เตือน 31 จังหวัดเจอท่วมฉับพลัน

ญี่ปุ่นเตรียมรับมือพายุไต้ฝุ่น"เมอโลร์"มีความเร็วลมถึง 252 กม./ชม.ขณะที่ "ป้าหม่า"ยังไม่สิ้นฤทธิ์ไต้หวันฝนตกหนัก

และที่อินเดียยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 280 ศพ ได้รับความเดือดร้อน 17 ล้านคน ไร้ที่อยู่อาศัย 1.5 ล้านคน ส่วนที่อินโดนีเซียเหยื่อแผ่นดินไหวอาจถึง 3 พันศพ เจอแล้ว 704 ราย สูญหายอีก 295 คน บ้านเรือนพังเสียหาย 170,000-200,000 หลัง ขณะที่ “พระบรม” มอบถุงยังชีพซับน้ำตาชาวแม่พริก ขณะเดียวกัน ปภ.เตือน 31 จังหวัดระวังเจอน้ำท่วมฉับพลัน กรุงเทพฯ ก็ไม่รอด “ระนองรักษ์” แฉ พายุลูกใหม่ “มะลิ” เตรียมจ่อถล่มไทย ตรังประกาศปิดน้ำตก 6 แห่ง เพราะกลัวน้ำป่าไหลหลาก
       
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่า นายนาธาเนียล ครูซ หัวหน้าฝ่ายพยากรณ์อากาศสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์

แถลงว่า พายุไต้ฝุ่น “ป้าหม่า” ได้ลดระดับลงมาเหลือเพียงพายุโซนร้อนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เคลื่อนตัวอยู่ทางเหนือของฟิลิปปินส์ ห่างจากเขตอิโลคอสไปทางเหนือถึงตะวันตกเฉียงเหนือ 110 กม. และเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เขตอิโลคอส เพราะอิทธิพลของการเคลื่อนตัวของพายุไต้ฝุ่น “เมอโลร์” แต่ก็ไม่คาดว่าจะขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ และอาจมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เข้าสู่ทะเลจีนใต้ในอีก 2-3 วันนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่า พายุโซนร้อน “ป้าหม่า” ซึ่งมีความเร็วลม 105 กม./ชม. ยังอาจสร้างความเสียหายรุนแรง รวมถึงฝนตกหนักในประเทศไต้หวัน ซึ่งทางสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของไต้หวัน ได้ยกเลิกการประกาศเตือนภัยอันเนื่องจากพายุไต้ฝุ่น    “ป้าหม่า” แล้ว
   
ส่วนที่ประเทศญี่ปุ่น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น แจ้งว่า พายุไต้ฝุ่น    “เมอโลร์” ซึ่งมีความเร็วลม 252 กม./ชม.

กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะมินามิ ไดโตะ ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของญี่ปุ่น และอาจจะขึ้นฝั่งเกาะฮอนชูของญี่ปุ่นในวันพฤหัสบดีที่ 8 ต.ค. นี้ จึงขอเตือนประชาชนให้ระวังกระแส ลมแรง และฝนตกหนัก รวมถึงคลื่นลมในทะเลสูงถึง 9 เมตร สำหรับชื่อ “เมอโลร์” นั้นเป็นภาษามาเลย์ หมายถึงดอกมะลิ

ขณะเดียวกันที่ประเทศอินเดีย เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาทุกข์ต้องใช้เฮลิคอป เตอร์และเรือเป็นพาหนะในการเดินทางเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในรัฐทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย

ซึ่งมีผู้เสียชีวิตรวมแล้วอย่างน้อย 280 ศพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐกรณาฏกะ รัฐอานธรประเทศ และรัฐมหาราษฏระ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 17 ล้านคน และไร้ที่อยู่อาศัย 1.5 ล้านคน เจ้าหน้าที่ต้องมุ่งเน้นไปที่ทีมแพทย์และพยาบาลนำเครื่องเวชภัณฑ์ไปช่วยเหลือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาดตามมา
   
ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเกิดแผ่นดิน ไหวรุนแรง 7.6 ริคเตอร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย

