ซดต้มยํากุ้งถึงช็อกตาย!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.20 น. วานนี้ (2 ก.ย.)


พ.ต.ท.ภาสกร สนธิกุล สารวัตรเวร สภ.ต.ทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ในห้องเช่าเลขที่ 43/3 ซอยรักชาติอุทิศ ต.กะทู้ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.วิทูรย์ กองสุดใจ รอง ผกก.หน.สภ.ต.ทุ่งทอง ร.ต.อ.ประมวล จ่ายกระโทก รอง สว.สส. นำกำลังและเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รุดไปสอบสวน

พบศพนายชัยสิทธิ์ แก้วท่าชี


อายุ 23 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 126 หมู่ 1 ต.ทรัพย์ทวี อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของห้อง เป็นครูพละอัตราจ้างพิเศษ โรงเรียนกะทู้วิทยา สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีฟ้าขาว กางเกงยีน และสวมถุงเท้าลายแดงดำ นอนตะแคงบนฟูกกลางห้อง ปัสสาวะไหลเปรอะเต็มกางเกง แต่ไม่มีบาดแผลถูกทำร้าย เสียชีวิตมาแล้วไม่เกินครึ่งชั่วโมง โดยมี น.ส.อรอุมา ใจบุญ อายุ 22 ปี แฟนสาว ร่ำไห้อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการตาย ที่สถาบันนิติเวชวิทยา

สอบสวน น.ส.อรอุมา แฟนผู้ตาย


ให้การว่าเพิ่งคบกับนายชัยสิทธิ์ได้ราวเดือนเศษ ก่อนเกิดเหตุ ตอนหัวค่ำไปดูภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์โคลีเซียมพาราไดซ์ ในตัวเมืองภูเก็ต ก่อนจะไปแวะกินข้าวที่ร้านอาหารป่าแห่งหนึ่งย่านถนนปฏิพัทธ์ ต.ตลาดใหญ่ โดยสั่งต้มยำกุ้งใส่เห็ดฟาง กับผัดผักรวมมิตร มากินกับข้าว ซึ่งนายชัยสิทธิ์นั่งซดต้มยำกุ้งอย่างเอร็ดอร่อย จากนั้นไม่นานก็มีอาการมึนหัว แน่นหน้าอก จึงบอกให้ หยุดกินแล้วจ่ายเงิน พากันกลับบ้าน และนายชัยสิทธิ์ ก็ล้มตัวลงนอนทันทีโดยไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า

แฟนครูชะตาขาดให้การต่อว่า


หลังจากนั้นนายชัยสิทธิ์บ่นว่าปวดหัวอย่างหนัก และมีอาการชักกระตุก ตนรีบออกไปตามเพื่อนห้องข้างเคียงมาช่วย พอกลับมาอีกทีก็พบว่านายชัยสิทธิ์ได้เสียชีวิตไปแล้ว ที่ผ่านมานายชัยสิทธิ์เป็นคนแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว และไม่เคยแพ้อาหารใดมาก่อน ไม่รู้ว่าเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด ส่วนตัวคิดว่า สาเหตุอาจมาจากเห็ดฟางที่ใส่ในต้มยำ หรืออาจมีสารพิษบางอย่างในอาหารที่สั่งมากิน

ด้าน พ.ต.ท.ภาสกร สนธิกุล สารวัตรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า


จากการสอบสวนเบื้องต้น ไม่น่าจะเป็นการลอบวางยาพิษในอาหาร อาจเป็นไปได้ว่า นายชัยสิทธิ์ เกิดอาการแพ้เห็ด หรือส่วนผสมอย่างใดอย่างหนึ่งในอาหารที่สั่งมากินอย่างรุนแรง หรืออาจหัวใจวายเฉียบพลัน เป็นเหตุให้เสียชีวิต ต้องรอฟังผลชันสูตรศพจากสถาบันนิติเวชก่อน จึงสามารถสรุปสาเหตุการตายที่แน่ชัดได้

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์