หมายจ่อพท.มนัส ไขปริศนา วงจรไฮเทคที่ยึดได้

จ่อคิวเรียกสอบ"พันโทมนัส"หลังคอมมานโดจู่โจมบุกค้น 5 จุดที่สุพรรณบุรี เผยมีหลักฐานสำคัญเป็นวงจรไฮเทคที่เจอในบ้านพันโทมนัส ส่งไปให้เทคโนโลยีพระจอมเกล้าตรวจสอบว่าเป็นวงจรอะไรแน่ เกี่ยวข้องกับรีโมตคาร์บอมบ์หรือไม่ ส่วนเศษทรายกับกระสอบก็ส่งพฐ.พิสูจน์ว่าเหมือนกับที่พบในเก๋งแดวูหรือเปล่า ตร.ได้ฤกษ์วันนี้ออกหมายจับ 4 ทหารคดีคาร์บอมบ์ ไล่มาตั้งแต่พลตรี"พ" พันเอก"ส" พันโท"ม" และจ่ายักษ์

จากคดีตำรวจจับกุมคาร์บอมบ์ลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการจับกุมร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ ทหารสังกัดกอ.รมน.ได้คารถเก๋งแดวูบรรทุกระเบิดมหึมา ซึ่งแนวทางการสืบสวนของตำรวจพบว่ามีนายหทารหลายคนเกี่ยวข้องด้วย มีพลตรี "พ" พันเอก "ส" พันโท "ม" เป็นทั้งคนสั่งการและคนกดรีโมตระเบิด แต่แผนล่มจนถูกจับกุมดังกล่าว นอกจากนี้ยังติดตามตัวจ.ส.อ.ชาคริต จันทระ หรือจ่ายักษ์ ผู้ต้องสงสัยอีกรายด้วย ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา คอมมานโดกองปราบฯ บุกค้น 5 จุดหาหลักฐานคดีคาร์บอมบ์ที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี มีบ้านพ.ท.มนัส สุขประเสริฐ ช่วยราชการกอ.รมน. ร่วมอยู่ด้วย ในเบื้องต้นพบภาพถ่ายคู่กับพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี และยึดหลักฐานหลายอย่าง รถบังคับวิทยุเด็กเล่น กระสอบอาหารสัตว์คล้ายกระสอบในรถแดวู รวมทั้งเชือกตัดตอนกิ่งไม้ที่ผูกแบบเดียวกับผูกกระสอบดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 ก.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ พร้อมด้วยคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ได้เดินทางออกจากบ้านพัก ซ.จรัญสนิทวงศ์ 69 มุ่งหน้าไปที่ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม หลังจากที่เก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านพักในช่วงเช้า โดยมีการคุ้มครองจากหน่วยรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการจัดรูปขบวนเพื่ออารักขาแบบเดิม โดยใช้รถเบนซ์กันกระสุนสีดำ 2 คัน ซึ่งนายกฯ และภริยาได้นั่งอยู่ในรถคันแรก ทะเบียน ษห-3836 กทม. ส่วนรถเบนซ์เงา ทะเบียน ษห 3834 กทม.อยู่คันหลัง ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางโดยไม่ใช้ทางปกติที่ใช้อยู่ประจำ

ทั้งนี้ เมื่อนายกฯ และภริยาเดินทางมาถึงห้างสรรพสินค้าดังกล่าว เพื่อช็อปปิ้งและรับประทานอาหาร ได้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแลจำนวนมาก ร่วมกับหน่วยรักษาความปลอดภัยของนายกฯ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยได้กันสื่อมวลชนไม่ให้ติดตาม เพราะเกรงว่าจะทำให้กลุ่มต่อต้านทราบความเคลื่อนไหว และทำให้เกิดความวุ่นวายได้

ที่กองปราบปราม พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนของคดีดังกล่าว เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า คงไม่มีการเรียกพนักงานสอบสวนมาประชุมแต่อย่างใด แต่ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงผลการตรวจสอบวัตถุพยานต่างๆ ที่รวบรวมมาได้เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขออนุญาตออกหมายจับ โดยในวันที่ 4 ก.ย. เวลา 10.00 น.ตนจะเรียกประชุมพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อพิจารณาเรื่องการขอออกหมายจับ โดยได้วางแนวทางไว้ 2 ทาง คือ 1.ทำหนังสือเพื่อเสนอยื่นต่อศาลโดยตรง 2.ยื่นหนังสือถึงต้นสังกัดของผู้ต้องหา ซึ่งเรื่องนี้ต้องดูความเหมาะสมด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องหาที่จะถูกออกหมายเรียกนั้นเป็นนายทหารที่มีชื่อตรงตามที่เคยเป็นข่าวหรือไม่ พล.ต.ท.มนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ขอเปิดเผย ต้องให้ทางตำรวจขยายผลการสอบสวนให้ชัดเจน และมีหลักฐานที่สมบูรณ์กว่านี้จึงสามารถตอบได้ ส่วนในคดีนี้จะมีพลเรือนร่วมด้วยหรือไม่นั้น เท่าที่ตรวจสอบถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ด้านพล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.กล่าวว่า ช่วงเช้าวันที่ 4 ก.ย.นี้ จะมีการประชุมเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม นอกจากนี้ก็จะมีการเบิกตัวร.ท.ธวัชชัยมาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย เบื้องต้นมีผู้ต้องสงสัยที่จะต้องถูกดำเนินคดีเป็นทหารจำนวน 4 นาย ส่วนเรื่องที่ญาติของร.ท.ธวัชชัยร้องขอให้ผู้ต้องหาไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการป่วย เนื่องจากเป็นโรคธัยรอยด์เป็นพิษนั้นว่ายังไม่ได้มีการประสานมาเพื่อจะขอนำตัวออกไปพบแพทย์ ตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อเข้ามา ซึ่งหากมีก็ต้องพิจารณาก่อนตามความจำเป็น แต่เท่าที่ดูตอนนี้ก็เห็นเป็นปกติดี

