พ่อแม่แห่โลงลูกสาวร้องผู้ว่าฯรื้อคดีดับ!

"สั่งรื้อคดีใหม่"


พ่อแม่แห่โลงลูกสาววัย 17 ร้องผวจ.ถึงศาลากลางจังหวัดเลย หลังตายปริศนาแต่ตร.ยืนยันเป็นอุบัติเหตุ ผวจ.สั่งผบก.ภ.เลยรื้อคดีขึ้นมาใหม่ สร้างความพอใจแก่พ่อแม่และชาวบ้าน

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 4 ก.ย.ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเลย มีชาวบ้านบ้านน้ำค้อใหญ่ ต.ทรายชาว อ.วังสะพุง จ.เลย แต่งกายชุดดำประมาณ 100 กว่าคน นำโดยนายชำนาญ กรุณา อายุ 69 ปี สมาชิกอบต.ทรายขาว พร้อมด้วยนายชุน พรมวัน อายุ 40 ปี นางแสงจันทร์ พรมวัน อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 12 บ้านน้ำค้อ อ.วังสะพุง จ.เลย นำโลงศพน.ส.อรสา พรมวัน อายุ 17 ปี ลูกสาว มาตั้งประท้วงที่หน้าศาลากลางจังหวัด โดยมีนายสำเริง เชื้อชวลิต ผวจ.เลย และพล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบก.ภ.เลย นำกำลังเจ้าหน้าที่มาต้อนรับ

นายชุน กล่าวว่า ลูกสาวเป็นนักเรียนอยู่โรงเรียนภูหลวงวิทยา อ.ภูหลวง ชั้น ม.5/1 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์จังหวัดขอนแก่น ซึ่งตำรวจสภ.อ.ภูหลวง เจ้าของคดี คือ ร.ต.ต.อมรเทพ ดีนาง ร้อยเวร สอบสวนคดีแล้วลงบันทึกประจำวันว่า เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางจราจร แต่เป็นที่น่าสงสัยว่าลูกสาวน่าจะถูกฆ่าข่มขืน เพราะตามลำตัวมีรอยช้ำหลายแห่ง โดยเฉพาะท้ายทอย และหมอโรงพยาบาลที่ขอนแก่นบอกว่า ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต หลังจากลูกตายได้ไปขอแจ้งความเพิ่มเติมกับตำรวจเจ้าของคดี แต่ตำรวจเจ้าของคดียังยืนยันว่าตายเพราะอุบัติเหตุ ตนและญาติพี่น้องเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงนำศพลูกสาวมาร้องขอความเป็นธรรมกับผวจ.ในวันนี้


"ตร.ยัน เป็นอุบัติเหตุ แต่แพทย์วินิจฉัยทำร้ายร่างกาย"


นายชุน กล่าวอีกว่า ช่วงเกิดเหตุตนไม่อยู่บ้าน ออกไปขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ที่กรุงเทพฯ กลับมาบ้านเมื่อทราบข่าวจากญาติที่แจ้งให้ทราบ จากที่ได้สอบถามทราบว่าวันที่ 12 ส.ค.ลูกสาวพร้อมกับเพื่อนนักเรียนด้วยกัน กินเลี้ยงอยู่ที่บ้านระหว่างเพื่อนนักเรียนชายหญิงจำนวน 8 คน ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ต่อมาเวลา 18.30 น.จึงพากันขี่รถจักรยานยนต์เพื่อไปขายดอกไม้ในวันแม่ ในการจัดกิจกรรมของโรงเรียน และไปขายต่อที่หน้าอำเภอภูหลวงและไม่กลับมาบ้านทั้งคืน

นายชุน กล่าวต่อว่า รุ่งเช้าวันที่ 12 ส.ค.มีคนมาพบลูกสาวนอนสลบอยู่ริมถนนสายบ้านหนองอีเก้ง บ้านน้ำค้อ ห่างจากโรงเรียนภูหลวงวิทยาประมาณ 300 เมตร ตอนนั้นยังไม่เสียชีวิต และมีรถจักรยานยนต์ของลูกสาวล้มอยู่ ต่อมามีตำรวจจราจรทราบเหตุได้ไปดูพร้อมกับแจ้งญาติทราบ แล้วนำตัวลูกสาวส่งรักษาร.พ.ภูหลวง ต่อมาญาติขอเอาตัวส่งรักษาที่ร.พ.เมืองเลยราม เนื่องจากอาการสาหัสมากพูดไม่ได้ ทางร.พ.ภูหลวงตรวจและเอกซเรย์พบว่า มีบาดแผล ตับแตก ม้ามแตก ลิ้นฉีก เลือดคั่งในสมอง ไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุ แต่เนื่องจากร.พ.เครื่องมือไม่พอ พวกตนจึงนำลูกสาวไปรักษาที่ร.พ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น กระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ก.ย. จึงนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดป่านบ้านน้ำค้อ และไปแจ้งความตำรวจเจ้าของคดี แต่ก็ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ


"ร้องความเป็นธรรม"