เจ้าหน้าที่กาชาดเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจสูงถึง 3,000 ศพ แม้ทางสำนักงานบริหารจัดการพิบัติภัยแห่งชาติของอินโดนีเซีย แจ้งว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว 704 ศพ และสูญหายอีก 295 คน บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย 170,000-200,000 หลังคาเรือน ซึ่งความช่วยเหลือจากนานาชาติก็กำลังมุ่งหน้ามาสู่พื้นที่ประสบภัยธรรมชาติครั้งนี้แล้ว
   
ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทย อีกหลายจังหวัดยังระทม น้ำท่วมขังสูง เจ้าหน้าที่กำลังเร่งเข้าไปให้การช่วยเหลือ

อาทิ จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำเจ้าพระยาไหลบ่าเข้าท่วม 7 อำเภอ ประกอบด้วย อ.บางบาล อ.พระนครศรีอยุธยา ในตลาดน้ำวัดท่าการ้อง น้ำเอ่อรอบทั่วตลาด อ.บางปะอิน อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.บางไทร และ อ.มหา ราช แต่ อ.ผักไห่ อ.เสนา และ อ.บางบาล น้ำท่วมหนักสุด ทางจังหวัดจึงประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติทางธรรมชาติ ส่วน จ.พิษณุ โลก สิงห์บุรี พิจิตร ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ และจ.อุทัยธานี ก็หนักไม่แพ้กัน
   
ที่ จ.ตรัง นายคม ชัยภักดี หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ได้ประกาศ ปิดน้ำตก 6 แห่งอย่างไม่มีกำหนดใน อ.ปะเหลียน ย่านตาขาว และ อ.นาโยง

ประกอบ ด้วยน้ำตกโตนเต๊ะ โตนตก ไพรสวรรค์ สายรุ้ง กะช่อง และน้ำตกลำปลอก เพราะกลัวเหตุประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมเมื่อ เม.ย. 50 ที่น้ำป่าจากยอดเขาบรรทัดไหลบ่าถล่มน้ำตกสายรุ้ง และน้ำตกไพรสวรรค์ ทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิต 38 ศพ
   
ด้าน จ.ลำปาง สมเด็จพระบรม  โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ และศูนย์ช่วยผู้ประสบภัยพิบัติ

โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีความห่วงใยราษฎรผู้ประสบภัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.อ.ทรงศักดิ์ ตะวันแจ้ง ผอ.กองงานพระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพและของพระราชทานมา มอบให้แก่ชาวบ้านที่วัดแม่พริกกลุ่ม หมู่ 5 ต.แม่พริก อ.แม่พริก สร้างความปลาบปลื้มแก่ชาวแม่พริกเป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ร่วมกับ รพ. แม่พริก ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม หมู่ 10 บ้านสันขี้เหล็ก ต.แม่พริก เนื่องจากขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ มีอาการกังวล หวาดผวา นอนไม่ค่อยหลับ เครียดและซึมเศร้า แม้ระดับน้ำในลำห้วยแม่พริกจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้วก็ตาม
   
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า หากช่วงนี้ยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องอีก อาจทำให้น้ำท่วม ฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากใน 22 จังหวัด

คือ ภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ และภาคตะวันออก ได้แก่ จ.กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง สตูล ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และ จ.นราธิวาส และอีก 9 จังหวัดให้ระวังน้ำล้นตลิ่ง มี จ.ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร จึงประสานให้ 31 จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมตัวรับมือไว้ล่วงหน้า
   
ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากกรมอุตุฯ ว่าพายุป้าหม่าคงไม่ถึงประเทศไทย

เพราะได้ ย้อนกลับไปประเทศฟิลิปปินส์อีกรอบ แต่ให้เราระวังพายุลูกใหม่ชื่อ “มะลิ” ที่จะผ่านประเทศไทย แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นเมื่อไร ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ไทยเราอยู่ระหว่างการเจรจาการค้าข้าวและการช่วยเหลือกับฟิลิปปินส์ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป ทางกองทัพเลยช่วยเหลือ อินโดนีเซียไปก่อน เพราะปัญหาแผ่นดินไหวนั้นหนักมาก ส่วน นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทานยืนยันว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาปีนี้ แม้จะส่งผลต่อพื้นที่ลุ่มต่ำบ้าง แต่จะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงเหมือนปี 2549 อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบต่อไป.