เผยสถิติอาชญากรรมปี 52 พุ่งกระฉูด เสพยาเป็น1แสนราย-ขายยาบ้า 13 ล้านเม็ด

เผยสถิติอาชญากรรมปี 2552 พุ่ง เสพยาเพิ่มกระฉูดกว่าแสนราย เร่ขายยาบ้าเพิ่มขึ้นอีก 13 ล้านเม็ด ระบาดหนัก 5 พันชุมชน ขณะที่นักโทษพ้นคุกก่อคดีซ้ำ 22 % เพราะพิษศก. ด้านบช.ภ.5 ระบุคดีขโมยจักรยานยนต์เพิ่มถึง 41 % ภาค 9 เกือบ 61 %

พล.ต.ท.สุรสีห์ สุนทรศารทูล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 (ผบช.ภ.6) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภูมิภาค"มติชน"เมื่อวันที่ 11ตุลาคม

ปีนี้ปัญหาอาชญากรรม การประทุษร้ายต่อทรัพย์ การลักทรัพย์เคหสถานเวลากลางคืน โจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และยาเสพติดเพิ่มขึ้นกว่าปี 2551 หลายเท่าตัว  โดยเฉพาะยาบ้า ในปี 2551 ผู้เสพยาเสพติดมี 9 หมื่นราย ปี 2552 ผู้เสพยาเสพติดเพิ่มขึ้น 1 แสนราย สถานการณ์ยาบ้าเพิ่มขึ้น 13 ล้านเม็ด เรียกได้ว่าเปิดประตูบ้านออกมาสามารถซื้อยาบ้าได้เลย ขณะที่การบำบัดรักษาทำได้เพียง 3 หมื่นคน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.2 แสนคน

พล.ต.ท.สุรสีห์กล่าวว่า ในชุมชนมียาบ้าระบาดหนักกว่า 5,000 แห่ง ส่วนผู้ต้องคดีในเรือนจำมาแล้วหลังพ้นโทษกลับมาก่อคดีซ้ำอีก

โดยมีสถิติสูงมากถึงร้อยละ 22 คดีอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบมาจากปัญหาเศรษฐกิจถดถอย พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว ผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (บช.ภ.5) ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ต่อสู้และเอาชนะยาเสพติด บช.ภ.5 เปิดเผยว่า สถิติการจับกุมยาเสพติดให้โทษในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ช่วงปีงบประมาณ 2552 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551-กันยายนที่ผ่านมา สามารถจับกุมคดียาเสพติดจำนวน 8,925 คดี ผู้ต้องหาจำนวน 9,530 คน หากเทียบกับปีงบประมาณในปีที่ 2551 ถือว่าสถิติการจับกุมเพิ่มขึ้น

สำหรับสถิติคดีอาญาในพื้นที่ บช.ภ.5 พบว่าคดีโจรกรรมรถจักยานยนต์เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 41.16 ส่วนคดีที่รัฐเป็นผู้เสียหายในเรื่องอาวุธปืนธรรมดาเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.84 อาวุธปืนสงครามเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.11

พล.ต.ต.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 กล่าวว่า จากสภาพเศรษฐกิจตกต่ำอาจทำให้คนตัดสินใจทำผิดหรือก่อคดีอาชญากรรมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเข้าร่วมขบวนการค้ายาเสพติดเพราะต้องการเงินแบบง่ายๆ หรือก่อเหตุฉกชิงวิ่งราวทรัพย์สินประชาชน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในทุกพื้นที่เพื่อเป็นการเฝ้าระวังอันตรายให้กับประชาชนไว้ก่อน

พล.ต.ต.สมคิดกล่าวว่า ปัญหาหนี้นอกระบบถือเป็นภัยคุกคามระบบเศรษฐกิจด้วยนั้น ต้องเร่งจัดการเช่นกัน

แต่ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นการสมยอมของลูกหนี้กับเจ้าหนี้ มีนายทุนที่ถือโอกาสนำเงินเข้ามาหมุนเวียนตามตลาด แผงลอย โดยมีลูกน้อง นักเลง อันธพาล เข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งยากต่อการจับกุม ขอร้องประชาชนที่มีเบาะแสให้ช่วยแจ้งข้อมูลซึ่งตำรวจ ที่ผ่านมาผู้เสียหายจะรอให้ถูกทำร้ายก่อนเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่

พล.ต.ต.สันติ เพ็ญสูตร รักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า สถิติคดีอาญาที่เกิดขึ้นในสังกัดตำรวจภูธรภาค 9 (สงขลา ตรัง พัทลุง และสตูล)

ว่าคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ปีงบประมาณ 2552 ได้รับแจ้งจำนวน 675 คดี แยกเป็นฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 460 คดี ปล้นทรัพย์ 73 คดี ชิงทรัพย์ 132 คดีและวางเพลิง 9 คดี จับกุมจำนวน 285 คดี คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ ได้แก่ ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ รีดเอาทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์และรับของโจร ในปีงบประมาณ 2552 มีคดีที่ได้รับแจ้งจำนวน 4,006 คดี จับกุมได้ 1,143 คดี

สำหรับคดีที่น่าสนใจ ได้แก่ การโจรกรรมรถจักรยานยนต์ปีงบประมาณ 2552 มีจำนวนคดีได้รับแจ้งจำนวน 1,855 คดีจับกุมได้ 193 คดี เพิ่มขึ้นร้อยละ 60.75 เมื่อเปรียบเทียบกับปีงบประมาณ 2551

พล.ต.ต.สันติกล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ บช.ภ.9 นั้น เมื่อเปรียบเทียบระหว่างปีงบประมาณ 2551 และ 2552 ภาพรวมคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คดีกลุ่มชีวิตร่างกาย มีคดีเกิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สำหรับปัญหายาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดเป้าหมายที่ 1,309 คดี แต่สามารถจับกุมจำนวน 1,847 คดี ส่วนหนึ่งของมาตรการดังกล่าวมาจากการประกาศสืบจับผู้ต้องหารายสำคัญ ซึ่งมีอยู่จำนวน 20 ราย โดยตั้งเงินรางวัล เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน ขณะนี้จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 8 ราย