เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่มีบ้านพักอยู่ติดกับที่พักคนงานก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
ว่าได้มีคนงานก่อสร้างจับลูกชาย ชื่อ เด็กชาย ป๋อง อายุ 7 ขวบ (นามสมมติ) นักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในสัตหีบ เข้าไปในห้องพักคนงานใช้สายยางพลาสติกตีแบบไม่ยั้ง เด็กส่งเสียงร้องแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือ เพราะเป็นเรื่องระหว่างพ่อกับลูก เมื่อหยุดตีเด็กออกมาจากห้องพักทำให้ทุกคนตกใจเพราะสภาพร่างกายของ น้องป๋อง มีแต่รอยช้ำ ที่ศีรษะ ใบหน้า ลำตัว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียน พบนักเรียนคนดังกล่าวยังมาโรงเรียนตามปกติ เล่นกับเพื่อน ๆ ตามประสาเด็ก จึงได้บันทึกภาพเอาไว้
พบว่าที่ใบหน้ามีแต่ร่องรอยเขียวช้ำเห็นได้ชัดเจนจึงได้สอบถาม น.ส.นพวรรณ คนซื่อ ผู้อำนวยการ โรงเรียน เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. ซึ่งวันที่ 4 ตุลาคม เป็นวันออกพรรษาพอดีเด็กมาโรงเรียนทำให้ประชาชนนับร้อยคนที่มาแสวงบุญ และทำบุญวันออกพรรษาที่วัดพบเห็นเด็กคนนี้ใบหน้าบวมปูด เขียวช้ำ ทุกคนสอบถามเด็กก็ได้รับคำตอบเดียวกันว่าถูกพ่อของตัวเองตี ซึ่งเด็กคนนี้ได้ติดตามครอบครัวมาทำงานก่อสร้าง พ่อได้นำตัวมาฝากเข้าเรียน จึงได้รับไว้เพราะเกรงว่าเด็กจะมีปัญหา และปมด้อยเรื่องการศึกษา
หลังจากที่พ่อเด็กพาเด็กมาส่งที่โรงเรียนเพราะอยู่ในช่วงสอบก่อนปิดภาคเรียน เมื่อเห็นสภาพเด็กบาดเจ็บ จึงได้ให้ครูพาไปหาแพทย์ที่ โรงพยาบาลสัตหีบ
กิโล 10 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ ตรวจร่างกาย บันทึกร่องรอยการถูกทำร้ายไว้ และได้เรียกพ่อมาสอบถาม ทราบว่า กระทำเพราะความโกรธที่ลูกชายเข้าไปในห้องพักของเพื่อนร่วมงานก่อสร้างซึ่งไม่ถูกกัน และมักจะได้ยินว่าลูกชายเข้าไปขโมยของกิน และของมีค่าอื่นๆ
ในวันเกิดเหตุพบว่าลูกชายเข้าไปในห้องจึงได้พาเข้าห้องพักปิดประตูใช้สายยางพลาสติกตีอย่างหนัก ชนิดลืมตัวเพราะอารมณ์โกรธที่เหมือนถูกประณามว่ามีลูกขี้ขโมย
ซึ่งเมื่อสอบถาม เด็กชายป๋องทราบว่าที่แท้จริงแล้วไม่ใช่ตัวเองที่เข้าไปลักขโมยของกินข้างห้อง แต่เป็นน้องชายที่เข้าไปห้องพัก เมื่อเห็นว่าน้องชายหายไปจึงได้เข้าไปตามน้องชายออกมาพอดีที่มีคนเห็นตนอยู่ในห้องพอดี จึงถูกเข้าใจผิดคิดว่าเข้าไปขโมยของในห้องจึงพาตัวมาตีอย่างหนัก