ซํ้ารอยพ่อโจเซฟมีทายาทถึง4คนเมียมึนไม่รู้เรื่อง
หนังสือพิมพ์เฮอรัลด์ ซัน ของเมืองเมลเบิร์นรายงานข่าวพิเศษเรื่องพ่อข่มขืนลูกสาวในไส้ของตัวเองนานถึง 30 ปี ตั้งแต่อายุ 11 ปี จนมีลูกด้วยกัน 4 คน แต่เสียชีวิตไปหนึ่ง คล้ายคดีพ่อหื่นกาม “โจเซฟ ฟริตเซล” แห่งออสเตรียที่ก่อเหตุบัดสีกักขังและข่มขืนลูกสาวตัวเอง ด้านตำรวจรัฐวิกตอเรียปฏิเสธที่จะยืนยันข่าวนี้ระบุเป็นคำสั่งศาล ห้ามเผยแพร่รายละเอียดของคดี ซึ่งกำลังจะขึ้นสู่กระบวนการพิจารณาคดีของศาลในเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ ยังเตรียมนำผลตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์สายเลือดเป็นหลักฐานสำคัญด้วย โดนตั้งข้อหาแล้ว 13 กระทงด้วยกัน ขณะที่เมียบอกไม่รู้เรื่องอะไร อ้างบ้านใหญ่แถมผัวขี้เมา ส่วนลูกสาวบอกเพียงไปเจอผู้ชายในผับเท่านั้น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมือง เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ว่า หนังสือพิมพ์เฮอรัลด์ ซัน ของเมืองเมลเบิร์น ฉบับวันพฤหัสบดีรายงานข่าวพิเศษเรื่องพ่อข่มขืนลูกสาวของตัวเองทุกวันเป็นระยะเวลานานถึง 30 ปี จนกระทั่งมีลูกด้วยกันถึง 4 คน ซึ่งก็คล้ายกับกรณีพ่อข่มขืนลูกที่ประเทศออสเตรียของนายโจเซฟ ฟริตเซล โดยระบุด้วยว่า พ่อหื่นกามชาวออสเตรเลียคนนี้อายุประมาณ 60 ปี เริ่มลงมือกระทำอนาจารทางเพศกับลูกสาวของตัวเองมาตั้งแต่ปี 2513 ขณะที่ลูกสาวมีอายุแค่ 11 ขวบเท่านั้น แล้วก็สร้างตราบาปเช่นนั้นมาเรื่อยจนกระทั่งปี 2550 อย่างไรก็ตาม ตำรวจรัฐวิกตอเรียปฏิเสธที่จะยืนยันในรายละเอียดของคดีนี้ โดยอ้างว่า คดีกำลังอยู่ภายใต้คำสั่งศาลที่ห้ามรายงานเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดีและห้ามเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับผู้เสียหาย
หนังสือพิมพ์เฮอรัลด์ ซัน รายงานต่อไปว่า ลูกสาวถูกคุมขังคล้ายกับนักโทษอยู่ในบ้านพักของครอบครัว ห่างจากเมืองเมลเบิร์นไปทางทิศตะวันออก 100 กม. โดยไม่ได้ให้รายละเอียดอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ แต่สื่อมวลชนท้องถิ่นก็ได้นำเสนอข่าวเปรียบเทียบคล้ายกับกรณีของนายโจเซฟ ฟริตเซล แห่งประเทศออสเตรียที่เพิ่งจะถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิตเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โทษฐานกักขังลูกสาวตัวเองเป็นทาสบำเรอกามนานถึง 24 ปี ภายในห้องใต้ถุนบ้านที่คับแคบ ไม่มีหน้าต่าง และยังต้องฆ่าลูก 1 คนในจำนวน 7 คนที่เขามีกับลูกสาวคนนี้
อย่างไรก็ตาม เมียของผู้ถูกกล่าวหาซึ่งก็คือแม่ของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ได้ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการทำอนาจารทางเพศ กับลูกสาวตัวเอง เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านและเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ก็ไม่ได้สังเกตเห็นพฤติกรรม ผิดแปลกน่าสงสัยของพ่อหื่นกามรายนี้ โดยเมียของเขายอมรับแต่เพียงว่า พวกเราอาศัยอยู่ใน บ้านหลังใหญ่ จึงไม่รู้เรื่องอะไร ส่วนตัวเขาก็เป็นคนปากจัด ชอบดื่มเหล้าเมาเป็นประจำ และขี้โมโห ซึ่งเธอเองก็ไม่สงสัยเลยว่าเขาจะเป็นคนทำกับลูกสาวในไส้ได้ลงคอ ขณะที่นายจอห์น บรัมบี นายกรัฐมนตรีของรัฐวิกตอเรีย กล่าวคดีนี้จะใช้กฎหมายดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ แต่ก็สงสัยอยู่เช่นกันว่า ทำไมถึงไม่มีใครจับได้ตั้งแต่ต้น
ตำรวจรัฐวิกตอเรียจะนำหลักฐานการตรวจ ดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์สายเลือดของลูก 4 คนที่เกิดกับลูกสาว เป็นหลักฐานสำคัญในการพิจารณาคดีในศาลในเดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้ โดยลูกทั้ง 4 คนนั้นต่างก็เกิดในโรงพยาบาลใหญ่ในเมืองเมลเบิร์น แต่เป็นที่น่าสงสารว่าทุกคนต่างมีความพิการมาตั้งแต่เกิด และที่สำคัญหนึ่งในนั้นเป็นทารกเพศหญิง ซึ่งเสียชีวิตเพราะปัญหาด้านสุขภาพ แม่ของลูกสาวยังบอกอีกว่า ลูกสาวปิดปากเงียบมาตลอดว่าใครเป็นพ่อของเด็ก บอกแต่เพียงว่า ไปเจอผู้ชายในผับเท่านั้น
หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายเข้าแจ้งความกับตำรวจเมื่อปี 2548 หลังจากที่เพื่อนบ้านคนหนึ่งขอร้องให้เหยื่อเข้าแจ้งความกับตำรวจ แต่ต่อมาเพื่อนบ้านคนนี้ไม่ยอมให้ความร่วมมือใด ๆ อีกเลย อ้างว่า กลัวจะไม่ได้รับความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว เพื่อนบ้านคน นี้ซึ่งเป็นผู้หญิงยอมมาให้การกับตำรวจ ซึ่งทางตำรวจก็นำตัวอย่างดีเอ็นเอของพ่อไปตรวจสอบพิสูจน์สายเลือด และตั้งข้อหากระทำอนาจารทางเพศกับลูกสาวตัวเองเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
ขณะที่หนังสือพิมพ์อีกฉบับหนึ่งชื่อ ดิ เอจ รายงานว่า ชายผู้นี้โดนตั้งข้อหาในตอนแรก 83 กระทงด้วยกัน แต่ต่อมาลดเหลือ 13 กระทง เช่น การร่วมประเวณีระหว่างผู้ใกล้ชิดทางพันธุกรรมอย่างมาก 5 กระทง ข่มขืนกระทำชำเรา 5 กระทง และกระทำอนาจารทางเพศกับผู้เยาว์ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี 2 กระทง และอีก 1 กระทงนั้น รายงานข่าวไม่เปิดเผย ขณะนี้ชายผู้นี้ถูก คุมขังอยู่ระหว่างรอการพิจารณาคดีของศาล ซึ่งนัดไต่สวนในเดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้ ส่วนลูกสาวผู้เสียหายและลูก ๆ ของเธออยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่รัฐวิกตอเรีย.