อินโดได้ยินเสียงร้องแต่ไม่เจอใครใต้ซากดินไหว

เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในอินโดนีเซีย ที่จังหวัดสุมาตราตะวันตก

เมื่อ 6 ต.ค. หน่วยกู้ภัยในเมืองปาดัง พื้นที่ประสบภัยรุนแรงหมดหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตใต้ซากแผ่นดินไหว หลังจากมีกลุ่มคนงานกู้ภัยได้ยินเสียงร้องเหมือนเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือออกมาจากใต้ซากโรงแรมอัมบาคัง ในใจกลางเมือง แต่เมื่อค้นหาลงไป กลับไม่พบสัญญาณของสิ่งมีชีวิตใดๆ ส่วนตรงพื้นที่อื่นๆ กู้ศพผู้เคราะห์ร้ายออกมาได้ราว 10 ราย

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยเริ่มฉีดพ่นยากันเชื้อโรคระบาดในจุดประสบภัย และใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่กู้ซากปรักหักพัง

ด้านโรงเรียนและร้านค้าที่รอดพ้นภัยแผ่นดินไหวเริ่มเปิดทำการแล้ว นับจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ เมื่อวันพุธที่ 30 ก.ย. สำหรับเขตเทือกเขาฝั่งตะวันออกและทางเหนือของเมืองปาดัง คาดว่ายังมีศพผู้เคราะห์ร้ายถูกฝังอยู่ใต้ดินโคลนที่ถล่มสูบเอาทั้งหมู่บ้านหายไป เจ้าหน้าที่กาชาดประเมินว่า ยอดผู้เสียชีวิตจริง น่าจะเกิน 3,000 ราย แต่สำนักงานจัดการหายนภัย แจ้งว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 704 ราย สูญหาย 295 ราย บ้านเรือนพังเสียหาย 170,000-200,000 หลัง ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งพังทลายอย่างสิ้นเชิง

เอียน เคลลี่ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า กองทัพเรือสหรัฐส่งเฮลิคอป เตอร์เข้าไปเพิ่มเติมอีกมาก เพื่อช่วยจ่ายเสบียงและสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้ผู้ประสบภัย

ด้านภัยพิบัติจากพายุกิสนา ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 300 ราย ทางสหประชาชาติแถลงเรียกร้องให้นานาประเทศช่วยบริจาคเงินช่วยเหลือฉุกเฉินสำหรับประชาชนราว 1 ล้านคนในฟิลิปปินส์ เป็นเงิน 74 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,500 ล้านบาท จากที่ตอนนี้มีผู้ประสบภัยที่ต้องอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว 4 แสนคน และพายุไต้ฝุ่นป้าหม่า เพิ่งทำลายบ้านเรือนชาวฟิลิปปินส์ไปอีก 4,000 หลัง