นายชุน กล่าวด้วยว่า เมื่อตำรวจไม่รับแจ้งความเพิ่มเติม เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงร่วมกับญาติพี่น้องและชาวบ้านนำศพลูกสาวเดินทางมาศาลากลางจังหวัดเลย ขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดเลยเพื่อขอความเป็นธรรม ต้องการให้ตำรวจรื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมาใหม่ เพื่อต้องการทราบว่าลูกสาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตามที่ร้อยเวรระบุไว้หรือไม่ หรือเกิดจากการถูกข่มขืนและฆ่ากันแน่ โดยทางผวจ.รับที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ โดยมอบหมายพล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบก.ภ.เลย ดำเนินการเร่งด่วน โดยผจว.ขอให้ส่งศพผู้ตายไปผ่าพิสูจน์ให้ละเดียดอีกครั้งหนึ่ง

ต่อมาพล.ต.ต.ธีระศักดิ์ วิทยุด่วนเรียกตัวพ.ต.อ.อนันตชัย สุขา ผกกก.สภ.ภูหลวง มาพบ สั่งการต่อหน้าชาวบ้านให้รื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมาใหม่ตั้งแต่วันเกิดเหตุจนเสียชีวิต โดยมอบหมายพ.ต.อ.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รองผบก.ภ.เลย เป็นประธานการสอบสวน และสั่งการตำรวจชุดสืบสวนเฉพาะกิจกองกำกับร่วมสอบสวนครั้งนี้ด้วย ซึ่งพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตและชาวบ้านที่มาก็พอใจ นำศพกลับไปที่วัดป่าบ้านนาค้อ เพื่อให้ตำรวจส่งไปผ่าพิสูจน์ต่อไป


"ตามหาทั่ว แต่ไม่พบ"


วันเดียวกันเมื่อเวลา 10.00 น.นางศุธินี อรุณลักษณ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/25 ถ.สิงหวัฒน์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เข้าแจ้งความต่อพ.ต.ท.สุชาติ โสรัจจ์ รองผกก.(สส.) พ.ต.ท.กิตติพงษ์ นิภาพร สว.สส. สภ.อ.เมืองพิษณุโลก ว่า ด.ญ.ณัฐชญา อรุณลักษณ์ หรือน้องทราย อายุ 14 ปี ลูกสาว เรียนอยู่ชั้นม.2โรงเรียนพุทธชินราช ต.ในเมือง หายตัวไปขณะไปเรียนหนังสือ

จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวไปเรียนหนังสือตามปกติ โดยนั่งรถรอบเมืองจากปากซอยหน้าบ้าน ส่วนมารดาออกไปทำงานจนกระทั่งเย็นกลับมาบ้าน ไม่พบลูกสาวกลับมาจากเรียนหนังสือ ตอนแรกคิดว่าทำกิจกรรมอยู่ที่โรงเรียน กระทั่งมืดค่ำก็ยังไม่กลับมา จึงไปสอบถามที่โรงเรียนแต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด โดยครูปล่อยนักเรียนกลับบ้านตามปกติ ส่วนกิจกรรมที่ห้องลูกสาวเรียนอยู่ก็ไม่มี จึงโทร.ไปสอบถามตามบ้านญาติพี่น้องไม่มีใครทราบ หรือพบเห็นลูกสาวแต่อย่างใด จากนั้นพยายามติดต่อคนที่รู้จักไปสอบถามตามที่ต่างๆ ที่คิดว่าลูกสาวจะไปเที่ยวหาตามบ้านเพื่อน แต่ก็ไม่พบอีกเช่นเคย


"แจ้งความตามหาลูกสาว"


นางศุธินี กล่าวต่อว่า ตลอดเวลาได้ติดตามหาลูกสาวทุกวัน แต่ก็ไร้วี่แววจะเจอตัว ต่อมาไปสอบถามที่บ้าน 140/1 ม.6 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งมีเพื่อนสนิทอยู่ห้องเดียวกัน ปรากฏว่าไม่ทราบอีกเช่นกัน โดยบอกว่าเจอกันครั้งสุดท้ายช่วงเย็นวันที่ศุกร์ที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากโรงเรียนเลิกก็แยกกันกลับบ้าน ปกติเวลาอยู่ที่โรงเรียนจะไปไหนด้วยกันตลอดเวลา เพราะเป็นเพื่อนสนิทสนมกันมาก หลังจากทราบข่าว ทางเพื่อนช่วยกันสอบถามตามบ้านเพื่อนอีก แต่ก็ไม่มีใครพบเห็น

หลังเวลาผ่านพ้นไปหลายวันเกรงว่าลูกสาวจะได้รับอันตราย จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ช่วยเหลือติดตามตัวลูกสาวอีกหนทางหนึ่ง เนื่องจากหมดปัญญาเพราะไม่ทราบว่าถูกหลอกไปหรือเป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะตั้งแต่หายตัวไปก็ไม่เคยติดต่อกลับมาบ้านอีกเลย


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์