แม่เครียด จับลูกขัง2เดือน

ครูประสานมูลนิธิและตร.เข้าช่วยเหลือ ถูกแม่ด่าเปิงจนต้องวางแผนชวนคุยถ่วงเวลาแล้วปีนเข้าหลังบ้านอุ้มออกมาได้ในสภาพผอมโซ มีอาการหวาดกลัวอย่างหนัก เผยแม่มีอาการคล้ายเป็นคนโรคจิตหวาดระแวง ก่อนหน้านี้พาลูกเดินไปเรียน-กลับบ้าน ทั้งๆ ที่ระยะทางห่างถึง 2 ก.ม.โดยไม่ยอมขึ้นรถ พักหลังอาการกำเริบหนักไม่ยอมให้ลูกไปเรียนและขังไว้แต่ในบ้าน ด.ช.ขาดสารอาหารและอ่อนเพลียหนัก ส่งเข้ารักษาตัวก่อนให้ประชาสงเคราะห์ช่วยดูแล ระหว่างที่พาแม่ไปตรวจและรักษาอาการทางจิต

นายธนชาติ ยอดสุวรรณ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาสังคมและพิทักษ์เด็กและสตรี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับแจ้งจากนางปราณี สุขานนท์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลราชบุรี ว่ามีเด็กนักเรียน ชั้นป.5 ชื่อด.ช.วีระพจน์ สุขหอม 11 ขวบ ถูกแม่กักขังไม่ให้ไปโรงเรียนกว่า 2 เดือน อาศัยอยู่บ้านเช่าเลขที่ 270/23 ซอยจิติปาตรี ถนนมนตรีสุริยวงศ์ เขตเทศบาลเมืองราชบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.เมืองราชบุรี และมูลนิธิประชานุกูล รุดไปตรวจสอบและช่วยเหลือ

พบมีการล็อกทั้งประตูและหน้าต่างทุกบานปิดใส่กลอนแน่นหนา เจ้าหน้าที่จึงเรียกผู้ที่อยู่ในบ้านให้ออกมาพบ โดยนางเตือนใจ ศรีพิพิง อายุ 45 ปี เจ้าของบ้านเปิดหน้าต่างออกมาตะโกนไล่เจ้าหน้าที่ เมื่อถามถึงด.ช.วีระพจน์ นางเตือนใจ มีอาการตื่นตระหนกอ้างว่าลูกชายไปเรียนหนังสือ และพยายามไล่เจ้าหน้าที่ โดยพูดจาวกไปวนมาและมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่จึงเปลี่ยนแผนให้ชักชวนนางเตือนใจพูดคุยไปเรื่อยๆ และให้ด.ต.กฤษฎ์ ชินอักษร และส.ต.อ.ภานุพงศ์ ล้วนเพชร เจ้าหน้าที่สายตรวจสภ.อ.เมืองราชบุรี งัดหน้าต่างด้านหลังบ้านเข้าไป

พบด.ช.วีระพจน์ นอนกอดหมอนข้างแน่นและใช้ผ้าคลุมตัวมีท่าทีตื่นตกใจ เจ้าหน้าที่ต้องปลอบอยู่เป็นเวลานานก่อนที่จะอุ้มออกมาได้ โดยด.ช.วีระพจน์ อยู่ในสภาพผอมโซไม่มีแรง อีกทั้งยังมีไข้ไม่สบาย ขณะเดียวกันนางเตือนใจ เมื่อรู้ว่าเจ้าหน้าที่เข้ามาทางหลังบ้านจึงตะโกนด่าทอและวิ่งเข้ามาแย่งลูกชายไป เจ้าหน้าที่ต้องเกลี้ยกล่อมอยู่นานนับชั่วโมงกว่าที่นางเตือนใจจะยอมตามเจ้าหน้าที่มาโรงพยาบาล

ว่า ด.ช.วีระพจน์ เป็นเด็กที่เรียนดี แต่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาขาดเรียนไปเฉยๆ ครูประจำชั้นมาปรึกษาเพราะไม่สามารถตามตัวได้ เมื่อส่งจดหมายไปที่บ้านก็ไม่มีการตอบรับกลับมา จึงถามเพื่อนนักเรียนที่รู้จักบ้านและพาครูไปดูก็ไม่มีใครยอมออกมาคุย สอบถามทราบว่าเด็กถูกขังอยู่ในบ้านจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจและนายธนชาติ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาสังคมและพิทักษ์เด็กและสตรี มาช่วยเหลือ

นางเตือนใจเหมือนมีอาการเป็นโรคประสาท ชอบเก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับใคร ก่อนหน้านี้จะพาลูกมาส่งและรับกลับทุกวันโดยจะใช้วิธีเดินทั้งๆ ที่บ้านกับโรงเรียนห่างกันถึง 2 ก.ม. เหมือนคนมีอาการหวาดระแวงว่าลูกจะได้รับอันตราย จนช่วงหลังสังเกตว่านางเตือนใจจะพาลูกออกมากินข้าวแค่วันละ 1-2 ครั้ง แถมบางวันก็ไม่ออกมา แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยได้อย่างไร เพราะแค่เข้าไปมองในบ้านนางเตือนใจก็จะออกมาตะโกนด่า จนไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยว

ซึ่งมีอาการอ่อนเพลียและขาดสารอาหาร หลังจากอาการดีขึ้นแล้วจะส่งให้ประชาสงเคราะห์ช่วยดูแลไปก่อน ส่วนนางเตือนใจ ซึ่งส่งไปตรวจสภาพจิตและอาการทางประสาทจะได้รับการรักษาจนเป็นปกติ สามารถดูแลลูกชายได้

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด