เพื่อนบ้านลวงเด็กม.3รุมโทรม9-1สิ้นใจรพ.

สลดเด็กหญิงวัย 14 ปี ถูกเพื่อนบ้านลวงไปรุมโทรม 9 ต่อ 1 สลบเหมือด แม่รู้พาเข้าแจ้งความก่อนส่งโรงพยาบาลแต่ไม่รอด เผยเคยผ่าตัดเนื้องอกที่ปากมดลูกตั้งแต่ 9 ขวบ ตำรวจรู้ตัวคนร้ายหมดแล้ว เตรียมล่าตัวมาดำเนินคดี

เหตุสลดนักเรียนหญิง ม.3 ถูกเพื่อนบ้านลวงไปรุมโทรมจนเสียชีวิต เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 กันยายน พ.ต.ท.เกียรติคุณ พิญญะคุณ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สภ.อ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ว่า มีเด็กนักเรียนหญิงถูกข่มขืนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวอายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตต้องรอผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวช

จากการสอบปากคำญาติทราบว่า เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา มารดาของเด็กหญิงรายนี้ ได้นำลูกสาวเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.บุญลือ ดอกบัว สวส.สภ.อ.อู่ทอง ให้ดำเนินคดีกับนายวิโรจน์ มากระจัน อายุ 25 ปี และนายบา ไม่ทราบนามสกุล อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ในข้อหาพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี และกระทำชำเราจนได้รับบาดเจ็บ

ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นนั้น เด็กหญิงให้ปากคำตำรวจ สภ.อ.อู่ทอง ไว้ในตอนเข้าแจ้งความว่า ช่วงเย็นวันที่ 23 สิงหาคม ได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายเบิร์ด และ ด.ญ.ตี้ ซึ่งเป็นเพื่อนกันไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ตลาด อ.อู่ทอง แต่ตอนเดินทางกลับได้พบกับนายวิโรจน์ และนายบา ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน โดยทั้งคู่อาสาจะไปส่งที่บ้าน จึงยินยอมไปด้วยเนื่องจากเห็นว่ารู้จักกัน ไม่น่าจะคิดร้าย

คำให้การของเด็กหญิงเคราะห์ร้ายยังระบุต่อว่า เมื่อซ้อนรถจักรยานยนต์ของนายวิโรจน์ กับนายบา มาถึงหน้าโรงเรียนวัดปทุมสราวาส หมู่ 2 ต.กระจัน อ.อู่ทอง ทั้งสองคนก็เริ่มแสดงตัวเป็นคนร้าย โดยใช้กำลังฉุดกระชากลงจากรถ และต่อยท้องจนหมดแรงจะดิ้นรน จากนั้นจึงลากเข้าไปข่มขืนที่ป่าละเมาะหลังโรงเรียน จนสำเร็จความใคร่คนละ 1 ครั้ง ต่อมามีพรรคพวกของนายวิโรจน์อีก 7 คน ตามมาข่มขืนซ้ำจนครบทุกคน

ขณะที่เด็กหญิงเคราะห์ร้ายร้องขอความช่วยเหลือด้วยความเจ็บปวด แต่ทั้งหมดก็ไม่ยอมลดละ หลังจากที่ทั้งหมดข่มขืนจนครบแล้วต่างคนต่างหลบหนีไป ทิ้งให้นอนหมดสติที่ป่าละเมาะ ต่อมาเมื่อได้สติเด็กหญิงเคราะห์ร้ายจึงเดินล้มลุกคลุกคลานกลับบ้าน กระทั่งมารดาทราบเรื่องตอนหลัง จึงพาส่งโรงพยาบาลอู่ทอง พร้อมกับพาเข้าแจ้งความ

ส่วนมารดาของเด็กหญิงรายนี้ กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนมีฐานะยากจน ขณะเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน เพราะต้องออกไปรับจ้างขายของต่างจังหวัด และต้องนอนค้างคืนครั้งละหลายคืน จึงฝากให้น้องสาวช่วยดูแลลูกแทน

ลูกสาวเป็นเด็กที่รูปร่างหน้าตาดี ตั้งใจเรียน ไม่เคยเกเร ขอให้ตำรวจลากตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้ เพราะการกระทำของพวกนี้ป่าเถื่อนมาก ถ้ายังปล่อยไว้ก็จะไปทำกับคนอื่นอีก" มารดาของเด็กหญิงเคราะห์ร้ายกล่าว และเปิดเผยด้วยว่า ลูกสาวเป็นเนื้องอกที่ปากมดลูกตั้งแต่อายุประมาณ 9 ขวบ จนต้องตัดเนื้อร้ายทิ้ง

ด้านน้าสาวของเด็กหญิงรายนี้ กล่าวว่า หลานสาวเคยเล่าให้ฟังว่าได้คบหาเป็นแฟนกับนายเบิร์ด และเคยพานายเบิร์ดมาแนะนำให้รู้จัก โดยบอกว่าเมื่อเรียนจบมีงานทำจะแต่งงานอยู่กินกัน และหาเงินมารักษาแม่ที่ป่วยเป็นโรคประจำตัวหลายโรค พร้อมทั้งจะปลูกบ้านใหม่ให้แม่ ตนก็ไม่ได้ห้ามปรามและกีดกันแต่อย่างใด เพียงแต่คอยเตือนว่าคบเพื่อนให้รู้จักระวัง ซึ่งที่ผ่านมานายเบิร์ดได้ขออนุญาตพาหลานสาวไปเที่ยวหลายครั้ง

"เมื่อคืนวันที่ 23 สิงหาคม เวลาประมาณ 19.30 น.นายเบิร์ด และ ด.ญ.ตี้ ได้ขี่จักรยานยนต์มารับหลาน บอกว่าจะพาไปกินก๋วยเตี๋ยวแล้วจะพามาส่ง ฉันไม่คิดว่าเหตุร้ายจะเกิดกับหลานจึงอนุญาตให้ไป และเมื่อเกิดเหตุแล้วหลานก็ไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง จนฉันสังเกตเห็นอาการผิดปกติ จึงพยายามเค้นถามจนทราบเรื่องแล้วพาเข้าแจ้งความกับตำรวจ พร้อมกับนำส่งโรงพยาบาลอู่ทอง แพทย์ให้ยากินแล้วอนุญาตให้กลับบ้าน แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช เมื่อวันที่ 1 กันยายน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากมีเลือดออกจากช่องคลอดไม่หยุด เสียเลือดมาก และมีเลือดคั่งในสมอง" น้าสาวซึ่งเป็นผู้ดูแลเด็กหญิงรายนี้ กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.บุญลือ สารวัตรเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้นอกจากจะรู้ตัวคนก่อเหตุคือนายวิโรจน์ และนายบา แล้ว ยังรู้ตัวกลุ่มวัยรุ่นอีก 7 คน ที่ตามมาข่มขืนทีหลังด้วย ส่วนนายเบิร์ด และ ด.ญ.ตี้ ต้องสอบปากคำเป็นพยานก่อน จากนั้นจะออกหมายจับนายวิโรจน์ และนายบา รวมทั้งพรรคพวกอีก 7 คนทันที

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ต้องส่งไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช ถ้าผลออกมาว่าเสียชีวิตเพราะถูกข่มขืน นายวิโรจน์พร้อมพวกก็จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก