เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 ต.ค. ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1บก.ป.
ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายดนัย รายเวทย์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/56 วัชรพลคอนโดมิเนียม ถ.สุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. และนายประเสริฐ ฉัตรอมรโชติกุล อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/ 137 หมู่ 8 แขวง-เขตจอมทอง กทม. สองผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์เครื่องประดับจิวเวลลี่ กว่าสี่พันชิ้น มูลค่า 60 ล้านบาท ของบริษัทค้าอัญมณีชื่อดัง "บิวตี้เจมส์" ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองถูกจับกุมตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหา” ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์นั้น และใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิด พร้อมของกลางเครื่องประดับจิวเวลลี่ เช่น สร้อยเพชร แหวนเพชร จี้เพชร กว่าสามพันชิ้น มูลค่า 58 ล้านบาท รถยนต์อีซูซุ รุ่นมิวเซเว่น สีดำ ทะเบียน ฌว 5285 กทม. โดยจับกุมนายดนัย ได้ภายในตลาดมีนบุรี กทม. ส่วนนายประเสริฐ จับกุมได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ถ.ราชพฤกษ์ เขตภาษีเจริญ เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะควบคุมตัวมาดำเนินคดี
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมาได้มีคนร้ายบุกเข้าไปเจาะตู้เซฟของบริษัทค้าอัญมณีชื่อดัง "บิวตี้เจมส์"
ตั้งอยู่เลขที่ 31 ถ.ศาลาแดง ซ.ยมราช แขวงและเขตบางรัก กทม. ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นของไฮโซตระกูลดัง "ศรีอรทัยกุล" ได้ทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท ต่อมาพล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.ได้สั่งการให้พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 นำทีมเข้าไปสืบสวนคลี่คลายคดี ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งจากในอาคารที่เหตุ และบริเวณรอบๆ จนพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยว่าอาจเป็นของคนร้าย ก่อนที่จะหาเลขทะเบียนจนทราบชื่อผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวคือนายดนัย ที่พบว่ามีประวัติก่อคดีลักทรัพย์มาอย่างโชกโชน ในหลายท้องที่ ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด จึงติดตามพฤติกรรมพบว่าการใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ชอบไปเล่นพนันตามบ่อนต่างๆ ทั้งยังมีความสนิทสนมกับนายประเสริฐที่เคยมีประวัติต้องคดีรับของโจรที่ สน.โชคชัยด้วยเช่นกัน เมื่อตรวจสอบกระแสการเงินของผู้ต้องหา พบว่ามีเงินเข้าออกบัญชีเป็นจำนวนมาก รวมแล้วกว่า 1 ล้านบาท โดยได้มีการนำเช็คเงินสดไปขึ้นเงินที่ธนาคารกสิกรไทย ย่านตลาดมีนบุรี
ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวนายดนัย จนไปพบว่ากำลังเดินออกมาจากร้านทองแห่งหนึ่ง ในตลาดมีนบุรี จึงขอตรวจค้น
พบของกลางเป็นเครื่องประดับจำพวกแหวนเพชร และจี้เพชร จำนวน กว่า 30 รายการ จึงนำตัวมาสอบสวน เบื้องต้นรับสารภาพ หลังจากนั้นจึงได้นำเจ้าหน้าที่ตามไปจับกุมนายประเสริฐ พร้อมยึดของกลางที่ผู้ต้อหานำไปซุกซ่อนไว้ในรถยนต์อีซูซุ ได้เพิ่มกว่าสามพันชิ้น โดยผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าหนึ่งในของกลางนั้นมีพลอยบราซิล สีฟ้า เม็ดหนึ่งที่มีชื่อว่า "บลูโทปาซ" มีมูลค่าสูงถึงเม็ดละ 1,400,000 บาทอีกด้วย
เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ ว่าวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง ลาดตระเวนเพื่อลักทรัพย์และผ่านไปยังบริษัทดังกล่าว
สังเกตเห็นว่าเป็นบริษัทค้าอัญมณีรายใหญ่ ก็เลยพากันเดินสำรวจ จนไปพบว่าที่บริเวณด้านหลังของบริษัทซึ่งติดกับอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งเป็นจุดอับ การป้องกันไม่ดีพอ จึงปีนรั้วเข้าไป ใช้ไขควงเลาะขอบกระจกใกล้ประตูจนแตก แล้วเปิดประตูเข้าไปเข้าไปในอาคาร ขึ้นไปบนชั้นสอง เจอตู้เซฟ ก็ใช้อุปกรณ์ที่นำไปด้วยงัดนำเอาทรัพย์สินภายในตู้ออกมาทั้งหมด ก่อนจะหลบหนีออกมา ส่วนทรัพย์สินที่ได้ก็นำไปขายกับร้านทองที่เคยไปขายเป็นประจำ ซึ่งมีอยู่หลายๆแห่งทั่วกรุงเทพ แต่ละครั้งก็จะขายครั้งละน้อยๆ เพราะกลัวจะผิดสังเกต เมื่อได้เงินมา ก็จะนำมาแบ่งกัน ออกท่องราตรี และเข้าบ่อนการพนัน จนกระทั่งมาถูกจับกุม หลังการสอบสวนจึงส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดีต่อไป