูกค้าจะเป็นพนักงานร้านคาราโอเกะ เด็กวัยรุ่นใจแตก หรือเด็กนักเรียนที่เพื่อนชักชวนมาขายบริการ โดยจะเรียกเงินค่าตัวเด็กจากลูกค้าในราคา 2,000-3,000 บาทต่อเด็ก 1 คน และจะหักเงินเปอร์เซ็นต์จากเด็กครั้งละ 500 บาท หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่คุมตัว 2 ผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบดำเนินคดี ส่วนเด็กหญิงและหญิงสาวที่ขายบริการทางเพศ คุมตัวไปสอบสวนทำประวัติ ก่อนจะติดต่อให้พ่อแม่มารับตัวกลับไป