ต่อมาเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน นายวิสุทธิ์ สะไบทอง อายุ 55 ปี คู่เขยของร.ท.ธวัชชัย พร้อมญาติจำนวน 4 คน ได้เดินทางมาเข้าเยี่ยม ร.ท.ธวัชชัย โดยใช้เวลาอยู่ประมาณ 40 นาที จึงได้ออกมาเปิดเผยว่า เดินทางมาจาก จ.ราชบุรี เพื่อเยี่ยมร.ท.ธวัชชัย ก็เห็นว่าไม่มีอาการป่วยอะไร ส่วนภรรยาร.ท.ธวัชชัยไม่มาด้วย เพราะไม่สบายเนื่องจากเครียดมาก ตนจึงให้กำลังใจบอกให้ทำตัวตามสบาย อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องของคดีก็ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน

ด้านนายสิริชัย ภักดี ทนายความ กล่าวว่า วันนี้ร.ท.ธวัชชัยไม่ได้ไปพบแพทย์ เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการนัดแพทย์ในวันที่ 7 ก.ย. ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นจะอยู่ในการควบคุมตัวของทางทหารแล้ว ฝ่ายทหารที่ดูแลก็จะเป็นผู้ดำเนินการต่อไป

ต่อมาเวลา 14.30 น. นางสังวรณ์ กลิ่นชะนะ ภรรยาของร.ท.ธวัชชัย เดินทางมาที่กองปราบปราม พร้อมนำเอกสารแถลงการณ์ ฉบับที่ 3 ระบุว่า ตอนที่ร.ท.ธวัชชัยถูกจับกุมและคุมตัวไปสอบสวนที่กองปราบปรามทันที ภายหลังจากการสอบปากคำก็ปรากฏเอกสารบันทึกการจับกุมว่าพบระเบิดจำนวนมาก โดยจากการพูดคุยกับร.ท.ธวัชชัยระบุว่าเมื่อลงจากรถยนต์แดวูแล้วตำรวจก็จับกุมตัวไปที่กองปราบปรามทันที การเปิดท้ายรถยนต์แดวูนั้นร.ท.ธวัชชัยไม่ได้ยืนดูอยู่ด้วย

ต่อมาพล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รองผบช.น. ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน เดินทางเข้ามาตรวจสำนวน จากนั้นเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมนั้นว่า ในวันที่ 4 ก.ย.นี้ทางพนักงานสอบสวนจะทำหนังสือไปยังต้นสังกัดของผู้ต้องสงสัยทั้งหมด เพื่อให้ส่งตัวผู้ใต้สังกัดมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามข้อตกลงกับกระทรวงกลาโหม ให้เป็นไปตามขั้นตอนให้ถูกต้อง

รายงานข่าวเปิดเผยว่า สำหรับหมายเรียกตัวผู้ต้องสงสัยนั้นคาดว่าจะเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหา 4 นาย ประกอบด้วย พลตรี "พ" พันเอก "ส" พันโท "ม" รวมทั้งจ.ส.อ.ชาคริต จันทระ หรือจ่ายักษ์

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า จากการเข้าตรวจค้นบ้านพักของพ.ท.มนัส สุขประเสริฐ ทั้ง 5 จุดที่บ้านพักใน จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นและยึดมาได้เพิ่มเติมนั้น คณะพนักงานสอบสวนเชื่อว่าเป็นหลักฐานที่สำคัญอันเกี่ยวข้องกับคดี โดยเฉพาะเศษชิ้นส่วนของแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งที่เก็บได้นั้นพนักงานสอบสวนส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (เจ้าคุณทหาร) ลาดกระบัง ตรวจสอบแล้ว เพื่อขอให้ตรวจสอบว่าแผงวงจรดังกล่าวเป็นแผงวงจรของคลื่นวิทยุชนิดคลื่นสั้น หรือคลื่นยาว ซึ่งหากเป็นคลื่นยาวก็จะเป็นชนิดที่ใช้ได้กับเครื่องเล่นชนิดใดได้บ้าง เช่นเครื่องบินบังคับหรือรถบังคับระยะไกล อาจจะเชื่อมโยงกับรีโมตในคดีคาร์บอมบ์ โดยหลักฐานชิ้นนี้พบในบ้านของพ.ท.มนัส ซึ่งทำให้พ.ท.มนัสอยู่ในข่ายที่ต้องถูกเรียกตัวมาสอบสวนด้วย

ส่วนของหลักฐานเศษดินและดินทราย ที่ทางเจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมมาได้ ก็ยังถูกนำส่งไปให้เจ้าหน้าที่ของกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยเกษตรฯ ทำการตรวจสอบ เพื่อแยกองค์ประกอบต่างๆ ว่าตรงกับหลักฐานดินและทรายที่บรรจุอยู่ในถุงปุ๋ยท้ายรถยนต์แดวูของกลางหรือไม่ พร้อมกันนี้ก็ยังได้ส่งถุงปุ๋ย และแกลลอนน้ำมันที่เก็บได้ไปทำการตรวจสอบด้วยว่าเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด